รีวิว TCL 40 SE อีกตัวคุ้มงบไม่เกิน 6,000 บาท ได้ลำโพงคู่ หน้าจอชัด ชาร์จไฟเร็ว

กลับมาพบกับรีวิวจากทีม Sanook Hitech อีกครั้ง รอบนี้เราพาคุณมาพบกับ TCL 40 SE รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นกลางที่ไม่ได้ลดสิ่งที่ให้มาแม้ว่าสเปกอาจจะไม่ได้แรงแต่ได้ลำโพงคู่ และหน้าจอสวยงาม ในราคาไม่แพงเกินไปจะเป็นอย่างไร เรามาดูกันว่ามันโดดเด่นแค่ไหน

รายละเอียดสเปกของ TCL 40 SE

• ขนาดตัวเครื่อง (ยาว x กว้าง x หนา) 167.91 x 76.5 x 8.45 มม.
• น้ำหนัก 190 กรัม
• หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.75 นิ้วความละเอียดระดับ 1600x720 พิกเซล ความสว่าง 450 nits Refresh Rate 90Hz
• ชนิดกระจกกันรอย ไม่ได้ระบุ
• ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio G37 Octa Core
• กราฟิก : PowerVR GE8320
•  RAM ขนาด 4 - 6GB
• พื้นที่จัดเก็บภายใน : 128 - 256GB
• พื้นที่จัดเก็บภายนอก : MicroSD
• การเชื่อมต่อ 4G LTE, Wi-Fi AC (Wi-Fi 5) Bluetooth 5.1
• ลำโพง : Stereo บนและล่าง
• Port การเชื่อมต่อ : ช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm / USB-C
• กล้องดิจิทัลด้านหน้า
• ตัวหลักความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
• วิดีโอ : 1080p@30fps
• กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3  ตัว แบ่งออกเป็น
• กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมกับ PDAF
• กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
• กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
• วิดีโอถ่ายได้ที่ 1080P 30 FPS
• LED Flash
• ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น :ไม่ได้ระบุ
• ระบบปลดล็อค : สแกนนิ้วมือด้านข้าง, ระบบสแกนใบหน้า
• แบตเตอรี่ความจุ 5010mAh
• รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 18W แบบ USB-C
• ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 13 (TCL UI 3)
• สี : ม่วง (Twilight Purple), เทา (Dark Grey)

เปิดกล่อง TCL 40 SE จะประกอบด้วย

• ตัวเครื่อง TCL 40 SE
• Adapter กำลังชาร์จไฟ 9V/2A
• สายเคเบิล USB-C
• คู่มือการใช้งาน
• ฟิล์มกันรอย
• เคสมือถือ

รูปร่างดีไซน์ของ TCL 40 SE

เริ่มกับหน้าจอของเครื่องมีขนาด 6.75 นิ้ว ที่ออกแบบให้ขอบหน้าจอด้านข้างบางช่วงให้การแสดงผลหน้าจอมีลักษณะที่ดูเต็มมากขึ้น

ส่วนบนจะมาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีลำโพงสนทนาขนาดเล็กใช้สำหรับคุยสาย

ส่วนล่างพบกับปุ่มควบคุมระบบปฏิบัติการ Android เลือกได้ว่าจะเป็นแบบปัด หรือปุ่มกด

ด้านข้างของเครื่องออกแบบเหลี่ยมสันจับได้ถนัดมือ ฝั่งซ้ายมือจะมีช่องใส่ซิมการ์ดทั้งหมด 2 ช่อง และ MicroSD เป็นทั้งหมด 3 ช่องด้วยกัน

ฝั่งซ้ายจะมาพร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม Power สำหรับเปิด / ปิด และมีระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้

ด้านบนมีทั้งไมโครโฟน และลำโพงขนาดใหญ่

ส่วนล่างมีช่องเสียบหูฟัง, ไมโครโฟนตัวหลัก, USB-C และ ลำโพงตัวหลัก เท่ากับมือถือรุ่นนี้จะได้ลำโพงแบบ Stereo

พลิกมาด้านหลัง ออกแบบเรียบ ซึ่งสีที่ได้รับมาเป็นสีเทา Dark Grey จริงๆมไม่ได้มืดเท่าไหร่ ฝั่งซ้ายมือมีกล้องทั้งหมด 3 ตัวและโลโก้ TCL ที่โดดเด่น ด้านหลังไม่ได้เป็นแบบกระจกแต่เป็นผิวสัมผัสแบบ Matte

การสัมผัส / น้ำหนัก / สีสัน

ด้วยความที่มือถือรุ่นนี้มีหน้าจอที่ใหญ่แต่ไม่ได้ออกแบบให้เครื่องกว้างมากทำให้การจับถือคล่องมือ น้ำหนัก 190 กรัม ไม่ถือว่าหนักจนเกินไปสำหรับมือถือรุ่นนี้ ส่วนสีสันก็มีเลือกทั้งสีม่วง และ สีเทา พูดเลยว่าก็สวยทั้ง 2 สีล่ะครับ

การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง

 

การแสดงผลของ TCL 40 SE จะมีเทคโนโลยี NXTVISION ทำให้ประสบการณ์ที่ทำให้ภาพที่โดดเด่นภาพยนตร์ และมีโหมดต่างๆ เช่นการถนอมสายตา, โหมดอ่านหนังสือ, การสู้แสงได้ดี และสามารถปรับแสงความสว่างได้ แม้หน้าจอจะเป็นความละเอียด HD+ ก็ตาม และมี Refresh Rate 90Hz

 

ส่วนลำโพงของมือถือรุ่นนี้มีขนาดใหญ่ทั้งด้านบนและล่างทำให้เสียงที่ออกมานั้นถือว่าดังมากพอสมควรเลยทีเดียว ให้เสียงสเตอริโอมีมิติพอสมควร

ประสิทธิภาพ / การทดลองเล่นเกม

คะแนนประสิทธิภาพจาก AnTuTu : 137,881

การทดสอบประสิทธิภาพ Geekbench 5 : 174 คะแนน (Single) | 1,009 คะแนน (์Multi)

ผลการทดสอบประสิทธิภาพ 3DMark

จากคะแนนที่ปรากฏออกมานั้นถือว่าไม่ได้แรงมากนัก แต่ก็ยังคงเล่นเกมระดับปานกลางได้แต่ถ้ากราฟิกสูงอาจจะกระตุกมากพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามนี้เป็นอีกมือถือที่สามารถนำประสิทธิภาพไปใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันดีกว่าการเล่นเกม

การเชื่อมต่อไร้สาย / นำทาง

 

TCL 40 SE มาพร้อมกับปการเชื่อมต่อได้ทั้ง Wi-Fi AC, Bluetooth 5.1 การเชื่อมต่อผ่านมือถือทั้ง 4G LTE เท่านั้น ถามว่าเพียงพอหรือไม่ คำตอบคือเพียงพอแล้วครับ

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายใน / ระบบความปลอดภัย

 

แต่ที่น่าสนใจคือ TCL 40 SE เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Android 13 แต่ครอบด้วย TCL UI 3.0 เมื่อใช้งานได้ง่าย โดยมี การแจกระหว่าง การแจ้งเตือนและเมนูตั้งค่าแบบด่วนที่กดเข้าใจได้ง่าย และสามารถแบ่งหน้าจอและเปิด Application แบบ Popup ได้

 

เครื่องมือต่างๆ ติดตั้งมาให้แบบพอเพียง เช่น วิทยุ, เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง และมี Game Zone ส่วนมากจะเป็นการแนะนำเกมมากกว่า

 

ส่วนระบบความปลอดภัยจะมาพร้อมกับสแกนลายนิ้วมือทางด้านข้างเครื่อง และ สแกนใบหน้าแบบ 2 มิติ

เปิดกล้องลองถ่ายภาพ จะมีสเปกดังนี้

• กล้องดิจิทัลด้านหน้า
• ตัวหลักความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
• วิดีโอ : 1080p@30fps
• กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3  ตัว แบ่งออกเป็น
• กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมกับ PDAF
• กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
• กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
• วิดีโอถ่ายได้ที่ 1080P 30 FPS
• LED Flash

ฟีเจอร์ของกล้อง TCL 40 SE

เมื่อเห็นสเปกแบบนี้แล้วทางด้านกล้องของ TCL 40 SE จะมีลูกเล่นที่มาแบบครบไม่ว่าจะเป็น One Shot AI กล้องจะถ่ายภาพไว้สัก 5 วินาทีจากนั้นมีการตรวจจับรูปแบบที่เหมาะสม, AI Scene ทำให้แยกวัตถุของภาพได้มากถึง 22 หมวดทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาสวยงาม และมีการควบคุมท่าทางได้ด้วย และยังมีการถ่ายภาพกลางคืน เป็นต้น

ส่วนวิดีโอทำได้ที่ 1080p จะสามารถถ่ายวิดีโอในโหมดโปร หรือ Effect ศิลปะ ที่เราสามารถใส่ลักษณะของวิดีโอได้ตามที่เราต้องการ กลายเป็นลูกเล่นที่โดดเด่นสำหรับมือถือรุ่นนี้ไปเลย ที่สำคัญใครอยากทำ Stop Motion มือถือรุ่นนี้ก็ยังมีโหมดนี้อำนวยความสะดวกให้คุณด้วยครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง TCL 40 SE

 ภาพแสงปกติ (กลางวัน) 

 

ภาพในที่แสงน้อย (กลางคืน)

 

ภาพรูปแบบอื่นๆ 

การถ่ายภาพด้วยกล้องหน้า

สำหรับกล้องหน้าของ TCL 40 SE จะมาพร้อมกับความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซลและรองรับการถ่ายวิดีโอ Full HD ที่สำคัญคือสามารถถ่ายภาพละลายหลังได้อย่างสวนงาม

แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ

มาถึงเรื่องสุดท้ายของ TCL 40 SE คือแบตเตอรี่ขนาด 5010 mAh ถือว่ามีขนาดใหญ่พอสมควร เมื่อทดลองใช้งานพบว่าสามารถใช้งานข้ามวันได้ โดยระบบจัดการพลังงาน Smart Manager ส่วนการทดสอบด้วย PCMark ทำได้อยู่ที่ 19:43 ชั่วโมง ถือว่านานมาก ส่วนการชาร์จไฟของมือถือ TCL 40 SE จะได้กำลังสูงสุด 18W ด้วยกัน ทำให้สามารถชาร์จไฟแบตเตอรี่ขนาด 5010 mAh ไม่ต้องใช้เวลาที่นานพอสมควร และจัดการเพื่อชาร์จไฟได้ที่ Smart Charging ให้เหมาะสมกับการชาร์จไฟ

สรุปหลังทดลองใช้งาน TCL 40 SE มาสักพักระยะเวลาหนึ่ง

ต้องบอกเลยครับว่าการมาของมือถือในปี 2023 ที่ท้าทายในเรื่องของสเปกและราคาโดยเฉพาะกลุ่มคุ้มค่าอย่างราคาไม่เกิน 6,000 บาท ทำเอาหลายคนเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว สำหรับ TCL 40 SE จัดว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มสำหรับผู้ที่กำลังมองหามือถือที่เน้นการใช้งานทั่วไป เน้นแบตเตอรี่อึด, จอสวย, เสียงดังกับลำโพง Stereo

ส่วนราคาของมือถือรุ่นนี้ถือว่าเริ่มต้นแบบเป็นมิตรเพียง 4,999 กับ RAM 4GB / 128GB แต่ถ้ารุ่นท็อป RAM 6GB / 256GB อยู่ที่ 5,999 บาท

ก็ขึ้นอยู่กับคุณเองว่า มองถึงการใช้งานแบบไหนเพราะทั้ง 2 สเปกนี้คุ้มค่าทั้งคู่กับสิ่งที่แลกมาในก่อนหน้านี้ครับ

จุดเด่น

• ดีไซน์บางเบาจับถนัดมือ
• ความจำเยอะกว่าเพื่อน
• เสียงแบบ Stereo
• แบตเตอรี่อึดมาก
• ได้ระบบปฏิบัติการ Android 13
• สีสันหน้าจอสวยมาก

ข้อสังเกต

• ความละเอียดหน้าจอน้อยไปหน่อย
• ไม่มีเลนส์มุมกว้างมาให้
• เล่นเกมที่ใช้กราฟิกขั้นสูงไม่ได้