ถ้าต้องมีหูฟังดีๆ "Jabra Elite 5" คือคำตอบที่ใช่ของคนรุ่นใหม่
เราเชื่อว่าในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ตลอดช่วงที่ผ่านมา การมีหูฟัง True Wireless เป็นปัจจัยเสริมที่ 4 5 6 หรือ 7 ก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของใครหลายๆ ไปแล้ว
แน่นอนว่าการมีหูฟัง True Wireless ดีๆ สักแบรนด์ไว้ใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันหูฟังประเภทนี้ก็มีมากมายหลายแบรนด์ให้เราได้เลือกมาใช้งาน (คุณภาพตามกำลังเงินในกระเป๋า) ไล่มาตั้งแต่รุ่นธรรมดาจนถึงรุ่นเรือธงให้เลือกตามประเภทการใช้งาน
หากคุณเป็นคนที่เล่นกับเทคโนโลยีก็ไม่ใช่เรื่องยากครับที่จะหาหูฟังดีๆ ไว้ใช้งานสักคู่ แต่สำหรับหลายๆ คนการเลือกหาหูฟังที่คุ้มค่าในเรื่องราคาและตอบโจทย์การใช้งานไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หูฟัง True Wireless ที่เราจะหยิบมาอยู่ในลิสต์ Sanook Choice วันนี้ น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มองหาคุณสมบัติที่ครบเครื่องและราคาที่เป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์ไปด้วยครับ
True Wireless (TWS) รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Jabra อย่างรุ่น Jabra Elite 5 เป็นหูฟังที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน มีราคาประหยัด แต่ให้คุณสมบัติครบเครื่องทั้งกล่องหูฟังครบเครื่องและยังมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่สวยงามเล็กและมีให้เลือก 2 สีด้วยกัน
เห็นแบบนี้แล้วเราต้องมาดูกันว่าหูฟังรุ่นใหม่นี้จะเป็นอย่างไรและน่าใช้แค่ไหน มาทำความรู้จักน้องเล็กในตระกูล Jabra Elite ในบทความนี้กัน
เริ่มกันที่ส่วนของสเปก Jabra Elite 5 คร่าวๆ แน่นอนว่าจะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้
- ขนาด 20 x 20.54 x 27 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 5 กรัม
- ไมโครโฟน ทั้งหมด 6 ตัว
- ลำโพงเป็นแบบ : Driver 6 มิลลิเมตร
- Codec ของเสียง : Qualcomm AAC, aptX SBC
- Bluetooth Version : 5.2 ต่อเชื่อมได้ 6 อุปกรณ์ และพร้อมกันได้ 2 อุปกรณ์
- กันน้ำ : IP55
- ระบบคำสั่งเสียง : Amazon Alexa, Siri®, Google Assistant
- ระบบตัดเสียงรบกวน : Active Noise Cancelation พร้อมกับระบบ Feed Forward, Feed Backward และ เปิดให้เสียงเข้ามาผ่านระบบ HearThrounght
- แบตเตอรี่ : กล่องชาร์จไฟสูงสุด 30 ชั่วโมง, หูฟังข้างละ 7 ชั่วโมงแบบเปิด ANC, วางชาร์จ 10 นาทีใช้งาน 1 ชั่วโมง
สิ่งที่มีมาให้ในกล่อง
- กล่องเก็บหูฟัง
- หูฟัง Jabra Elite 5
- จุกสำหรับเปลี่ยนขนาด
- สายชาร์จไฟ แบบ USB-C
- คู่มือแบบแผ่น
Design การออกแบบของ Jabra Elite 5 รุ่นใหม่
แม้ Jabra Elite 5 จะเป็นรุ่นเล็กของค่ายแต่ ก็มาพร้อมกับดีไซน์อัจฉริยะ สวมใส่สบาย ตามหลักกายศาสตร์ จึงทำให้สวมใส่สบาย ไม่อึดอัด มาพร้อมจุกซิลิโคน 3 ขนาดให้เลือกตามสรีระ แม้ว่าต้องใส่เป็นเวลานานๆ ก็รู้สึกได้ว่าหูไม่ล้าหรือเจ็บ
เริ่มจากกล่องชาร์จไฟของ Jabra Elite 5 ออกแบบให้จับถือได้ถนัดมือมือไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ทำให้ถือใส่ได้ทุกที่และตัวกล่องนั้นก็มีส่วนประกอบได้แก่ด้านหน้ามีโลโก้ Jabra ถัดมาคือไฟเรืองแสงเพื่อบอกว่ากล่องมีไฟเท่าไหร่ ได้แก่ เขียว = ไฟเต็ม, เหลือง = ไฟอยู่ระดับกลาง, สีแดง = ระดับอ่อนต้องชาร์จไฟ
หันมาด้านหลังจะมีช่องเสียบ USB-C และด้านล่างเป็นสำหรับที่วางชาร์จ Qi แต่ให้ความรู้สึกเหมือนกับ Jabra Elite 7 Series
เปิดฝามาจะพบกับหูฟังเมื่อดึงออกมาจะพบกับขั้วชาร์จไฟของหูฟังด้วยกัน ทั้งนี้ ตัวเคสจะมีแม่เหล็กดูดเก็บหูฟังในตัว
ส่วนตัวหูฟังด้านนอกจะมีไมโครโฟนทั้งหมด 3 ตัวมาพร้อมกับปุ่มกดพร้อมกับโลโก้ Jabra ที่เป็นปุ่มจริงกดได้ง่ายแตะนิดเดียวทำได้ดีกว่าและด้านในจะมีจุกแบบ In-Ear ที่สามารถเปลี่ยนขนาดได้ 4 ขนาดได้แก่ XS, S, M, L และมีเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ได้
การสวมใส่ของ Jabra Elite 5 แน่นอนว่าใส่สบายโค้งรับกับสรีระของใบหู
เมื่อดูรูปร่างกันไปแล้วมาลองใส่กันพบว่าการใส่ง่ายและอยู่ในหู และสามารถเข้ากับหูได้เลยทั้งนี้ Jabra ก็มี Application อย่าง Jabra Sound+ ที่ตรวจจับการตรวจจับในเรื่องของการสวมใส่ได้ทำให้เหมาะกับหูคุณได้มากขึ้น
คุณภาพเสียงและไมโครโฟนรวมๆ ของ Jabra Elite 5
ในเรื่องของหูฟัง Jabra Elite 5 จะมาพร้อมกับ Driver ขนาด 6 มิลลิเมตร อาจจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนักแต่ก็สมตัวกับขนาดของหูฟังที่ออกมาดีไม่น้อย ทั้งนี้ในเรื่องของคุณภาพเสียงถือว่าทำได้ดี เบสและแหลมกำลังที่ดี แต่ถ้าไม่สะใจอาจจะต้องปรับเพิ่มใน Jabra Sound+ ที่หลัง
ส่วนไมโครโฟน 6 ตัวที่ให้เสียงออกมาสนทนาคมชัด โดยมีเสียงรบกวนอยู่บ้างแต่ถือว่าน้อย โดยหลักแล้ว ไมโครโฟน 6 ตัวจะทำงานกับระบบ ANC (Active Noise Cancelation) โดยปรับได้ตามแบบที่คุณต้องการและยังรองรับกับฟีเจอร์ที่ทำให้เข้ากับหูของคุณได้ด้วย และยังมีฟีเจอร์เปิดให้เสียงเข้ามาหรือ HearThrough ก็สามารถปรับระดับได้เช่นเดียวกัน
ฟีเจอร์ของ Jabra Sound+ ทำให้มันเป็นมากกว่าหูฟัง
ส่วนหนึ่งของหูฟังของการตั้งค่าและปรับแต่งหูฟังให้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุดนั่นคือ Software ที่มีชื่อว่า Jabra Sound+ ที่มาพร้อมกับรายละเอียดที่เยอะมากแต่เชื่อว่าคุณได้ปรับใช้แน่นอน จะมีอะไรบ้างมาดูกัน
- การตั้งค่าระบบตัดเสียงรบกวน / HearThrough
- ตั้งต่าคุณภาพรูปแบบของเสียง
- ตั้งค่า Spotify Tag
- ตั้งค่าปุ่มกดที่สามารถตั้งค่าได้อย่างดี
- Update Software
- ปรับเลือกใช้ระบบ Voice Assistant
- เช็น Software เป็นต้น
แบตเตอรี่ - ระบบชาร์จไฟ อึด ทน แต่ไหน? มันใช่ที่กำลังมองหาหรือไม่
สำหรับแบตเตอรี่ของ Jabra Elite 5 สามารถใช้งานได้ยาวนานสุด 30 ชั่วโมงการชาร์จจากกล่อง ส่วนหูฟังเมื่อเปิด ANC สามารถใชงานได้นานสุด 7 ชั่วโมง ถือว่านานอยู่เหมือนกัน ชาร์จไฟเต็มจากกล่องใช้เวลา 180 วินาที
สัมผัสสุนทรียะแห่งรายละเอียดเสียงด้วยลำโพงคู่
ส่วนการชาร์จไฟให้กล่องรองรับทั้ง USB-C และ Wireless Charging แบบ Qi
แชร์ประสบการณ์หลังได้ลองเล่น Jabra Elite 5 อยากรู้มั้ยมันเหมาะกับใคร?
จากที่ได้ทดลองใช้งาน Jabra Elite 5 ถือว่าเป็นหูฟังที่มาแบบครบเครื่องที่มาให้เลือกใช้งานได้นานมากพอสมควร และยังได้ระบบเสียงที่ตอบโจทย์ครบ และไมโครโฟนมาแบบครบทั้ง 6 ตัวให้เสียงที่ดี “เสียงใส คมชัด” ทุกบทสนทนา ที่ช่วยยกระดับคุณภาพเสียงสนทนาให้ชัดใส ไม่ว่าจะเรียนออนไลน์ ประชุม หรือพรีเซนต์สำคัญคือมันทำงานได้ดีมากๆ สามารถมอบประสบการณ์คุยสายที่คมชัดไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม
ดังนั้นส่วนตัวเราเมื่อเทียบกับหูฟังหลายๆ ตัวในตลาดของราคานี้ เลยรู้สึกกว่า Jabra Elite 5 รุ่นใหม่นี้มันเป็นมากกว่าหูฟัง และสามารถเป็นตัวเลือกดีๆ สำหรับคนที่กำลังมองหาหูฟังรุ่นใหม่ไว้ใช้งาน แถมกันน้ำและแบตฯ อึดด้วยกันครับ เห็นแบบนี้หลายคนอยากรู้ว่าราคาเท่าไหร่ เรามาดูกันต่อไปด้านล่างนี้
ราคาเท่าไหร่ หาซื้อที่ไหน
เกริ่นมานานขนาดนี้ ถ้าสนใจแล้วจะไปหาได้ที่ไหน สนนราคาของ Jabra Elite 5 คือ 5,290 บาท มี 2 สี คือ Titanium Black และ สี Gold Beige สามารถเป็นเจ้าของได้ Gadget by RTB, Munkong Gadget, Banana IT, Studio7, 425 Degree, Mercular, Siam Discovery, Central Online, Lazada, Shopee และมีโปรโมชั่น 200 คนแรกแถมเคสแบบ DIY ฟรีด้วยนะ ใครสนใจ จัดเลย!