Shopee ในสิงคโปร์และอินโดนีเซีย ปลดพนักงานในประเทศเพิ่มเติม
สำนักข่าว The Straits Times ได้รายงานว่า Shopee ได้ประกาศปลดพนักงานในประเทศสิงคโปร์เพิ่มเติมเมื่อวันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2022 ที่ผ่านมา โดยทาง Shopee ได้ร่วมกับ สหภาพสื่อสร้างสรรค์และสำนักพิมพ์ หรือ CMPU (Creative Media and Publishing Union) แจ้งข้อมูลแก่พนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดงานรอบล่าสุดว่าจะได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมตามสภาพการณ์ของตลาด
ทาง The Straits Times ได้รายงานเพิ่มเติมว่า การปลดพนักงานเพิ่มเติมในครั้งนี้จะกระทบกับพนักงานจำนวนไม่มากของ Shopee แต่ยังไม่ชัดเจนว่าตลาดในภูมิภาคของของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนี้จะได้รับผลกระทบต่อการปรับลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจในครั้งนี้อย่างไรบ้าง
The Business Times ได้รายงานว่า พนักงานของ Shopee ในประเทศสิงคโปร์นั้นรวมถึงพนักงานในแผนกทรัพยากรบุคคล, แผนการดำเนินงานระดับภูมิภาค, แผนการตลาด และแผนกผลิตภัณฑ์และวิศวกรรม อีกทั้งพนักงานบางส่วนในสิงคโปร์และจีนจะเริ่มได้รับอีเมลแจ้งเลิกจ้างงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
Shopee นั้น ได้เริ่มปลดพนักงานในหลายภาคส่วนมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นทีมงาน ShopeeFood และ ShopeePay ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ Sea บริษัทเทคโนโลยีจากสิงคโปร์และเป็นบริษัทแม่ของ Shopee ที่ต้องการลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ เนื่องจากสถานการณ์การดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีทั่วโลกที่เป็นไปอย่างยากลำบาก กอปรกับมูลค่าหุ้นที่ลดลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Sea ก็ได้ปลดพนักงงานพนักงานใน Garena ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาเกมที่ตนเป็นเจ้า และ Sea Labs ซึ่งเป็นแผนกวิจัยและพัฒนาของตน
โฆษกของ Shopee ได้กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดความพอเพียงในการดำเนินธุรกิจ เรากำลังขยายการสนับสนุนไปยังพนักงร่วมงานของเราที่ได้รับผลกระทในระหว่างการเปลี่ยนแปลงนี้”
ทางด้าน CMPU นั้น จะร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับ Shopee เพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานที่ได้รับผลกระทบจะได้รับผลประโยชน์และสวัสดิการให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ไม่เพียงแค่นั้น สำนักข่าว Bloomberg ยังได้รายงานเพิ่มเติมว่า Sea เตรียมจะปลดพนักงานของ Shopee ในประเทศอินโดนีเซียราว 3% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปรับลดงานในภูมิภาคเพื่อควบคุมการสูญเสียและดึงดูดนักลงทุนกลับมา
ทั้งนี้ พนักงานที่ได้รับผลกระทบนั้นจะมาจากแผนกการตลาดและหน่วยดำเนินงานของบริษัทในอินโดนีเซีย