Elon Musk โทรไปต่อว่าซีอีโอบริษัทที่หยุดโฆษณาบน Twitter

Elon Musk โทรไปต่อว่าซีอีโอบริษัทที่หยุดโฆษณาบน Twitter

Elon Musk โทรไปต่อว่าซีอีโอบริษัทที่หยุดโฆษณาบน Twitter
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Elon Musk

Financial Times ได้รายงานว่า อีลอน มักส์ (Elon Musk) ซีอีโอของ Twitter ได้โทรไปหาซีอีโอของบริษัทหลายแห่งเป็นการส่วนตัว เพื่อต่อว่าเกี่ยวกับการที่บริษัทเหล่านั้นได้ระงับการโฆษณาบน Twitter โดยมีรายงานจากผู้ซื้อสื่อโฆษณาและเอเจนซีโฆษณาชั้นนำจำนวนหนึ่งว่า “แบรนด์ใหญ่เกือบทั้งหมดได้หยุดการโฆษณาบน Twitter แล้ว”

ในตอนนี้ ครึ่งหนึ่งของผู้ลงโฆษณา 100 อันดับแรกของ Twitter ยกตัวอย่างเช่น Meta, Coca-Cola และ Kellogg’s ได้ระงับการโฆษณาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่นี้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีคำเตือนมาจากผู้ซื้อสื่อ (Media Buyer: ผู้ซื้อพื้นที่สื่อตามที่ลูกค้าต้องการ และต่อรองราคากับช่องทางโฆษณา) หลายราย

เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา Twitter มีรายได้ทั้งสิ้น 5,100 ล้านเหรียญ (ประมาณ 179,800 ล้านบาท) โดย 4,500 ล้านเหรียญ (ประมาณ 158,700 ล้านบาท) นั้น มาจากการโฆษณาบนแพลตฟอร์ม

Twitter

ไม่เพียงแค่นั้น เอเจนซีโฆษณาก็ไม่ได้รับการติดต่อจากทีมธุรกิจโฆษณาของ Twitter มากนัก เนื่องจากมีพนักงานเหลืออยู่น้อย ในขณะที่พนักงานส่วนใหญ่ได้ลาออกไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะถูกมัสก์บังคับให้ทำงานแบบฮาร์ดคอร์

ทั้งนี้ ผู้ซื้อสื่อบางส่วนได้กล่าวว่า ระบบโฆษณาได้กลายเป็นจุดบกพร่องขนาดใหญ่ของ Twitter และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปล่อยแคมเปญโฆษณาบนแพลตฟอร์ม

เดอร์ริก จอห์นสัน (Derrick Johnson) ประธานองค์กรสิทธิพลเมือง NAACP ของสหรัฐฯ เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้ลงโฆษณาหยุดใช้ Twitter เนื่องจากมัสก์ได้คืนสถานะบัญชีของ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากที่ Twitter ได้แบนมาตั้งแต่ต้นปี 2021

เขายังได้แสดงความไม่พอใจโดยอ้างว่า มัสก์ใช้ “โพลขยะ” (Garbage Poll) ในการสำรวจความคิดเห็นเพื่อตัดสินว่าควรคืนสถานะให้แก่ทรัมป์หรือไม่

อ้างอิง

 

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ ของ Elon Musk โทรไปต่อว่าซีอีโอบริษัทที่หยุดโฆษณาบน Twitter

Elon Musk โทรไปต่อว่าซีอีโอบริษัทที่หยุดโฆษณาบน Twitter
Elon Musk โทรไปต่อว่าซีอีโอบริษัทที่หยุดโฆษณาบน Twitter
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook