ขั้นตอนง่ายๆ ในการทำให้มือถือแอนดรอยด์เร็วขึ้น [11 สิ่งที่ใช้ได้ผลและ 3 สิ่งที่ใช้ไม่ได้]

ขั้นตอนง่ายๆ ในการทำให้มือถือแอนดรอยด์เร็วขึ้น [11 สิ่งที่ใช้ได้ผลและ 3 สิ่งที่ใช้ไม่ได้]

ขั้นตอนง่ายๆ ในการทำให้มือถือแอนดรอยด์เร็วขึ้น [11 สิ่งที่ใช้ได้ผลและ 3 สิ่งที่ใช้ไม่ได้]
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประเด็นหนึ่งที่ผู้ใช้งาน Android พบเจอคือถ้าเกิดใช้งานอยู่ดีๆ มันไม่เร็วดั่งใจวันจะมีวิธีไหนที่ทำให้เครื่องกลับมาเร็วมากขึ้นได้ วันนี้เรามี 11 คำแนะนำที่จะทำให้มือถือ Android ของคุณเร็วแบบได้ผลจริง และแถมอีก 3 คำแนะนำที่อย่าทำเลยเสียเวลา จะมีอะไรบ้างเผื่อเป็นไอเดียมาจัดการมือถือของคุณ มาเริ่มกันเลย

จัดการข้อมูลในหน้าหลัก (Home Screen)

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หน้าจอหลักของมือถือคือสิ่งที่กิน RAM เยอะมาก ถ้าคุณใช้ทั้งหน้า Live Wallpaper และ Widget ที่เยอะเกินไปก็จะส่งผลให้กินทรัพยากรเยอะกว่าการวาง icon เฉยๆ ได้

คำแนะนำในส่วนนี้แนะนำให้ลองลดจำนวน icon ลงเช่นสร้าง Folder จัดให้เป็นระเบียบ และลดการใช้งาน Widget ที่ไม่จำเป็นรวมไปถึงเลือก Wallpaper แบบปกติ ไม่ควรจะเลือกเป็นแบบ Live Wallpaper เป็นต้น

เลือก Launcher มาใช้งานที่เหมาะสม

ระบบปฏิบัติการ Android จะมีจุดเด่นที่คุณปรับอะไรได้เยอะรวมถึง การนำ Launcher มาใช้งานได้หลากหลายแต่ว่ามันก็ไม่ได้ทำให้เร็วขึ้นซ้ำรายอาจจะทำให้เครื่องทำงานช้าลงได้ ถ้าเกิดติดไว้หลายตัวหรือลงไว้แต่ไม่ได้ใช้งานก็จะทำให้เครื่องช้าลงได้

วิธีที่แนะนำนอกจากใช้สิ่งที่เครื่องให้มาแล้ว ถ้าคุณอยากลงเพิ่มแนะนำให้ลองค้นหาผ่านทาง Google Play Store ไม่ควรติดตั้งเอง ทั้งนี้ทีมแนะนำถ้าอยากลงเพิ่มจะเป็น Nova Launcher ตัวนี้จะไม่กินแรงเครื่องมากนัก และใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน

เปลี่ยน Browser ซะ

ในบางครั้งการที่เครื่องอดไม่ทันใจก็อาจจะเกิดจาก Web Browser เองเช่นเดียวกันเพราะ Google Chrome เองนอกจากติดตั้งมาในเครื่องก็จะส่งผลให้เกิดเรื่องของการกินทรัพยากรมากเกินไปเช่นเดียวกัน

ในคำแนะนำ ถ้ารับไม่ได้กับจุดนี้ลองหา Browser อื่นเช่น Puffin ที่ทำงานได้ดีกว่า Browser ของมือถือ Android หลายตัวแต่ยังคล้ายกับ Google Chrome และรวมถึง Brave หรือ DuckDuckGo ก็เป็นอีก Browser ที่สามารถตอบสนองได้รวดเร็วเช่นเดียวกัน

ลบโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้ หรือ โปรแกรมที่คิดว่าไม่ดีออก

โปรแกรมในเครื่องที่ติดตั้งมาบางตัวนั้นอาจจะไม่ได้ดีกับมือถือคุณทั้งนี้นอกจากการตรวจสอบในหน้า Apps ของการตั้งค่าแล้วถ้าเกิดเห็นว่า Apps ไหนไม่ได้ใช้งานแล้วแนะนำให้ลบออกเช่น Snapchat เป็นอีกโปรแกรมที่อยู่บน Android และกินแรงเครื่องรวมไปถึง Facebook ที่คุณสามารถหาเวอร์ชั่นน้ำหนัก เบาหรือ Facebook Lite หรือจะเป็น Apps อื่นๆ มาชดเชยได้

แต่ถ้าคุณไม่ได้คิดมากก็ติดต่อไปได้แต่ขยันปิดสักหน่อยก็ไม่มีปัญหาแล้ว

ลบ Apps เกี่ยวกับ Antivirus ออก

แม้ว่า Android จะเป็นอีกระบบปฏิบัติการบนมือถือที่ต้องมีโปรแกรมเกี่ยวกับการดูแลด้านความปลอดภัยบ่อยแต่การติดโปรแกรมในกลุ่ม Antivirus เข้าไปก็เป็นดาบ 2 คมเพราะบางครั้งจะทำให้เครื่องทำงานช้าลงได้

บางครั้งจึงแนะนำว่าถ้าสังเกตว่าเครื่องทำงานช้าลงและโปรแกรมเหล่านั้นไม่อัปเดตแล้วนำให้ลบออกจะดีกว่า และถ้าติดตั้งควรจะดูจากทาง Play Store เพื่อให้มันเหมาะกับเครื่องดีกว่า

ปิดการ Sync ข้อมูลอัตโนมัติ

sync

ข้อมูล Social Network, ข่าว, สภาพอากาศและอื่นๆ ที่เครื่องมีการเชื่อมต่อกับ Server ตลอดเวลาก็มีผลที่ทำให้เครื่องนั้นทำงานช้าลงได้ วิธีที่แก้ปัญหานี้คือ ปิดการ Sync ไปในบางตัวหรือถ้าโปรแกรมไหนสำคัญจริงๆ ตั้งหน่วงเวลาเช่นทุก 15 นาที ค่อยเชื่อมต่อข้อมูล มันก็จะทำให้ยืดอายุของแบตเตอรี่และเครื่องไม่มีภาระมากเกินไป

หมั่นอัปเดตเวอร์ชั่นเครื่องและ Apps บ้าง

อีกเรื่องที่เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวคือการอัปเดตระบบปฏิบัติการของเครื่องคุณเพราะในการอัปเดตระบบปฏิบัติการจะทำให้มีการแก้จุดบกพร่องที่จะส่งผลต่อความเร็ว หรือโปรแกรมใหม่จะมีการแก้ปัญหาเดิมๆ จนทำให้สามารถใช้งานได้ดีมากยิ่งขึ้น ถ้ากลัวลืมสามารถกดอัปเดตอัตโนมัติ เมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้เช่นเดียวกัน

Restart เครื่องบ้างนะ

restart_1

สุดท้ายวิธีที่ง่ายที่สุดคือการ Restart เครื่องหรือใหม่จุดนี้กจะทำให้ระบบปฏิบัติการทำงานได้ลื่นไหลเพราะมีการปิดโปรแกรมทั้งหมดช่วยเคลียร์ความจำที่ไม่ได้ใช้ให้ว่างได้ และวิธีไม่ยาก แค่กดปุ่ม Power ค้างแล้วเลือกคำว่า Restart หรือ บางรุ่นใช้คำว่า รีบูต เป็นต้น ทั้งนี้ถ้ามือถือรุ่นไหนตั้งค่าให้ Restart ได้แนะนำควรตั้งไว้บ้างก็ดี

ส่วนอีก 3 วิธีที่จะแนะนำต่อไปนี้จะเป็นขั้นต่อที่ยากขึ้นเพราะอยู่ในโหมดของนักพัฒนา

ปรับความเร็วการแสดงผล Animation ให้เหมาะสม

sp1_1

การปรับตั้งค่าเรื่องการแสดงผล Animation ของเครื่องก็จะมีผลต่อการใช้พลังงาน โดยมากแล้วแนะนำว่าไม่ควรปรับให้แสดงผลช้าเกินไปนัก ทั้งนี้การตั้งค่าส่วนนี้ต้องเปิดฟีเจอร์ตัวเลือกการพัฒนา (Developer Option) ตามภาพที่อยู่ด้านบนได้เลย

ส่วนวิธีการเปิดเข้าไปที่ Setting (ตั้งค่า) > About Phone (เกี่ยวกับโทรศัพท์)  จากนั้นหาคำว่า Build Number หรือ หมายเลขรุ่นทั้ง 5 ครั้งถึงจะเปิดได้

เลือกใช้ Custom ROM

อันนี้จะยากขึ้นเพราะถ้าคุณเลือกจะใช้ Custom ROM ของ Android จะส่งผลให้ทำงานเรื่องเร็วขึ้นก็จริงอยู่แต่ว่าอาจจะส่งผลต่อการรับประกันเครื่องได้เช่นเดียวกัน

Flash เครื่องมาใช้ Custom Kernel

เอกเรื่องที่สามารถทำให้เครื่องเร็วได้คือการนำ Kernel ภายนอกมาใช้แบบคลีนๆ ก็จะทำให้การทำงานของเครื่องนั้นลื่นไหลมากขึ้น แต่ก็อาจะมีผลกับเรื่องของการใช้งานปละการรับประกันขอเครื่องได้ไม่ต่างจาก แบบที่แนะนำไปก่อนหน้านี้

3 สิ่งนี้ที่ไม่แนะนำให้ทำคือ

ลงโปรแกรม Task Killer

li

การใช้งาน Task Killer ไม่ได้ส่งผลให้เรื่องความเร็วให้ทำงานดีขึ้น แต่ Task Killer คือการปิดโปรแกรมที่อยู่ตรงหน้าเราหรือ Background Apps เพื่อคืนพื้นที่ ซึ่งดูแล้วไม่ได้ผลและไม่ได้เป็นความจำเพราะถ้ากดปิดโปรแกรมที่ทำงานอยู่ก็ควรจะกดปิด Apps เอง หรือระบบ Android จะจัดการเองซึ่งดูแล้วระบบจะฉลาดกว่า

กดปิดโปรแกรม

close

การปิดโปรแกรมนั้นจะได้ผลแค่เล็กน้อยแต่ถ้าเราไม่ใช้ความจำบางส่วนก็จะคืนมาอยู่แล้ว การปิด / เปิดโปรแกรม บ่อยๆ ดูจะไม่ได้ผลเท่ากับ ลบโปรแกรมออกไป หรือปรับลดการใช้พลังงานของโปรแกรมลงที่สามารถตั้งค่าและทำได้ดีกว่า

ลงโปรแกรมเพิ่มความเร็วหรือ Speed Booster หรือ Defragment

สุดท้ายคือการลงโปรแกรมที่บอกว่าจะทำให้เครื่องเร็วขึ้น และรวมไปถึงการจัดการความจำในตัวเครื่องซึ่งโปรแกรมเหล่านี้มันไม่จำเป็นเนื่องจาก ถ้าเป็น Speed Booster จะเป็นการเพิ่มความเร็วแค่ชั่วคราวเท่านั้น บางครั้งโปรแกรมเหล่านี้อาจจะดึงความจำจากหน่วยความจำภายนอกที่ไม่ได้ส่งผลดีกับเครื่องเท่าไหร่

และในกลุ่มของ Defragment ที่ไม่จำเป็นเพราะระบบปฏิบัติการนี้ไม่ต้องการ Defragment เนื่องจากเป็นการทำงานกับ Flash Memory ที่ทำงานเร็วอยู่แล้ว จึงไม่มีประโยชน์จากการทำสิ่งนี้กับ Android

สุดท้ายนี้ ฝากไว้ครับสำหรับวิธีเหล่านี้จะทำให้เครื่องนั้นทำงานเร็วขึ้นจริง แต่อีกเรื่องสำคัญคือถ้าคุณจัดการให้ความจำโล่งและสะอาดอยู่เสมอ ก็จะทำให้เครื่องเร็วได้ ทั้งนี้อย่าลืมอีกข้อคือ ข้อจำกัดของ Hardware เพราะถ้าเวลาผ่านไปคุณต้องการความเร็วสูงมากขึ้น การเลือกอุปกรณ์ใหม่ ก็ถือว่าเป็นคำตอบที่ดีที่จะอัปเกรดเมื่อถึงเวลาครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook