10 ฟีเจอร์ใหม่ที่ควรใน iOS 16.1 ที่ไม่ควรพลาดหากได้อัปเดตในอนาคต
iOS 16 ได้ปล่อยให้ผู้ใช้งาน iPhone ได้ใช้งานมาแล้วกว่า 3 สัปดาห์รวมไปถึงผู้ใช้งาน iPhone 14 ทุกรุ่นกับลูกเล่นที่มาครบมาทั้ง การปรับแต่งหน้า Lock Scree, สามารถแก้ไขข้อความเมื่อส่งไปแล้ว, ปรับปรุง Focus Mode ให้ทำงานได้เหมาะสม ทั้งนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ออกมามากมาย ทั้งนี้สำหรับใครที่รอคอยการมาของ iOS 16.1 ที่กำลังจะปล่อยให้ดาวน์โหลดกันในอนาคต ก็มีหลายฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
วันนี้มาดู 10 ฟีเจอร์ที่ควรค่าแก่การรอคอยที่สุดและผู้ใช้ใช้งานเวอร์ชั่น Beta และในนี้จะมีการพูดถึงใน iPadOS 16.1 เช่นเดียวกัน จะมีอะไรบ้าง มารับชมกันเลย
ฟีเจอร์ iCloud Shared Photo Library
iCloud Shared Photo Library เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้คุณสามารถแชร์รูปที่คุณถ่ายกับสมาชิกในครอบครับในโปรแกรมรูปภาพได้ง่าย โดยคุณสามารถเลือกบุคคลอื่นได้ 5 คนสามารถเข้ามาจัดการ Share Library ในการจัดการเพิ่ม, แก้ไข รวมไปถึงการลบภาพออก ทั้งหมดสามารถทำได้ผ่าน iCloud ซึ่งฟีเจอร์นี้ถูกเลื่อนการเปิด แต่ว่าอาจจะได้ใช้ในปีนี้
แสดงผลกิจกรรมของ Apps อื่นๆ (Live Activities for Third-Party Apps)
ใน iOS 16.1 มีการเพิ่มเกี่ยวกับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับ Apps อย่างเป็นทางการ โดยสามารถดูข้อมูลได้แบบ Real Time เช่นการแข่งกีฬาได้แต้มเท่าไหร่, การติดตั้มการสั่งอหาร โดยทั้งสามารถแสดงผลได้ผ่านทาง Lock Screen หรือ Dynamic Island
สำหรับ iOS 16.1 มีฟีเจอร์นี้อย่างแน่นอน แต่ว่าจะต้องขึ้นกับนักพัฒนาเองจะส่งเวอร์ชั่นใหม่ที่ใส่ฟีเจอร์ Live Activities ใส่บน Apps Store หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม บางฟีเจอร์อย่างการรับชมผลกีฬาบางประเภทจะแสดงผลแค่บางประเทศเท่านั้น
ฟีเจอร์ ขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียม
ในการเปิดตัว iPhone 14 จะมีจุดเดียที่ได้ทั้งหมด 4 รุ่นคือการติดตามขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียมที่ฟีเจอร์นี้จะเริ่มใช้ได้ในเดือนพฤศจิกายน 2022 เฉพาะในแคนาดา และ สหรัฐอเมริกา
จุดเด่นอของฟีเจอร์นี้จะสามารถขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียมได้ถ้าจุดนั้นไม่มีคลื่นโทรศัพท์ หรือ Wi-Fi โดยจะเป็นการส่งข้อความสั้นมากกว่าและใช้งานได้ฟรี 2 ปีแรก และหลังจากนั้นมีแผนในการคิดค่าบริการต่อไป โดยฟีเจอร์นี้จะใช้เวลา 15 วินาทีที่จะส่งข้อมูลขึ้นไปยังดาวเทียมเป็นต้น
Apple Music Classical
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2021 Apple ได้มีการแยกเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องของเพลง Class โดยมีการปรับให้เขากับ Prime phonic ให้มีเนื้อเพลงแนว Classic ในปี 2022 ล่าสุด Apple เริ่มดำเนินงานต่อเกี่ยวกับ Apple Music Classical โดยคาดว่าจะมีรายละเอียดออกมาในอนาคต
ฟีเจอร์เลือกการชาร์จไฟด้วยพลังงานสะอาด
อีกฟีเจอร์หนึ่งที่ใส่เข้ามาด้วยและคิดได้อย่างไรคือการเลือกแหล่งพลังงานในการชาร์จหรือ Clearn Energy Charging โดย Apple ต้องการลดการเกิด Carbon Footprint ที่เกิดจากการชาร์จไฟ iPhone โดยการให้เลือกแหล่งการชาร์จไฟแบบสาอาดที่สุด แต่ฟีเจอร์นี้ถูกจำกัดในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
Apple Fitness+ แบบไม่ต้องพึ่งพา iPhone
สำหรับคนที่รักการออกกำลังกายจะเป็น Apple Fitness+ โดยปกติแล้วจะต้องเชื่อมต่อกับ Smart Watch อย่าง Apple Watch เท่านั้น ล่าสุดนี้ Apple Fitness+ อาจจะทำงานได้เลยโดยไม่ต้องต่อเชื่อมกับ Apple Watch โดยเริ่มใน iOS 16.1, iPadOS 16.1 และ tvOS 16.1 แต่ว่าสิ่งที่ไม่เห็นคือเรื่องการรูปแบบการเคลื่อนไหวและการแสดงผลชีพจร และการเผาผลานพลังงาน
โดยฟีเจอร์นี้เปิดตัวครั้งแรกในเดือน ธันวาคม 2020 โดยฟีเจอร์รองรับการออกกำลังกายมากถึง 3,000 รูปแบบ และมีวิดีโอที่แนะนำการออกกำลังกายโดยให้บริการไปแล้วกว่า 21 ประเทศ โดยราคานั้นอยู่ที่ 9.99 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อเดือน และ 79.99 ดอลล่าร์สหรัฐ ต่อปี
ฟีเจอร์ Freeform
สำหรับฟีเจอร์ iPhone และ iPad ที่น่าใช้อง่า Freeform ที่สามารถปรับได้ง่ายและเป็นเหมือนกับที่มีความยืดหยุ่น ในการวาดและเขียนการทำงาน เรียกได้ว่าไม่ต้องกังวล และ ใช้งานกับ Apple Pencil ได้ และคาดว่าฟีเจอร์นี้จะใช้งาน FaceTime และ iMessage เป็นต้น
Matter มาแล้ว
อีกไม่นาน Matter จะเข้ามาเป็นมาตรฐานใหม่ใมนการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Smart Home และทำงานได้ร่วมกันทั้ง Apple HomeKit, Amazon Alexa, Google Home บนทั้ง iPhone, iPad, Mac และรวมถึงอุปกรณ์ Apple
ทั้งนี้อุปกรณ์ที่สามารถอุปกรณ์ Matter จะสามารถเชื่อมต่อทั้ง Home Apps และ Siri ที่ต้องมองการเชื่อมต่อ HomePod, HomePod Mini และ Apple TV4K หรือ Apple TV HD ที่จะทำงานบน Home HUB
แสดงผลเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่กับุร่นที่เหลือ
ในการการอัปเดต iOS 16 ที่ผ่านมาก็จะมีการเปิดให้ฟีเจอร์การแสดงผลตัวเลขแบตเตอรี่ขึ้นมาได้ แต่ยกเว้น iPhone XR, iPhone 11, iPhone 12 Mini และ iPhone 13 Mini คาดว่าใน iOS 16.1 จะทำให้รุ่นที่ไม่สามารถแสดงผลได้ใช้งานได้แน่นอน
Stage Manager จะใช้ได้กับ iPad รุ่นอื่นๆ
สุดท้ายกับ Stage Manager โดยเป็นฟีเจอร์ที่ตอนแรกสงวนในแบบ iPad รุ่นที่ใช้ชิป M1 เท่านั้น แต่ล่าสุดนี้ใน iPadOS 16.1 พบว่า iPad Pro รุ่นเก่าที่ใช้ชิป A12X และ A12Z รุ่นปี 2018 และ 2020 เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ Stage Manager จะมาพร้อมกับสามารถใช้งานหน้าจอภายนอกได้ และสามารถแบ่งหน้าจอแบบภายในหน้าจอ แต่ถูกจำกัดกในการใช้งานได้ 4 โปรแกรมพร้อมกันและที่ถูกเลื่อนเพราะว่าฟีเจอร์นี้มีปัญหาเรื่องการทำงานที่ช้าและการพัฒนาหเกิดความเสถียรแต่คาดว่ายังไงปีนี้ก็ต้องมาล่ะครับ