“ดีป้า” เผยผลสำรวจอุตสาหกรรมดิจิทัล ปี 2564 แพลตฟอร์มบริการโตแรง คาดปี 2565
ดีป้า ร่วมกับ สถาบันไอเอ็มซี เผยผลสำรวจข้อมูลสถานภาพอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล ประจำปี 2564 พบภาพรวมอุตสาหกรรมขยายตัวเฉลี่ย 25% จากปี 2563 โดยมีมูลค่ารวมที่ 8.98 แสนล้านบาท และหากนับรวมอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ซึ่งสำรวจโดย ดีป้า และอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม ปี 2564 จากการสำรวจโดย กสทช. จะมีมูลค่ารวมที่ 1.58 ล้านล้านบาท ขยายตัว 14.33% สะท้อนว่า อุตสาหกรรมดิจิทัลทุกภาคส่วนเติบโตอย่างมาก โดยอุตสาหกรรมที่ขยายตัวสูงสุดคือ บริการดิจิทัลที่เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ที่มีอัตราการเติบโตกว่า 37% ส่งให้จำนวนบุคลากรในอุตสาหกรรมบริการดิจิทัลเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดมากกว่า 26% เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งขยายจากกลุ่มคนไอทีมาเป็นการสร้างงานให้คนอาชีพอื่น
ดร.กษิติธร ภูภราดัย รองผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มงานยุทธศาสตร์และความมั่นคง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดย ดีป้า ร่วมกับ สถาบันไอเอ็มซี ดำเนินการสำรวจข้อมูลสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย ประจำปี 2564 โดยมุ่งเน้นไปที่ 3 อุตสาหกรรมหลัก ประกอบด้วย อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (Software) อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ (Hardware and Smart Devices) และ อุตสาหกรรมบริการดิจิทัล (Digital Services) ทั้งในส่วนของข้อมูลรายได้และการจ้างงาน โดยนำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มาใช้คำนวณร่วมกัน ซึ่งผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า อุตสาหกรรมบริการดิจิทัลมีอัตราการเติบโต 37% ซึ่งคิดเป็นอัตราเติบโตสูงสุดด้วยมูลค่า 3.46 แสนล้านบาท ขณะที่อุตสาหกรรมสื่อออนไลน์ (Online Media) ซึ่งรวมทั้งยูทูบ (YouTube) และเฟซบุ๊ก (Facebook) พบว่ามีการขยายตัวโดยเฉพาะในส่วนรายได้จากการโฆษณา
“สังคมไทยกำลังเข้าสู่บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ผู้คนใช้งานแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ (e-Retail) มีการรับชมสื่อออนไลน์ และใช้บริการขนส่ง (e-Logistics) มากขึ้น ซึ่งตลาดที่เติบโตชัดเจนคือ e-Logistics เช่น บริการสั่งอาหาร ถือเป็นตลาดที่มีการขยายตัวมากกว่า 57% เช่นเดียวกับ e-Retail ที่เติบโต 44% มูลค่าบริการดิจิทัลนี้เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับจำนวนบุคลากร ซึ่งไม่ใช่เพียงคนไอที แต่เกิดการจ้างงานที่ทำให้ผู้คนเข้ามาในอุตสาหกรรมดิจิทัลมากขึ้น” ดร.กษิติธร กล่าว
การสำรวจพบว่าจำนวนบุคลากรในอุตสาหกรรมบริการดิจิทัลปี 2564 มีการเติบโตเฉลี่ย 26.55% เพิ่มเป็น 84,683 ราย จาก 66,917 รายในปี 2563
ล็อกดาวน์พาตลาดฮาร์ดแวร์โต
การสำรวจและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลประจำปี 2564 ยังพบว่า มูลค่าอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะเติบโตขึ้น 20% คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 3.86 แสนล้านบาท โดยการนำเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 53% ด้วยจำนวน 5.8 ล้านเครื่อง มูลค่าการซื้อขายเครื่องสูง ส่งผลให้ตลาดคอมพิวเตอร์เติบโตจนเกินระดับ 1 แสนล้านบาท สถิตินี้ทำให้เห็นการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเข้าสู่สังคมดิจิทัลของประเทศไทย รวมถึงการล็อกดาวน์ และการทำงานจากระยะไกล (Work from Home) ที่มีผลให้ตัวเลขรายได้ของบริษัทในอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะเติบโตขึ้นรวม 12%
อีกหนึ่งส่วนที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์คือตลาดหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (Robot & Automation) โดยการสำรวจพบว่ามีการนำเข้ามากกว่า 5.53 หมื่นล้านบาท คิดเป็นการเติบโตกว่า 27% ถือเป็นส่วนที่เติบโตอย่างมากในฝั่งฮาร์ดแวร์
นอกจากนี้ การสำรวจพบว่า จำนวนบุคลากรในอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะปรับตัวลดลงในปี 2564 ราว 0.45% โดยบันทึกได้ 311,051 ราย จากปี 2563 ที่มี 312,460 ราย
ซอฟต์แวร์คลาวด์-บิ๊กดาต้า โตต่อเนื่อง
ภาพรวมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และบริการด้านซอฟต์แวร์ยังคงเห็นการเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยในปี 2563 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1.63 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จาก 1.44 แสนล้านบาทในปีก่อนหน้า โดยบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ที่ใช้ในประเทศไทยมีมูลค่าราว 1.21 แสนล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า 14% สิ่งที่พบจากการสำรวจคือ ส่วนใหญ่ยังเป็นบริษัทขนาดเล็กที่มีการจ้างงานเฉลี่ยต่ำกว่า 10 คน และกว่า 90% เป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่ามูลค่าของซอฟต์แวร์แบบคลาวด์ (Cloud) ที่สามารถใช้งานผ่านระบบเซิร์ฟเวอร์ออนไลน์ได้ยืดหยุ่นเติบโตมากกว่าแบบออนพริมิส (On-Premise) ที่ยังอิงกับระบบเซิร์ฟเวอร์ดั้งเดิม
จำนวนบุคลากรในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ปี 2564 มีจำนวน 129,544 ราย เพิ่มขึ้น 4.64% ในขณะที่ตัวเลขในปี 2563 อยู่ที่ 123,805 ราย
การสำรวจยังพบว่า อุตสาหกรรมบิ๊กดาต้าปี 2564 มีมูลค่ารวม 1.59 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 14.25% การสำรวจแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ 1. ส่วนฮาร์ดแวร์ มีมูลค่า 1.92 พันล้านบาท เติบโต 19.07% 2. ส่วนซอฟต์แวร์ มีมูลค่า 4.76 พันล้านบาท เติบโต 13.91% 3. ส่วนบริการดิจิทัล มีมูลค่า 9.31 พันล้านบาท เติบโต 17.53% ขณะที่บุคลากรมีจำนวน 19,392 คน เพิ่มขึ้น 18%
บริการด้านดิจิทัล แรงแซงทุกกลุ่ม
รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการ สถาบันไอเอ็มซี กล่าวถึงผลคาดการณ์ 3 ปีข้างหน้า
(ปี 2565-2567) โดยวิธีประมาณการจากมูลค่าอุตสาหกรรมปีที่ผ่านมาว่า อุตสาหกรรมที่จะเติบโตมากที่สุดในช่วง 3 ปีจากนี้คือ บริการดิจิทัลและบิ๊กดาต้า ตามมาด้วยอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ และอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์
“ถ้าพูดถึง 3 อุตสาหกรรมดิจิทัล ฮาร์ดแวร์ถือเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดในการสำรวจในอดีต แต่เชื่อว่า ใน
3 ปีข้างหน้า ด้วยอัตราการเติบโตของแพลตฟอร์มบริการดิจิทัลจะทำให้ Digital Services เป็นส่วนที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกพื้นที่ในอุตสาหกรรมดิจิทัล และในอีก 3 ปีข้างหน้า มูลค่าอุตสาหกรรมบริการดิจิทัลจะขึ้นไปถึง 6.9 แสนล้านบาทในปี 2567” รศ.ดร.ธนชาติ กล่าว
นอกจากนี้ ในงานแถลงผลสำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ และบริการดิจิทัล ประจำปี 2564 คาดการณ์แนวโน้ม 3 ปี ยังมีช่วงของการเสวนา ในหัวข้อ “ทิศทางอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย ก้าวไปพร้อมกันกับ depa” โดย คุณกษมา กองสมัคร ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มงานยุทธศาสตร์และความมั่นคง ดีป้า คุณศุภชัย สัจไพบูลย์กิจ นักวิจัย สถาบันไอเอ็มซี คุณปฐม อินทโรดม กรรมการสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย และ คุณกุลธิรัตน์ ภควัชร์ไกรเลิศ นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย (THECA) ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในประเด็นโอกาสทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยซึ่งจะเป็นอีกแรงหนุนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ดีป้า เชื่อมั่นว่า การมอบหมายให้ สถาบันไอเอ็มซี เป็นผู้ดำเนินการโครงการสำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ และบริการดิจิทัล ประจำปี 2564 คาดการณ์แนวโน้ม 3 ปี จะนำไปสู่มุมมองที่เป็นประโยชน์ สอดรับกับนโยบายเรื่องการมุ่งเน้นสนับสนุนให้เกิดการพัฒนา เพื่อสร้างโอกาสและความได้เปรียบทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยในระยะยาว
ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบการแถลงผลการศึกษาข้อมูลสถานภาพอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล ประจำปี 2564 รวมถึงผลสำรวจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมดิจิทัลในมิติต่าง ๆ ที่ ดีป้า ดำเนินการได้ทางเว็บไซต์ www.depa.or.th/th/depakm/digital-indicators, LINE OA: depaThailand และ Facebook Page: depa Thailand