เปิดตัว Redmi K60 Series ตัวท๊อปสุดจะใช้ขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 2
Xiaomi เปิดตัว Smart Gadget ในตระกูล Redmi K60 Series ที่มาพร้อมกับสเปกจัดเต็มทั้งรุ่น K60E, K60 และ K60 Pro มาให้แบบจัดเต็มทั้ง 3 รุ่น
Redmi K60 Pro
มาเริ่มต้นกับรุ่นท๊อปสุดกับ Redmi K60 Pro มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว AMOLED พร้อมกับความละเอียดระดับ QHD แต่สามารถปรับลดลงมาได้เหลือ Full HD ความสว่างที่ 1400 nits ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมกับ Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 480 Hz, HDR10+ และมีระบบสแกนนิ้วใต้หน้าจอ รองรับระบบ Auto Brightness 2.0
มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล จาก Sony IMX800 รองรับระบบ OIS และมี EIS พร้อมกับ AI Filters และการปรับปรุงให้ทำงานเร็วขึ้น, กล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล 118 องศา และ 2 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์ Macro
ขุมพลังของรุ่นนี้มาพร้อมกับ Snapdragon 8 Gen 2 มาพร้อมกับ RAM แบบ LPDDR5X ให้มากสุดที่ 16GB และความจำภายในแบบ UFS 4.0 สูงสุดที่ 512GB
และแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 120W พร้อมกับ Surge P1 เป็นชิปจัดการชาร์จไฟ โดยมีการเคลมว่าชาร์จไฟจาก 0 – 100% ให้เต็มภายในเวลา 19 นาที แต่ชาร์จไฟไร้สายกำลัง 30W
ส่วนสีสันของ จะมีให้เลือก 4 สีคือ ขาว,เขียว, ดำ, สีพิเศษ Performance Edition จะมีลวดลายคล้ายคาร์บอนไฟเบอร์ของทาง Mercedes-AMG ทั้งนี้ราคาของ Redmi K60 Pro เริ่มต้น 3,299 หยวน หรือประมาณ 16,xxx บาท ในรุ่น 8GB / 128GB, รุ่นสูงสุด RAM 16GB / 512GB อยู่ที่ 4,599 หยวน หรือประมาณ 22,xxx บาท เริ่มจำหน่าย 31 ธันวาคม
Redmi K60
มาถึงรุ่นธรรมกันบ้างยังคงได้ใช้หน้าจอลักษณะเดียวกับรุ่นท๊อป และมีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ขนาดใหญ่ ขุมพลังของรุ่นนี้จะมาพร้อมกับ Snapdragon 8+ Gen 1
ความแตกต่างอยู่ที่กล้องตัวหลักที่ได้ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อมกับ OIS, เลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล และ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซลเช่นเคย
แบตเตอรี่ขนาด 5500 mAh แต่ระบบชาร์จไฟจะกำลัง 67W แบบสายและกำลังชาร์จไฟไร้สายกำลัง 30W มีสีให้เลือกทั้งหมด 4 สีคือ ขาว, เขียว, ฟ้า เป็นผิวสัมผัสแบบหนัง และ ดำ โดยราคาเริ่มต้นที่ 2,499 หยวน ไปจนถึงรุ่นท๊อปที่ 3,599 หยวน หรือประมาณ 12,4xx – 17,xxx บาท
Redmi K60 E
มาถึงรุ่นเล็กสุดของตระกูลแล้ว Redmi K60 E โดยหน้าจอจะยังคงมีขนาด 6.67 นิ้ว AMOED พร้อมกับ Refresh Rate 120Hz พร้อมกับความละเอียด QHD+ เหมือนกับมือถือ 2 รุ่นบน แต่ความสว่างที่ 1,200 nits และใช้กระจก Corning Gorilla Glass Victus
ขุมพลังมาพร้อมกับ MediaTek Dimensity 8200 กล้องหลังตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมกับกล้องมุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ส่วนแบตเตอรี่มาพร้อมกับ 5500 mAh พร้อมกับระบบชาร์จไฟ 67W
ความจำแบบ UFS 3.1 และ RAM แบบ LPDDR5 (สำหรับรุ่นท๊อปจะเป็น UFS 4.0 และ RAM แบบ LPDDR5X) ทั้งนี้มีให้เลือกสีทั้งสีเขียว, สีดำ และ สีขาว โดยราคาเริ่มต้น 2,199 หยวนหรือประมาณ 10,9xx บาท
อัลบั้มภาพ 17 ภาพ