5 ฟีเจอร์ที่ใครๆ ก็หวังว่ามันจะมีใน iPhone 15 และ iPhone 15 Pro
เนื่องด้วย iPhone 15 รุ่นใหม่มีการคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวในเดือนกันยายน และมีให้เลือกทั้งรุ่นมาตรฐานและรุ่นสูงหรือ ไฮเอนด์ ตามข่าวลือ ทั้งนี้เรามาดูกันว่า 5 เรื่องที่น่าสนใจของ iPhone 15 ทั้งรุ่นปกติ และ รุ่น Pro ให้ดูกันกับ 5 ฟีเจอร์ที่ใครก็คาดว่าจะให้มีในมือถือรุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว
Dynamic Island ทุกรุ่น
เริ่มต้นกับหน้าจอแบบ Dynamic Island ปัจจุบันนี้ยังคงอยู่กับ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max เท่านั้น โดยมีการเจาะรูและออกแบบให้เป็นเม็ดยา ล่าสุดนี้ก็มีความเป็นไปได้ว่า iPhone 15 Series ทั้งหมด อาจจะได้ใช้หน้าจอแบบ Dynamic Island ทุกรุ่นก็เป็นไปได้
เซนเซอร์กล้องแบบ State-of-the-Art
ในเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา Apple ได้เผยว่าใช้กล้อง Sony และคาดว่าจะได้ใช้เลนส์แบบ "state-of-the-art" จะมีทั้งสีภาพที่สมบูรณ์, ความสว่างและการเก็บรายละเอียดที่ดี ช่วยให้ภาพออกมาดีมากขึ้น โดยฟีเจอร์นี้คาดว่าจะเกิดขึ้นกับรุ่น Pro
เปลี่ยนมาใช้ USB-C
การมาของ iPhone 5 ทำให้คุณได้รู้จัก Lightning Port และใช้งานอย่างยาวนานถึง iPhone 14 Series แต่ว่าก็มีความเป็นไปได้ว่า iPhone 15 ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ว่า iPhone รุ่นแรกที่ได้ใช้ USB-C เป็นช่องเสียบมาตรฐานตามที่ EU ได้ออกกฎบังคับใช้นั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตามต้องลุ้นกันต่อไปว่าถ้า iPhone 15 Series โดยรุ่นท็อปสุด จะเป็น iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max ที่อาจจะถูกเปลี่ยนชื่อ iPhone 15 Ultra อาจจะได้ใช้ช่องเสียบมาตรฐาน USB 3.2 หรือ Thunderbolt 3 และในรุ่น iPhone 15, iPhone 15 Plus จะมาพร้อมกับ USB-C มาตรฐาน 2.0 แบบเดียวกับ Lighning Port
กล้องหลังความละเอียด 48 ล้านพิกเซล
สำหรับ iPhone 14 Pro, iPhone 14 Pro Max ยังคงมาพร้อมกับกล้องหลักตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซลทำให้คุณภาพในการถ่ายภาพดีขึ้นกว่าเดิม ก็ทำให้มีข่าวลือออกมาว่า iPhone 15, iPhone 15 Plus จะได้กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล แต่ว่าฟีเจอร์และ Hardware บางอย่างอาจจะแตกต่างจากรุ่น Pro บ้าง
อย่างไรก็ตามสำหรับ iPhone 15 Pro อาจจะได้เลนส์ซูมแบบ Periscope Lens ทำให้การซูมไกลมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม แต่ต้องรอติดตามกันต่อไป
5G ที่เร็วและประหยัดไฟขึ้น
เรื่องสุดท้ายคือชิป Modem 5G สำหรับ iPhone 14 ยังคงใช้ของ Qualcomm X70 ที่จะทำให้มีการจัดการเรื่องของทรัพยากร 5G ได้ดีกว่าเดิมคือ X65 ที่ประจำการอยู่ใน iPhone 14 ที่ทำให้การเชื่อมต่อได้รวดเร็ว, คุณภาพการจับสัญญาณดี และมีค่าความหน่วงที่น้อยลง แถมประหยัดไฟกว่าเดิม 60%
อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้จะเป็นจริงหรือไม่คงต้องรอติดตามกันต่อไปหากมีข้อมูลใหม่เพิ่มเติมทีม Sanook Hitech จะนำมาบอกเล่ากันอีกครั้งต่อไป