แกะกล่องพรีวิว AirPods Pro (รุ่นที่ 2) หูฟังรุ่นใหม่ ที่ดีที่สุดของแอปเปิล

เรียกว่าทิ้งระยะห่างเป็นเวลานานเกือบ 3 ปีกว่าที่ทางแอปเปิลจะทำการเปิดตัว AirPods Pro รุ่นใหม่ออกมาให้เราได้เห็นกัน (หากยังจำกันได้รุ่นแรกเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2019) และมีการปรับโฉมเล็กน้อยในปี 2020 โดยการติดตั้ง MagSafe แต่ว่า สาวกก็รอคอยกันว่าเมื่อไหร่ที่ Apple จะเป็นรุ่นใหม่สักที

ไม่ต้องรออีกต่อไป เพราะในปี 2022 สิ่งที่รอคอยของหลายคนก็มาถึง AirPods Pro (รุ่นที่ 2) หูฟังไร้สาย สเปกสุดยอด หรือหลายคนจะเรียกว่ามันคือ Flagship รุ่นใหม่ของทางแอปเปิลที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับ iPhone 14 นั้นเอง... 

อย่างที่เราบอกไปแล้วว่ากว่า AirPods Pro (รุ่นที่ 2) รุ่นละสุดจะเปิดตัวค่อนข้างใช้เวลาหลายปีมาก ดังนั้นในรุ่นใหม่จึงมาพร้อมกับอะไรใหม่ๆ เหมือนชื่อ แถมในรุ่นใหม่นี้ราคาก็ลดลงอีกด้วย

เริ่มกันที่ส่วนของสเปก AirPods Pro (รุ่นที่ 2) คร่าวๆ แน่นอนว่าจะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้

• ระบบเสียงตามตำแหน่งสำหรับคุณพร้อมการติดตามศีรษะแบบไดนามิก
• โหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะ
• AirPods และเคสชาร์จที่ทนเหงื่อและน้ำ
• ฟังได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
• เคสชาร์จ MagSafe พร้อมลำโพงและช่องคล้องสาย
• เปิดอัตโนมัติ เชื่อมต่ออัตโนมัติ
• การเชื่อมต่อ เทคโนโลยีไร้สาย Bluetooth 5.3
• กล่องเคสหูฟังจะมีลำโพงไว้ส่งเสียงเพื่อตามหาหูฟังได้
• สีสันยังมีให้เลือกแค่ สีขาว แต่ใครจะสลักลาย Memoji ของตัวเองก็ทำได้นะ
• ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยคือ 8,990 บาท

สิ่งที่มีมาให้ในกล่อง

• AirPods Pro (รุ่นที่ 2)
• เคสชาร์จ MagSafe พร้อมลำโพงและช่องคล้องสาย
• จุกหูฟังซิลิโคน (4 ขนาด: XS, S, M, L) เดิมในรุ่นแรกมีแค่ S, M และ L 
• สาย Lightning เป็น USB-C
• เอกสารคู่มือ และ สติ๊กเกอร์ของ Apple เพิ่มความขลัง

ว่าด้วยเรื่องของ Design การออกแบบที่เราสัมผัสได้ใน AirPods Pro (รุ่นที่ 2)

สำหรับคนที่ใช้รุ่นแรกและมาเห็นหน้าตาของกล่องเคสรุ่นใหม่นั้นคงบอกว่า "อ้าว...มันก็เหมือนเดิมนี่หน่า" แต่ความจริงแล้ว มันมีรายละเอียดที่แตกต่างกันอยู่ เพราะด้านเทียบถือแลวัมนจะกระชับมากขึ้น หมายความว่างมันแคบลงเล็กน้อยประกอบด้วยไฟที่บอกสถานะของกล่องเก้บว่ามีไฟเหลือที่เท่าไหร่

พลิกมาด้านหลังก่อน ยังออกแบบดีไซน์เหมือนกับรุ่นแรก พร้อมปุ่มกดด้านหลังไว้สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ใหม่ ทั้งนี้บอกก่อนว่า AirPods Pro เป็นอีก Gadget ที่ไม่ได้บังคับว่าจะต้องต่อกับอุปกรณ์ของ Apple เท่านั้น แต่ยังต่อเชื่อมได้ขอให้รองรับ Bluietooth ก็พอ แค่การตั้งค่าแบบขั้นสูง จะทำได้กับเฉพาะกลุ่มของ Apple เท่านั้น 

และเห็นเรียบๆ แบบนี้ภายในติดตั้งแม่เหล็กสำหรับดูดติดกับที่ชาร์จแบบ MagSafe รอบนี้สามารถชาร์จไฟด้ทั้งชิ้นใหญ่และชิ้นเล็กสำหรับที่ชาร์จของ Apple Watch ได้แล้วนะ

 ด้านล่างของกล่องหูฟังยังคงใช้ช้องเสียบแบบ Lightning Port ไฟสถานะอีกจุด และช่องซ้ายมือ ที่เจาะไว้ไม่ใช่ผลิตผิดพลาด แต่มันคือลำโพงตัวเครื่องที่ไว้สำหรับติดตามผ่าน Apps ที่มีชื่อว่า Find My 

ข้างซ้ายออกแบบเรียบง่ายไม่มีอะไร เพราะสิ่งที่มีจะอยู่ทางขวามือ นั่นคือจุดไว้สำหรับร้อยสายคล้องข้อมือหรือจะเป็นที่เก็บเคสของ AirPods แบบถอดได้ ซึ่งรุ่นแรกไม่ได้ให้ส่วนนี้มา แต่สายนั้นจะต้องซื้อแยกตางหาก

ภาพรวมของกล่อง AirPods Pro รุ่นที่ 2 

การออกแบบยังคงเป็นคงเอกลักษณ์เหมือนกับรุ่นแรกแต่มีการเติมเต็มให้ดูดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และมาพร้อมกับฟีเจอร์เยอะขึ้นเช่นการตามหาอุปกรณ์และรวมไปถึงการใส่ฟีเจอร์ต่างๆ ที่จัดมาแบบเต็มพิกัดเลยทีเดียว ถือว่าเป็นอีก Gadget แนวหูฟังที่มีกล่องที่อัปเกรดจากเดิมชัดเจน ที่สำคัญคือ AirPods Pro 2 และเคสชาร์จ ทนเหงื่อและน้ำได้ (IPX4)

เปิดฝาพบกับหูฟัง

การเปิดฝานั้นทำได้ง่ายมาก บานพับน้ำหนักกำลังดีไม่หนักเกินไป และเมื่อดึงออกมาพบว่ามันทำได้ง่ายกว่าเดิม เพราะการออกแบบของกล่องหูฟังมีองศาที่กว้างกว่าเดิม และการดึงออกเป็นแบบแม่เหล็กทำให้เก็บได้ง่ายแต่ตอนดึงมันจะมีแรงสู้เล็กน้อย ทำให้ไม่หลุดง่ายเกินไป 

ตัวหูฟังแต่ละข้างมาพร้อมกับดีไซน์ที่ไม่ต่างจากรุ่นแรกมาเท่าไร?

สำหรับหูฟัง AirPods Pro รุ่นที่ 2 มีการออกแบบที่เปลี่ยนจากรุ่นแรกพอสมควร โดยก้านจะลดความโค้งมนลง แต่ว่าตำแหน่งของปุ่มกดยังคงอยู่ใกล้เคียงกับที่เดิม เพิ่มเติมฟีเจอร์ในการปรับระดับเสียงโดยการรูดขึ้นและรูดลง

ไดรเวอร์เสียงความผิดเพี้ยนต่ำใหม่และตัวขยายสัญญาณแบบเฉพาะมอบเสียงเบสที่ทุ้มลึกยิ่งขึ้นและเสียงที่คมชัด ในขณะที่จุกหูฟังขนาดเล็กพิเศษใหม่ให้ความกระชับพอดียิ่งขึ้น

ด้านบนติดตั้งไมโครโฟน และรอบตัวก็มีไมโครรอบตัวทำให้สามารถลดเสียงรบกวนได้มากกว่าเดิม ยังไม่นับกับ Software และ ชิป U1 รุ่นใหม่

ต่อกันที่ส่วนของการควบคุมแบบสัมผัสที่ให้คุณปรับระดับเสียงได้ด้วยการเลื่อนนิ้ว และจัดการกับฟังก์ชั่นการเล่นเสียงได้จากก้านหูฟัง เพียงแค่เลื่อนนิ้วขึ้นหรือลงที่ก้านหูฟังเบาๆ ก็สามารถปรับระดับเสียงได้อย่างรวดเร็วในระหว่างเดินทาง

การควบคุมแต่ละฟังก์ชั่นมีดังนี้

• บีบหนึ่งครั้งเพื่อเล่น หยุดพัก หรือรับสายโทรศัพท์
• บีบสองครั้งเพื่อข้ามไปข้างหน้า
• บีบสามครั้งเพื่อข้ามไปข้างหลัง
• บีบค้างไว้เพื่อสลับระหว่างการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟและโหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะ
• เลื่อนขึ้นหรือลงเพื่อปรับระดับเสียง
• พูดว่า "หวัดดี Siri" เพื่อทำสิ่งต่างๆ อย่างเล่นเพลง โทรออก หรือเรียกดูเส้นทาง ทั้งนี้ต้องเปิดฟีเจอร์นี้ในมือถือ iPhone ของคุณก่อนถึงจะทำงาน

นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติตำแหน่งที่ตั้งจริง ผู้ใช้ที่มี iPhone ที่มีชิป U1 จะสามารถค้นหาตำแหน่งของเคสชาร์จได้ผ่านการบอกทิศทาง เคสชาร์จยังมาพร้อมลำโพงในตัวที่สามารถส่งเสียงได้ดังกว่าเดิมเพื่อให้ค้นหาได้ง่ายขึ้น

อีกจุดสำหรับ AirPods Pro รุ่นใหม่ที่ต้องชมเลยคือการฟังผู้บริโภคที่มีปัญหาเรื่องจุกหูฟังที่มีแค่ 3 ขนาดในรุ่นเดิมว่าน้อยไป ในรุ่นใหม่นี้พัฒนามาให้รองรับกับจุกหูฟังซิลิโคน 4 ขนาดที่เลือกปรับได้เพื่อความพอดีและแนบสนิทยิ่งขึ้น จุกหูฟังขนาดเล็กพิเศษใหม่จะมอบความกระชับพอดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าอีกหลายคน แต่ไม่สามารถใช้กับรุ่นแรกได้

เล่นและเล่าเกี่ยวกับคุณภาพของเสียงและการใช้งานอื่นๆ แบบฉบับทีมงาน Sanook Hitech

ฟีเจอร์ของ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ทำให้มันเป็นมากกว่าหูฟัง

ไฮไลท์แบบจัดเต็มของหูฟังใหม่

AirPods Pro (รุ่นที่ 2) มาพร้อมกับ ชิป Apple Silicon H2 เพื่อคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นรองรับการปรับรูปแบบเสียง หรือ EQ ที่มีทั้งแบบสำเร็จรูปสำหรับมือสมักรเล่น หรือจะปรับเองก็ได้ ระบบเสียงตามตำแหน่งสำหรับคุณพร้อมการติดตามศีรษะแบบไดนามิก การตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ หรือ Spatial Audio ทั้งนี้ฟีเจอร์นี้จะรองรับ Application มากขึ้น รวมถึงการฟังจาก Netflix ได้ด้วย ส่วนไมโครโฟนยังไว้ใจได้พูดสายคมชัด

เชื่อมต่อไร้สาย สะดวกสบายไม่ว่าจะกับใคร

AirPods Pro (รุ่นที่ 2) รองรับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth เวอร์ชั่น 5.3 เรียกว่าเป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุด แต่ว่าสิ่งที่ต้องสังเกตจะเเชื่อมต่อกับ Smart Phone ได้บางรุ่นเพราะยังใม่การออกมาบอกว่าข้อจำกัดของการต่อหูฟังรุ่นนี้ยังมีเฉพาะกับอุปกรณ์รุ่นเก่า ดังนั้นใครจะใช้ขอแนะนำว่าควรจะเป็น iPhone 8 ขุึ้นไป ถ้าอยากได้ครบทุกฟังก์ชั่นจริงๆ และที่สำคัญคือ ตามหาหูฟังรุ่นนี้ยังทำได้ง่ายเพราะตามหาได้ทั้งหูฟังทั้ง 2 ข้างและเคส ในรอนี้สามารถส่งเสียงออกได้ทั้งเคสและหูฟังทั้ง 2 ข้างด้วย

ตัดเสียงเงียบมากกว่าเดิม

ถ้าพูดถึงหูฟัง AirPod Pro (รุ่นที่ 2) จะไม่พูดถึงระบบตัดเสียงรบกวนก็ไม่ได้เพราะมีการทำงานกับชิป H2 เช่นกันและตรวจจับกับไมโครโฟนรอบตัวเครื่องทำให้เสียงที่ได้ยินนั้นลดลงได้มาก และยังมีฟีเจอร์ปรับเสียงรบกวนอัตโนมัติช่วยให้เสียงที่เข้ามาเงียบลงได้ นอกจากนี้ยังมีโหมดที่อยู่บริเวณที่เสียงดังสุดก็ลดเสียงรบกวนจนอยู่ในเกณฑ์ที่เรียกว่าอีกนิดก็ไม่ได้ยินอะไรแล้ว

แบตเตอรี่ใช้ได้นานไหม

AirPods Pro ฟังได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (สูงสุด 5.5 ชั่วโมงเมื่อเปิดใช้งานระบบเสียงตามตำแหน่งสำหรับคุณและการติดตามศีรษะ) สนทนาได้นานสูงสุด 4.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ถือว่านานเอาเรื่องเหมือนกัน ถ้ารวมกับชาร์จไฟที่กล่อง สามารฟังเพลงได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมง, สนทนาได้นานสูงสุด 24 ชั่วโม

การชาร์จไฟของ AirPods Pro พร้อมเคสชาร์จ MagSafe ทำให้ชาร์จได้ทั้งแบบเสียบสาย Lightning และ วางกับอุปกรณ์ชาร์จไฟไร้สายได้เช่นเดียวกัน ยังไม่หมดสำหรับคนใจร้อน เพราะรุ่นนี้ยังมีฟีเจอร์ Quick Charge เพียงใส่ในเคส 5 นาที ก็ใช้ฟังได้นานประมาณ 1 ชั่วโมง หรือสนทนาได้นานประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้แบบสายทำได้เร็วกว่า MagSafe เล็กน้อย

แชร์ประสบการณ์หลังได้ลองเล่น AirPods Pro รุ่นที่ 2 อยากรู้มั้ยมันเหมาะกับใคร?

อย่างที่เราเกริ่นไปตั้งแต่เปิดหัวบทความเรื่องนี้แล้วว่า AirPods Pro (รุ่นที่ 2) คือที่สุดของหูฟังไร้สายซึ่งดีที่สุดของแอปเปิลเรื่องแรกคือ material ที่ใช้ในการประกอบเป็นหูฟังจึงเป็นของดีที่สุด การดีไซน์ที่ที่ลงตัวกว่ารุ่นเดิมและฟังข้อด้อยของรุ่นเดิมจนเก็บได้เกือบหมดทุกข้อเรียกได้ว่าเป็นหูฟังที่สามารถใช้้งานได้ทุกรูปแบบ แถมยังเหมาะกับทุกคนเพราะมีการให้เลือกจุกทั้งหมด 4 รูปแบบ แถมยังมีฟีเจอร์ครบและไม่ต้องห่วงเรื่องหูฟังหายได้เลย และน้ำหนักเบากว่ารุ่นเดิมอีกด้วย

ต่อกันที่เรื่องของเสียงอาจจะไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนัก แต่แค่มีการปรับแต่งเสียงให้เหมาะกับคุณได้มากขึ้นก็ช่วยให้การฟังมีความสุข และถ้าเป็นการดูหนัง Spatial Audio แบบ Adaptive เป็นอีกทางเลือกที่ทำให้การฟังเสียงรอบทิศทำได้ดีแต่ว่าถ้าเป็นเรื่องการลดเสียงรบกวน พูดเลยว่าเทพจริง ตัดเสียงได้มากมายและ แบตเตอรี่อยู้ได้นาน กับราคา 8,990 บาท ถือว่าถูกลงกว่ารุ่นเดิมพอสมควร ดังนั้นเสียงของ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ย่อมมาคู่กับคุณภาพที่เหมาะสมกับราคา และฟีเจอร์เอาใจสาวก Apple ที่เรียกว่า จิ๋วแต่แจ๋วได้ของจริงเลยล่ะ 

ทั้งนี้การหาซื้อไม่ยากสามารถซื้อได้ทั้ง Apple Store, Apple Online Store จะสามารถสลักลายได้ และช่องทางต่างๆ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป