สัมผัสแรกกับ "Apple Watch Series 8" เล่นแล้วเล่า ของใหม่ที่อยากแนะนำ

สัมผัสแรกกับ "Apple Watch Series 8" เล่นแล้วเล่า ของใหม่ที่อยากแนะนำ

สัมผัสแรกกับ "Apple Watch Series 8" เล่นแล้วเล่า ของใหม่ที่อยากแนะนำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลับมาพบกันอีกครั้งกับพวกเราทีมงาน Sanook Hitech กับความรีวิวสินค้าใหม่ๆ ที่เปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองไทย

สำหรับคิววันนี้เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุด Apple Watch Series 8 รุ่นใหม่ล่าสุดที่แอปเปิลเปิดตัวแต่จริงๆ แล้วมีทั้งหมดถึง 3 รุ่นประกอบไปด้วย Apple Watch Series 8, Apple Watch SE ใหม่ และ Apple Watch Ultra ที่จัดว่าเป็นพี่ใหญ่และไฮไลท์ของรุ่นที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่สุดล้ำพร้อมด้วยความสามารถที่ล้ำสุดๆ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากกิจกรรมเอ็กซ์ตรีม

แต่ในบทความที่จะให้แฟนๆ ได้อ่านกันในวันนี้เป็นรุ่น Apple Watch Series 8 ที่ยังคงมามาพร้อมคุณสมบัติด้านสุขภาพชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมสมาร์ทวอทช์เช่นเคย

เริ่มกันที่ส่วนของสเปก Apple Watch Series 8 คร่าวๆ แน่นอนว่าจะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.9 นิ้ว รองรับระบบ Touch Screen ความละเอียด 484 x 396 พิกเซล
  • ขนาดตัวเครื่อง : 45 x 38 x 10.7 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 32 - 42.3 กรัม สำหรับขนาด 41 มิลลิเมตร และ 38.8 - 51.5 กรัม (45 มิลลิเมตร
  • ระบบปฏิบัติการ : watchOS 9
  • รองรับกับมือถือระบบปฏิบัติการ : iOS เท่านั้น
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 b/g/n Dual Band, Bluetooth 5.3 + NFC / 4G LTE ใส่ซิมแบบ E-SIM (เฉพาะรุ่น GPS + Cellular) 
  • การบอกตำแหน่ง : GPS, GLONASS, GALILEO, QZSS, BDS
  • เซนเซอร์ :
    • Accelerometer, gyro
    • heart rate รองรับ ECG
    • barometer
    • always-on altimeter
    • compass
    • SpO2, VO2max
    • temperature วัดอุณหภูมิร่างกาย
  • ระบบชาร์จไฟ : Wireless Charge
  • แบตเตอรี่ : 308 mAh
  • สีสัน : Midnight, Starlight, Silver, Red (อะลูมิเนียม) Graphite, Silver, Gold (วัสดุสแตนเลส สตีล)

สิ่งที่มีมาให้ในกล่อง

applewatchseries8(12)
applewatchseries8(13)
applewatchseries8(18)
applewatchseries8(9)

  • Apple Watch Series 8
  • สายนาฬิกาที่สามารถเลือกได้หลายแบบมากมาย
  • สายชาร์จไฟแบบ USB-C และแท่นวาง
  • เอกสารคู่มือ
  • สติ๊กเกอร์ของ Apple เพิ่มความขลัง

ว่าด้วยเรื่องของ Design การออกแบบที่เราสัมผัสได้ใน Apple Watch Series 8

applewatchseries8(17)

Apple Watch Series 8 มาพร้อมดีไซน์อันเป็นที่รักของสาวกกับดีไซน์ทรงเหลี่ยมเหมือนเดิม โดยมีขนาดหน้าจอมีขนาด 1.9 นิ้วเท่ากัน แต่ว่าสิ่งที่แตกต่างคือพอเป็นขนาด 45 มิลลิเมตรทีกว้างขวางมากขึ้น และยังได้ขอบหน้าจอโค้งอยู่แต่ความแข็งแรงยังคงทำได้ดีอยู่

applewatchseries8(16)

รอบตัวเรือนจะมีให้เลือกระหว่างโลหะแบบอะลูมิเนียม และ สแตนเลส สตีล ฝั่งขวามีปุ่มสำหรับสั่งงาน และ Digtial Crown สามารถมหมุนได้ ถ้าเห็นจุดสีแดงเท่ากับรุ่นนี้จะรองรับกับการใส่ซิมการ์ดแบบ eSIM หรือ Cellular นั่นเอง 

applewatchseries8(15)

อีกฝั่งจะมีลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนาและสามารถเป็นจุดที่น้ำสามารถไหลออกเมื่อลงน้ำ

applewatchseries8(10)

ส่วนบนและล่างเป็นสายนาฬิกา ใครซื้อขนาดไหน คงต้องเลือกให้ดีเพราะแต่ละแบบทั้งขนาดหน้าปัด 41 - 45 มิลลิเมตรใช้ร่วมกันไม่ได้ แต่ก็มีสายให้เลือกเยอะมาก ทั้งของแท้และของก็อปเกรดเอ

ใต้นาฬิกาจะมีเซนเซอร์วัดชีพจรที่มีขนาดใหญ่และภายในฝั่งระบบชาร์จไฟไร้สาย และใน Heart Rate Sensor ภายในมีเซนเซอร์อันนี้ทำให้การวัดสุขภาพทำได้ดีมากกว่ารุ่นเดิม

น้ำหนักในการสวมใส่

applewatchseries8(2)

ต้องบอกว่ารุ่นที่ได้รับมาคือ Apple Watch Series 8 ขนาด 45 มิลลิเมตร แบบสแตนเลส ที่มีน้ำหนักอยู่ที่ 51 กรัมโดยประมาณ อาจจะดูไม่หนักสำหรับผู้ใช้ แต่สำหรับผู้หญิงจะหนักพอสมควร ดังนั้นนาฬิการุ่นนี้มีวัสดุหลักๆ ให้เลือก 2 อย่างเท่านั้น 

แต่ก็ยังเป็นอีก Smart Watch ที่ยังสวมใส่ง่ายอยู่และมีสีให้เลือกมากมายเช่น ตัวเรือนอะลูมิเนียมสำหรับ Apple Watch Series 8 มาในสีสตาร์ไลท์ สีมิดไนท์ สีเงิน และรุ่น (PRODUCT)RED ในขณะที่ตัวเรือนสแตนเลสสตีล มาในสีเงิน สีกราไฟต์ และสีทอง

มาตรฐานกันน้ำของ Apple Watch Series 8

สำหรับมาตรฐานกันน้ำของ Apple Watch Series 8 จะมาพร้อมกับกันน้ำแบบ 5ATM สามารถกันน้ำลึกถึง 50 เมตร แถมยังกันฝุ่นได้ด้วยแต่ถ้าต้องลุยออกกำลังกายสาย Outdoor แนะนำ Apple Watch Ultra จะดีกว่า

การใช้งานเบื้องต้นกับหน้าปัด Apple Watch Series 8

applewatchseries8(7)

Apple Watch Series 8 ยังสามารถใช้งานได้ลงตัวพร้อมกับมีระบบสัมผัสหน้าจอที่แม่นยำรองรับกับการกดตามน้ำหนักหรือ Force Touch มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ WatchOS 9.0 ที่จัดเต็ม โดยเมนูต่างๆ ยังจัดเรียงแบบคุ้นเคยสำหรับคนใช้งาน Apple Watch

แต่ถ้าไม่คุ้นเคยขออธิบายดังนี้ 

  • หน้าแรกจะเป็น Face Watch สามารถเปลี่ยนได้
  • กดที่ Digtial Crown จะเป็นเมนูภายในรวมถึง Apps ที่ติดตั้งทั้งหมดในหน้าจอเดียวกันได้
  • ปัดจากบนลงล่างเป็น Quick Setting 
  • กดปุ่มด้านล่างสามารถตั้งฟังก์ชั่นเสริมได้ หรือจะตั้งให้เรียก Siri ได้เช่นเดียวกัน

page1

นอกจากนี้ยังสามารถแสดงผลหน้าปัดได้ตลอดเวลาโดยมีการหรี่แสงลงหรือ Always On Display ได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าคุณอยากเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกาสามารถกดได้ที่ Apps Apple Watch บน iPhone ของคุณ

ฟีเจอร์เด็ดที่เป็น Hilight สำคัญของ Apple Watch Series 8 ที่ไม่ควรพลาด

นอกจากฟีเจอร์ปกติที่เล่าไปในข้างบนนี้แล้ว Apple Watch Series 8 ยังมีฟีเจอร์ดูแลสุขภาพแบบจัดเต็มและบางฟีเจอร์คือครั้งแรกเลยก็ว่าได้โดยคุณสมบัตินี้ยังคงได้รับการออกแบบมาให้มีความเป็นส่วนตัวเช่นเดียวกับข้อมูลด้านสุขภาพอื่นๆ ทั้งหมด

1

เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งวัดอุณหภูมิที่ผิวหนังทั้งหมด 2 จุดที่เพิ่มเข้ามาโดย Apple Watch Series 8 จะสุ่มตัวอย่างอุณหภูมิจากข้อมือทุกๆ 5 วินาทีและวัดการเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อยที่สุดได้ถึง 0.1°C และผู้ใช้สามารถดูความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิร่างกายในตอนกลางคืนเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมาได้ในแอปสุขภาพ ซึ่งอาจเกิดจากการออกกำลังกาย อาการเจ็ตแล็ก หรือแม้แต่การเจ็บป่วย

2

สามารถคาดคะเนช่วงตกไข่ของผู้หญิงพร้อมกับแสดงผลเรื่องอุณหภูมิและยังสามารถแสดงผลได้ช่วยทำให้เกิดการวางแผนการมีลูก และด้วยการวัดอุณหภูมิที่ทำให้รอบเดือนของผู้ใหญ่ดีและเหมาะสมมากขึ้น

3

สามารถแสดงผลข้อมูลสุขภาพของคนในบ้านเช่นการแสดงผลเรื่องของไข้ และรวมไปถึงเรื่องอื่นๆ ที่จำเป็น

Crash Detection ระบบตรวจจับการประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่ผ่านการตรวจจับการเคลื่อนไหวที่รุนแรงได้มากถึง 256G โดย High G Force Sensor และ 3 Gyroscope และจับได้ตั้งแต่โดนชนด้านหน้า, ด้านหลัง, ด้านข้าง และ พลิกคว่ำ 

untitled-6

เมื่อ Apple Watch ตรวจจับได้ว่าเกิดเหตุรถชนอย่างรุนแรง อุปกรณ์จะตรวจสอบกับผู้ใช้และโทรหาบริการฉุกเฉินหากพวกเขาไม่ตอบสนองหลังจากนับถอยหลังเป็นเวลา 10 วินาที ผู้ปฏิบัติการฉุกเฉินจะได้รับตำแหน่งอุปกรณ์ของผู้ใช้ ซึ่งจะแชร์กับรายชื่อติดต่อฉุกเฉินของผู้ใช้ด้วย

untitled-7

ทั้งหมดนี้ช่วยให้คุณสมบัติการตรวจจับการชนกันบน Apple Watch และ iPhone ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นเพื่อมอบความช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อตรวจจับได้ว่าเกิดเหตุรถชนอย่างรุนแรง อินเทอร์เฟซการโทรของบริการฉุกเฉินจะปรากฏบน Apple Watch แต่ถ้าโทรจะแสดงผลไปยัง iPhone แต่คุณสามารถคุยบน Apple Watch ได้ทันที

แอปออกกำลังกาย ใน watchOS 9 มาพร้อมมุมมองใหม่ๆ ในระหว่างเซสชั่น เช่น เซ็กเมนต์ สปลิทส์ และระดับความสูง ซึ่งช่วยมอบข้อมูลการออกกำลังกายที่แม่นยำยิ่งขึ้น ผู้ใช้ยังสามารถยกระดับการฝึกซ้อมไปอีกขั้นด้วยประสบการณ์การออกกำลังกายขั้นสูงที่มีทั้งโซนอัตราการเต้นของหัวใจ การออกกำลังกายแบบกำหนดเอง ตัววัดเวลาเฉลี่ย และภายในปีนี้ก็จะได้พบกับเส้นทางแข่งขันด้วย

รองรับการออกำลังกายทั้งแบบเบาๆ ไปจนระดับนักกีฬาเช่นกิจกรรมทั้ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน หรือวิ่งต่อเนื่องกันไม่ว่าจะทำอะไรก่อนหลัง รองรับการทำงานแบบ Multi Sport โดยระบบจะจับการทำงานแบบอัตโนมัติ การวิ่งยังสามารถวัดได้ถึงรูปแบบ ค่าฟอร์มการวิ่งใหม่ๆ ที่สามารถเพิ่มลงในมุมมองขณะออกกำลังกายได้มีทั้งความยาวก้าว ระยะเวลาสัมผัสพื้น และการกระเด้งตัวในแนวดิ่ง

applewatchseries8(3)

ฟีเจอร์ติดตามการนอนแบบใหม่ ที่สามารถวัดจาก อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลระยะของการนอนหลับได้โดยตรงบน Apple Watch ในแอปการนอนหลับและยังดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในแอปสุขภาพบน iPhone และยังมีแผนภูมิ ระยะการนอนแสดงผลได้แบบ Interactive ให้คุณได้เห็นและปรับตามค่าที่เหมาะสม

นอกจากนี้ยังตั้งค่าเกี่ยวกับเรื่องการเตือนให้ทานยาที่ต้องกินประจำ, วิตามิน หรืออาหารเสริมที่จำเป็นโดยกำหนดใน Apps สุขภาพได้เลย

แบตเตอรี่ และ ระบบชาร์จไฟ

applewatchseries8(4)

สำหรับแบตเตอรี่ของ Apple Watch Series 8 มีการขยายให้ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้สามารถใช้งานได้นานสุดทั้งวัน แต่ถ้ากลัวไม่พอแล้ว Apple Watch Series 8 ติดตั้ง Low Power Mode ที่เวลาคุณกดเปิด ระบบจะปิดการทำงานของส่วนที่ไม่จำเป็นและฟีเจอร์บางอย่างชั่วคราว ทำให้สามารถยืดอายุการใช้งานได้นานถึง 36 ชั่วโมง

ส่วนการชาร์จไฟนั้นยังรองรับระบบชาร์จไฟไร้สายแบบเดิมของ Apple และที่ชาร์จไฟให้จะมีหน้าตาแบบ MagSafe แต่เล็กกว่ามาก

เล่นแล้วเล่า? กับ 2 เดือนที่ใส่ Apple Watch Series 8 เกือบทุกวัน อยากรู้มั้ยมันเหมาะกับใคร?

applewatchseries8(6)

เรียกว่าการพัฒนาการมาถึง Apple Watch Series 8 ที่มาพร้อมกับการตกแต่งที่ดูหรูหรา แต่ฟีเจอร์มาแบบครบครันทำให้ในการอัปเกรดกับฟีเจอร์ที่บอกมาทั้งหมดถือว่ายังเป็นตัวเลือกที่ดีในการที่จะนำ Smart Watch ที่จัดว่าขายดีที่สุดในโลกรุ่นหนึ่งมาใช้งาน แม้ว่าข้อที่ยังต้องบอกว่าเป็นข้อสังเกตที่ยังต้องทำใจคือ อยากใช้ก็ต้องใช้มือถืออย่าง iPhone คู่กันเท่านั้นถึงจะเหมาะยังคงเป็นอยู่ แม้ว่าเดี๋ยวนี้จะให้คนมี iPhone ช่วย ตั้งค่าอุปกรณ์อย่าง Apple Watch ให้คนไม่มี iPhone ใช้ได้แล้วก็ตาม

applewatchseries8(18)

แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าลูกเล่นการดูแลสุขภาพนั้น ยังคงเป็นอีก Smart Watch ที่ครบเครื่องและให้ทุกอย่างแล้วจริงๆ เรียกว่าไม่ควรมองข้ามถ้าคุณใช้ Apple Watch Series 6 ลงไป แต่ถ้าเป็น Series 7 ถ้าเห็นฟีเจอร์ใหม่แล้วไม่จำเป็น ใช้รุ่นเดิมต่อไปก็ไม่มีปัญหา

ดังนั้นถ้าต้องบอกว่า Apple Watch Series 8 เหมาะกับใคร ก็คงต้องบอกว่า ทุกคนที่ต้องการดูแลสุขภาพ และอยากได้ Smart Watch ที่ฟีเจอร์ครบเครื่อง ใหม่ล่าสุดและยังเป็นทุกอย่างตั้งแต่สายแฟชั่นไปจนถึงสาย สปอร์ต และต้องเงินถึง เพราะ

ราคาของ Apple Watch Series 8 จะเริ่มต้นที่ 15,900 บาทกับบอดี้แบบอลูมิเนียม และจะแพงขึ้นก็ขึ้นกับการตกแต่งทั้งสายและตัวเรือน

ทั้งนี้การหาซื้อไม่ยากสามารถซื้อได้ทั้ง Apple Store, Apple Online Store จะสามารถสลักลายได้ และช่องทางต่างๆ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

อัลบั้มภาพ 18 ภาพ

อัลบั้มภาพ 18 ภาพ ของ สัมผัสแรกกับ "Apple Watch Series 8" เล่นแล้วเล่า ของใหม่ที่อยากแนะนำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook