รีวิว ROG Phone 6 มือถือเล่นเกมรุ่นใหม่ที่สเปกแรงสุด และเย็นสุดๆ

รีวิว ROG Phone 6 มือถือเล่นเกมรุ่นใหม่ที่สเปกแรงสุด และเย็นสุดๆ

รีวิว ROG Phone 6 มือถือเล่นเกมรุ่นใหม่ที่สเปกแรงสุด และเย็นสุดๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลับมาพบกับรีวิวมือถือและ Gadget จากทีม Sanook Hitech อีกครั้ง ในรอบนี้เอาใจคนอยากเล่นเกมตัวจริงกับมือถือ เพื่อคอเกมในตำนานอย่าง ROG Phone 6 Series ที่เรียกว่าจัดเต็ม โดยรอบนี้ทีมได้รับเป็นรุ่นกลางอย่าง ROG Phone 6 สี Phantom Black RAM 16GB / ROM 512GB จะแรงขนาดไหน มารับชมกันเลย

รายละเอียดสเปกเครื่อง ROG Phone 6 / 6 Pro

  • ขนาด : 172.84 x 77.26 x 10.4 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก: 236 กรัม
  • หน้าจอ : ุ6.78 นิ้ว แบบ AMOLED พร้อมกับ Refresh Rate สูงสุด 165Hz สามารปรับได้ทั้ง 60 / 120 / 144 และ 165 Hz ความสว่าง 1,200 nits ใช่กระจก Gorilla Glass Victus
  • ชิปเซ็ต / กราฟิกการ์ด : Snapdragon 8+ Gen 1 / Adreno 730
  • RAM 12GB / 16GB (รุ่น Pro จะได้ RAM 18GB)
  • ความจำในตัว : 256 / 512GB
  • ความจำภายนอก : ไม่รองรับ
  • การเชื่อมต่อไร้สาย : 5G, Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2, GPS, A-GPS
  • กล้องหน้า : 12 ล้านพิกเซลจาก Sony IMX663
  • กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัวประกอบด้วย
    • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล จาก Sony IMX766 พร้อมกับ มุมกว้าง 84.6 องศา
    • กล้องมุมกว้างความละเอียด 13 ล้านพิกเซล 120 องศา
    • กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
    • รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K, 4K 60 FPS, 1080p 120FPS
  • ไฟหลังเครื่อง ROG RGB Light
  • ไมโครโฟน : 3 จุดรอบตัวเครื่อง
  • ลำโพง คู่ด้านบนและล่างมีขนาด 12 x 16 มิลลิเมตร
  • ช่องเสียบ : หูฟัง 3.5 มม. USB-C
  • แบตเตอรี่ : 6000 mAh
  • ระบบชาร์จไฟ : USB-C ระบบ Hyper Charging กำลังสูงสุด 65W และเป็นแบบ PD
  • สีสัน : Phantom Black / Storm White (เฉพาะรุ่น Pro ที่จะเป็น Storm White

แกะกล่อง ROG Phone 6 มีอุปกรณ์ดังนี้

batch_20220830_155627

  • ตัวเครื่อง ROG Phone 6
  • คู่มือ / บัตรของ ROG / เคสตัวเครื่อง / เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
  • สาย USB-C To USB-C
  • ปลั๊กสำหรับชาร์จไฟ กำลัง 65W Hyper Charging

batch_20220830_155944

นอกจากนี้ยังมีชุดพัดลมระบายอากาศ AeroActive Cooler 6 มาให้อีกกล่อง สำหรับคนที่ซื้อในช่วง 14 - 30 กันยายน นี้จะได้ฟรี

รูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอก

ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของ ROG Phone อย่างเหนียวแน่นกับหน้าจอขนาด 6.78 นิ้วถือว่าใหญ่กำลังดีมาพร้อมกับการแสดงผลเป็นแบบ AMOLED Display กับการออกแบบจองมีการเว้นส่วนและล่างชัดเจนเพื่อวางลำโพงคู่ที่ด้านหน้า และหน้าจอมีความละเอียด FHD+ และความสว่างสูงสุด 1200 nits ถือว่าใช้ได้และสู้แสงได้ดี

batch_20220830_160954

ส่วนบนของหน้าจอจะมีกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K และยังมีลำโพงตัวที่ 2 ที่มีขนาด 12x16 มิลลิเมตรนอกจากไว้สนทนาได้แล้วเวลาเล่นเพลงหรือเปิดเกมเสียงก็จะดัง คมชัดอีกด้วย

batch_20220830_161106

ส่วนล่างมีที่อยู่ของลำโพงขนาด 12 x 16 มิลลิเมตร เช่นเดียวกัน พร้อมกับปุ่มกดที่สามารถเปลี่ยนได้ทั้งรูปแบบของการปัด และการกดแบบปกติ

batch_20220830_161058

รอบตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมสวยงามและเป็นสีดำ ส่วนใครซื้อสีขาวก็จะได้บอดี้ทั้งหมดเป็นสีขาว เริ่มต้นจากฝังซ้ายมีช่องเสียบ USB-C ไว้สำหรับเสียบอุปกรณ์พัดลม AeroActive Cooler 6 ใหม่ที่มีหน้าตาหล่อใช้ได้ พร้อมกับด้านล่างเป็นช่องใส่ซิมการ์ดคู่แบบ Nano SIM

batch_20220830_160850

batch_20220830_160735
batch_20220830_160757
batch_20220830_160803

ฝั่งขวามือจะมีปุ่ม Air Trigger ไว้สำหรับเล่นเกม และปรับคำสั่งได้มากถึง 10 อย่างด้วยกัน พร้อมกับปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงและปุ่ม Power

batch_20220830_160907

ส่วนบนมีไมโครโฟนเท่านั้น

batch_20220830_160925

ส่วนล่างมีช่องเสียบหูฟัง และ USB-C สำหรับชาร์จไฟ และมีไมโครโฟนในตัว

batch_20220830_160939

พลิกมาด้านหลังเป็นกระจกทั้งหมด สำหรับในรุ่น ROG Phone 6 จะได้เป็นไฟด้านหลังเป็นแบบ RGB Light แต่ถ้าเป็นรุ่น Pro ส่วนนี้จะเป็นหน้าจอ ROG Vision พร้อมกับกล้องทางด้านบนมีทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน

batch_20220830_161004

batch_20220830_161229
batch_20220830_161234
batch_20220830_161235
batch_20220830_161240

ภาพรวมในการสัมผัสและถือ

batch_20220830_161359_1

ตัวเครื่องถือว่าใหญ่ให้ประสบการณ์ที่มาพร้อมกับการออกแบบที่สมดุลทำให้น้ำหนักของเครื่องอยู่ที่ 236 กรัมสามารถถือใช้งานได้คล่องแต่ถ้าติดอุปกรณ์เสริมก็อาจจะหนักขึ้นได้เช่นเดียวกันครับ

อุปกรณ์เสริม

batch_20220830_160120

batch_20220830_160245
batch_20220830_160251
batch_20220830_160308

ขึ้นชื่อว่ามือถือเล่นเกมก็ต้องมีอุปกรณ์เสริมมากมายขอเริ่มจาก

AeroActive Cooler 6 ที่ไม่สามารถใช้กับรุ่นก่อนได้ เหตุเพราะมันเป็น USB-C นั่นเอง ทั้งนี้ พัดลมมีขนาดใหญ่ทำให้ช่วยในการระบายอากาศได้รวดเร็วผ่านเทคโนโลยี Thermoelectric AI Cooling และมีการติดแผ่นนำความร้อน Peltier Element เมื่อรวมกับเทคโนโลยีระบายอกอากาศที่ออกแบบใหม่หมด ทำให้ลดความร้อนได้มากขึ้นและเย็นสุดที่ 36 องศา

ส่วนอุปกรณ์ที่ก็จะมี ROG Kunai 3 ที่อัปเกรดความสามารถให้เล่นเกมได้ราบรื่น และมีเคสสำหรับใส่กันกระแทก

การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง

batch_20220830_161354_1

นอกจากหน้าจอจะมีค่า Refresh Rate สูงและการตอบสนองถือว่าดีทันใจแล้ว ยังมาพร้อมกับการแสดงผล Dolby Vision ให้สีสันสวยงามและดูหนังสนุก

batch_20220830_161058
batch_20220830_161106

ประกอบกับลำโพงคู่ขนาดใหญ่ทำให้เสียงที่ออกมาครบทุกอารมณ์และยังรองรับ Dolby ATMOS และ DTS Sound System พร้อมกับ Hi-Res และ Dirac ด้วย

ประสิทธิภาพ

 batch_screenshot_20220904-144
batch_screenshot_20220904-144_2
batch_screenshot_20220904-144_3
batch_screenshot_20220904-144_4

จากคะแนนที่ได้เห็นขอยกทั้งแบบเสียบพัดลมและไม่ได้เสียบ ผลที่ได้แตกต่างกันราวๆ 15 – 20% ถือว่าไม่ได้ห่างกันมา แต่ก็มาพร้อมกับความแรงที่ดี

batch_20220903_194314

batch_arm1

ฟีเจอร์ในการเล่นเกมก็ยังคงใช้ Armony Crate เช่น การปรับประสิทธิภาพอย่าง X-Mode / X-Mode+ ที่นอกจากบูสต์เครื่องบ้าพลังและสามารถเร่งกับเกมในโหมด Gaming Mode, Hardcore Mode ที่ทำให้ดึงศักยภาพของเกมเข้ามาได้แบบเต็มที่เลยครับ แต่ที่เหลือจากภาพทั้ง Dynamic, Ultra Durable และ Advance จะไม่ได้ดึงประสิทธิภาพมากนัก

batch_gam3

ส่วนการควบคุมของการเข้าหน้าเกมอย่าง Game Genie ในรอบนี้จะต้องปัดจากด้านมุมซ้ายของหน้าจอ ในเวลาตั้งเป็นแนวนอนเท่านั้น ด้านความสามารถปรับและควบคุมได้แบบครบเครื่องมากเช่น การล็อคความสว่างหน้าจอ, การแสดงผลความร้อนและการทำงาน CPU, มีการปรับฟีเจอร์ทั้ง Crosshair ศูนย์เลงที่ปรับได้หลากหลายแบบสีสัน และยังมีฟีเจอร์การกดทั้ง Ultrasonic Button, Motion Sensor เพิ่มเข้ามาคือ Touch Sensor หรือ การสัมผัสด้านหลัง และ ปุ่มกดที่พัดลม หรือ Cooler Button เช่นเดียวกัน

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายใน / ระบบความปลอดภัย

batch_ui

ROG Phone 6 และ 6 Pro มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 12 และมีการครอบด้วย ROG UI ที่มีความเรียบง่ายกว่าเดิม แต่เมื่อกดปุ่มเข้า X Mode/X Mode+ ที่เปลี่ยนสีและแสดง Effect ในแบบฉบับของมือถือเล่นเกม

batch_tools

นอกจากฟีเจอร์ของการเล่นเกมไปแล้วก็ยังมีฟีเจอร์ทั่วไปได้แก่ เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, สมุดจด, เข็มทิศ และสามารถอัดหน้าจอได้

Armoury Crate 

 batch_arm1

มีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาแบบใหม่ทั้งหมด แต่ลูกเล่นนั้นยังเหมือนเดิมประกอบด้วย

  • ตัวปรับประสิทธิภาพเกม หรือ ตัวเลือกออฟชั่นแต่ละเกมที่ทำให้การเล่นเกมของคุณสนุกมากขึ้น โดยสามารถเปิดฟีเจอร์ได้ดังนี้
  • ค่าความไวของการทัชสกรีน
  • การกำหนดความลื่นไหวของการสไลด์
  • ป้องกันการกดขอบเวลาที่เราเผลอไปกดด้านข้าง
  • การปรับค่า Refresh Rate หรือการกระพริบของหน้าจอ และยังมีการตั้งค่าเกี่ยวกับ การควบคุมทั้ง ท่าทาง / Ultrasonic Button / ปุ่มด้านหลังเครื่อง / ปุ่มที่ Aero Active Cooler 5 โดยทำงานร่วมกับการตั้งค่าก่อนเล่นเกมผ่าน Armoury Crate และตั้งค่าระหว่างเล่นเกมผ่าน Game Genie มีตัวอย่างการตั้งค่าดังนี้

Motion Sensor

 batch_gam2

  • การขยับเครื่อง ซ้ายขวา, เคลื่อนไปข้างหน้า (Move Left / Right / Forward)
  • ขยับเครื่องลงไปทางซ้ายหรือขวา (Tilt Left / Tilt Right)
  • เลี้ยวซ้ายหรือขวา (Turn Left / Turn Right)
  • ขยับเครื่องหรือลง (Tilt Forward / Tilt Backward)
  • เขย่าเครื่องเล็กน้อย ไปทางขึ้นลง (Shake Vertically)

Ultra Sonic Button

  • สามารถเลือกว่าเราต้องการใช้กับ Option อะไรในเกม โดยสามารถสั่งงานได้ 6 ท่าทางทั้ง กดไปเฉยๆ, แตะเบาๆ, สไลด์, การกดลงไปคู่พร้อมกัน

ปุ่มที่ AeroActive Cooler 6 สามารถตั้งค่าได้ทั้งแบบ L1, L2 และ R1, R2 แทนการแตะสัมผัสด้านล่างที่กดยากกว่าเดิม และยังสามารถปรับระบบระบายอากาศได้ทั้งหมด 3 รูปแบบทำให้เครื่องเย็นลงได้เร็วขึ้นกว่ารุ่นเดิม

  • นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนโหมดประสิทธิภาพในการเล่นเกมของเครื่องจะมีให้เลือก 4 โหมดได้แก่
    • X-Mode / X-Mode+ คือการผลักประสิทธิภาพของเครื่องสูงสุด ถ้าเป็น X-Mode+ จะทำงานร่วมกับพัดลมได้
    • Dynamic สามารถปรับให้ทุกอย่างสมดุลเล่นเกมได้ดี
    • Ultra Durable ต้องการให้เครื่องอยู่ได้นาน มากขึ้น
  • Advance จะสามารถปรับรูปแบบได้ทุกอย่างตามที่คุณต้องการ
    • Hardcore Tuning ให้แรงขั้นสุดได้
    • E-Sport Mode ปิดทุกอย่างในการแจงเตือนและมีการจ่ายไฟเข้าไปในเครื่องโดยตรง

ส่วนระบบความปลอดภัยมีทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ และ ระบบสแกนใบหน้า

เปิดกล้องลองถ่ายภาพ

batch_20220830_161138

อีกสิ่งที่ ROG Phone 6 มีการเปลี่ยนแปลงคือเรื่องของกล้องในตัวหลักโดยมีรายละเอียดดังนี้

  • กล้องหน้า : 12 ล้านพิกเซลจาก Sony IMX663
  • กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัวประกอบด้วย
    • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล จาก Sony IMX766 พร้อมกับ มุมกว้าง 84.6 องศา
    • กล้องมุมกว้างความละเอียด 13 ล้านพิกเซล 120 องศา
    • กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
    • รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K, 4K 60 FPS, 1080p 120FPS

เท่ากับเซนเซอร์ของกล้องหลังจะมีคุณภาพและเก็บสีสันได้ดีมากขึ้นแต่จะดีแค่ไหนต้องดูจากภาพตัวอย่างครับ

ฟีเจอร์ของกล้องใน ROG Phone 6

batch_camera_

สำหรับลูกเล่นของ ROG Phone 6 คล้ายกับรุ่นที่แล้ว แต่ว่าคราวนี้มีโหมดที่แบ่งระหว่างการถ่ายภาพและวิดีโอที่ชัดเจน การใช้งานซูมทำได้ง่าย เมนูกดง่ายเพราะมี icon ที่อธิบายครบจนเรียกได้ว่าเอาใจคนขอบถ่ายภาพระดับหนึ่ง แต่รอบนี้มีแบ่งเป็นโหมดอื่นๆ ก็จะมีการเพิ่ม Pro Video, Night Mode และกลางคืน สามารถซูมได้มากสุด 8X

สำหรับวิดีโอ ควบคุมกันสั่นไหวแบบ EIS 2 ระดับทั้งแบบมาตรฐานและ Hyper Smooth

มาให้ทำให้ภาพที่ออกมาดูดี แต่ถ้าถ่ายวิดีโอ 4K 60 FPS และ 8K / 30 FPS เลยทีเดียว พร้อมกับลูกเล่นทั้ง Timelaps, Slo-mo ได้ช้าสุดที่ HD 480 FPS และ Motion Tracking  จับการเคลื่อนไหววัตถุได้ และ Pro Video ที่ทำได้เหมือนมือถือราคาแพงในระดับเดียวกัน และยังมีฟีเจอร์ตัดเสียงลม, ฟีเจอร์เลือกใช้ไมโครโฟนฯ เป็นต้น และสามารถซูมได้มากที่สุดแค่ 4X เท่านั้น

ภาพถ่ายจาก ROG Phone 6

 batch_p_20220830_124910
batch_p_20220830_124912
batch_p_20220830_124916
batch_p_20220830_124922
batch_p_20220830_124931
batch_p_20220830_201623
batch_p_20220830_201729
batch_p_20220830_202417
batch_p_20220830_202439
batch_p_20220831_125509
batch_p_20220904_113036
batch_p_20220904_134830

ลองถ่ายภาพกล้องหน้าของ ROG Phone 6

batch_fcam

batch_p_20220830_125218
batch_p_20220830_125229
batch_p_20220830_203315

แม้จะลดความละเอียดลงแต่ว่าถ่ายวิดีโอได้ความละเอียด 4K พร้อมกับระบบกันภาพสั่นไหว แบบ EIS มาให้ทั้งนี้ยังมี Beauty Mode มาให้แต่ว่าโหมดที่สามารถปรับเป็นแบบ Beauty จะต้องเลือกเป็น Portrait เท่านั้น

แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ

batch_batt

แบตเตอรี่ของ ROG Phone 6 มีการแบ่งออกเป็น 2 ส่วนทำให้สามารถชาร์จไฟได้เร็ว กำลังไฟรวม 6000 mAh เมื่อใช้งานการพบว่าถ้าเล่นเกมได้นานแต่ถ้าเปิดเป็น X Mode+ พบว่า ค่อนข้างกินไฟ เมื่อการทดสอบ Benchmark ผ่าน PC Mark ทำได้ที่

ส่วนระบบชาร์จไฟของ ROG Phone 6 เป็นแบบ USB-C เท่านั้นรองรับกำลังสูงสุด 65W ในแบบ Hyper Charge หรือจะใช้ที่ชาร์จกำลัง 65W ก็ได้

สรุปหลังลองใช้งาน ROG Phone 6 มาสักระยะเวลาหนึ่ง

batch_20220830_161521

การเปลี่ยนแปลงของ ROG Phone 6 อาจจะไม่ได้เน้นเรื่องฟังก์ชั่นให้มากขึ้นแต่ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของความสามารถในเรื่องระบายความร้อนและการปรับจูนให้เข้ากับสเปกของเครื่องที่ทำให้คนเล่นเกมต้องหลงรักอย่างง่ายและแน่นอนว่าราคาของมือถือรุ่นนี้ก็เป็นที่จับจ้องเช่นเคย โดยมีราคาดังนี้

  • ROG Phone 6 RAM 12GB / 256GB = 28,990 บาท
  • ROG Phone 6 RAM 16GB / 512GB = 32,990 บาท
  • ROG Phone 6 Pro RAM 18GB / 512GB = 39,990 บาท

อุปกรณ์เสริมมีดังนี้

  • ROG Areo Active Cooler = 2,990 บาท พิเศษสำหรับคนที่ซื้อ ROG Phone 6 ทุกรุ่นจะได้รับชุดระบายอากาศนี้ฟรีจนถึง 30 กันยายน นี้
  • ROG Kunai 3 = 3,990 บาท
  • เคสสำหรับ ROG Phone 6 = 990 บาท

เท่ากับมือถือรุ่นนี้ถ้าคุณต้องการมือถือเล่นเกมที่จัดเต็มกับทุกเรื่องและระบายความร้อนดีนี่เป็นอีกมือถือที่ผมว่าใช่สำหรับคุณเลยครับ

จุดเด่น

  • ดีไซน์สมดุลและสวย
  • ลูกเล่นไฟด้านหลังเยอะมาก
  • เคสตัวเครื่องมีให้เลือกหลากหลายแบบทั้งในกล่องเครื่องหรือจะซื้อเสริมก็ได้
  • ระบบระบายความร้อนทำงานได้ดีและทำให้เครื่องเย็นเร็วมาก
  • กล้องอัปเกรดทำให้ถ่ายภาพดีขึ้น
  • แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นชาร์จไฟเร็ว
  • ราคาถือว่าไม่แพงเกินไป

ข้อสังเกต

  • อุปกรณ์เสริมไม่ได้มีให้เลือกมากเหมือนรุ่นก่อน
  • น้ำหนักค่อนข้างมาก

อัลบั้มภาพ 63 ภาพ

อัลบั้มภาพ 63 ภาพ ของ รีวิว ROG Phone 6 มือถือเล่นเกมรุ่นใหม่ที่สเปกแรงสุด และเย็นสุดๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook