หลังจากที่ OnePlus 11 5G ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยมีราคาเริ่มต้น 29,990 บาท – 32,990 บาท กับสเปก Snapdragon 8 Gen 2 พร้อมกับ RAM และหน่วยความจำใหม่ล่าสุด และหน้าตาสวย แต่เรายังไม่ได้พรีวิวแบบจับจริง วันนี้ ก็เลยมาดูว่า ตัวเครื่องจริงของมือถือรุ่นนี้จากการสัมผัสแรกจากมือทีม Sanook Hitech จะรู้สักอย่างไร

แรกเห็นรูปร่าง

batch_20230216_192424

เริ่มต้นหน้าจอแบบ Fluid AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ พร้อมกับ Refresh Rate 120Hz (เป็นแบบ Adaptive) ความสว่างสูง ช่วยให้การมองดูภาพรวม ของหน้าจอให้ความสดใสและความสว่างกำลังดี ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เท่านั้น

batch_20230216_192327
batch_20230216_192332
batch_20230216_192339

ด้านข้างการออกแบบที่ดูบรรจงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ชัดเจน การจับถือให้ความรู้สึกเป็นมือถือที่มีมูลค่าสูง เพราะการเลือกใช้วัสดุ และการออกแบบตัวเครื่องต่างๆ ล้วนแต่ใส่ใจคุณภาพ รอบตัวเครื่องดูบาง พอสมควร

batch_20230216_192316

ด้านหลังของเครื่องเป็นกล้องทรงกลมและมีโลโก้ Hasselblad อยู่ภายใน กล้องหลัง 3 ตัว โดยเป็นครั้งแรกที่ OnePlus เปลี่ยนเซนเซอร์กล้องหลักมาใช้ของ Sony IMX890 ใหม่ ทำให้การเก็บรายละเอียดออกมาสำหรับภาพนิ่งทำได้ดี ส่วนสีมีให้เลือกทั้งสีเขียว Ethernal Green เป็นผิวมัน ส่วน Titan Black คือผิวแบบด้านและดูเป็น Sand Stone

รายละเอียดสเปกเครื่อง OnePlus 11 5G

ขนาดตัวเครื่อง 163.1 x 74.1 x 8.5 มม.
หน้าจอ LTPO3 AMOLED ขนาด 6.7 นิ้วความละเอียดระดับ 1440 x 3216 พิกเซล พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 1 - 120Hz Dolby Vision, HDR10+, 500 nits ความสว่าง 800 – 1,300 nits
ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น :IP64
ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
กราฟิก :Adreno 740
หน่วยความจำภายในความจุ 256 - 512GB
หน่วยความจำ RAM ขนาด 8/16GB LPDDR5X
กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน3 ตัว แบ่งออกเป็น

กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Sony IMX891 ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56 นิ้ว รูรับแสง F/1.8 พร้อม OIS, EIS, Omni-directional PDAF
กล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ เลนส์ Ultra Wide รูรับแสง F/2.2 มุมกว้าง 115 องศา
กล้องTelephoto ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.0 รองรับการซูมแบบ Optical 2x

กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล F/2.5
ลำโพงStereo ทั้งบนและล่าง รองรับ Dolby Audio
การเชื่อมต่อ WiFi11 B/G/N/AC/AX/BE หรือ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3, 5G / 4G
ระบบปลดล็อค Face Recognition Optical Finger Print ในหน้าจอ
แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh
รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว SuperVOOC กำลัง 100W(แบบสาย), ไม่รองรับระบบไร้สาย
ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย OxygenOS 13
สี Titan Black, Eternal Green

ภาพรวมของสเปกที่เห็น

ถือว่าเป็นสเปกใหม่ล่าสุดที่ให้ขุมพลังมาดีและยังได้ทั้งลำโพงคู่ด้านบนล่างการเชื่อมต่อล้ำสมัยกว่ามือถือปัจจุบันอย่าง Wi-Fi 7 เรียกว่ามือถือใหม่กว่า Router บางตัวในเวลาอีก แต่อย่างไรก็ตามจากที่สัมผัสความเร็วในการใช้งานถือว่ารวดเร็วทันใจประมาณหนึ่ง

ระบบปฏิบัติการ Oxygen OS 13 ครอบทับด้วย Android 13 ให้ความลื่นไหลได้ มีกลิ่นอายความเป็น OnePlus และ OPPO ผสมอยู่บ้าง จุดนี้ขึ้นอยู่กับคุณว่ารับได้หรือไม่ แต่การอัปเกรดคือจุดเด่น ไปต่อได้ทั้งหมด 4 เวอร์ชั่น และ Security Patch 5 ปี กลายเป็นมาตรฐานของมือถือ Android ไปแล้ว

batch_20230216_192320

สำหรับกล้องก็มีการใช้เทคโนโลยี Hasselblad Generation 3 เน้นเรื่องความเร็วและฟิลเตอร์ที่มีความโดดเด่นมากขึ้น แต่ทั้งนี้การทดสอบของเราได้ทดลองนั้นมีพื้นที่จำกัด เพราะเป็นการถ่ายในงาน Thailand Mobile Expo เท่านั้นภาพตัวอย่างที่คุณจะได้เห็นต่อไปนี้ทำได้เพียงภายในร่มเท่านั้น

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก OnePlus 11 5G

batch_img20230216181020
batch_img20230216191728
batch_img20230216191729
batch_img20230216191828_01(1
batch_img20230216192150
batch_img20230216192157

สรุปสั้นๆ หลังสัมผัสOnePlus 11 5G

batch_20230216_192308

โดยรวมแล้ว OnePlus 11 5G ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับมือถือระดับราคา Flagship (แม้เขาจะบอกเองว่า เขาคือ Flagship Killer แต่ราคาสูงขนาดนี้) โดดเด่นเรื่องความเฉียบคมของภาพที่ออกมาการถ่ายเข้าใกล้, การถ่ายภาพระยะการซูมในระยะไม่เกิน 8 เท่า และวัตถุต่างๆ ถือว่าทำการบ้านได้ดีอยู่สำหรับมือถือรุ่นนี้ เหลือแค่ รับได้กับ Software หรือไม่ที่จับมาเท่านั้นเอง

ความร้อนถือว่ามีแต่ไม่ได้มากเท่าไหร่ระหว่างการทดลองนั้นเครื่องเปิดจอตลอดเวลา พบว่าความร้อนไม่ได้สูงมากนัก อย่างไรก็ตามใครที่สนใจอยากเป็นเจ้าของก็มีราคาเครื่องดังนี้

วางจำหน่าย ราคา 29,990.- 8GB + 128GB สีดำ Titan Black
วางจำหน่าย ราคา 32,990.- 16GB + 256GB สีเขียว Eternal Green

ทั้งนี้ใครที่ซื้อทันตั้งแต่ช่วงปีแรกก็ได้หูฟัง OnePlus Buds Pro 2 ไปแล้วแต่ถ้าจองช่วงนี้ต้องติดตามว่ามีโปรโมชั่นอะไรที่น่าสนใจต้องรอติดตามกันต่อไปทั้งออนไลน์และในงาน Thailand Mobile Expo ระหว่างวันที่ 16 – 19 กุมภาพันธ์ นี้ หรือติดโปรฯ กับผู้ให้บริการอย่าง AIS ก็ไม่ติดขัดเท่าไหร่นะ

อัลบั้มภาพ [Hands On] OnePlus 11 5G มือถือเรือธงร่างสวย สเปกแรงจัดจ้าน ราคาขึ้นกับความศรัทธา ภาพที่ 10 / 11

[Hands On] OnePlus 11 5G มือถือเรือธงร่างสวย สเปกแรงจัดจ้าน ราคาขึ้นกับความศรัทธา

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

โพยซื้อ iPad ฉบับอัพเดทล่าสุด งาน Mobile EXPO 2023

เปิดโปรฯ เด็ดสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังในงาน Mobile Expo 2023 [ตอน3 อัปเดต 28 ตุลาคม]

ส่อง Gadget ลดหนักสุดๆ ในงาน Thailand Mobile Expo 2023 (ชุด 2)

มัดโปรลด Gadget เด็ดจากงาน Thailand Mobile Expo 2023 ระดับมิจจี้ ต้องมอง (ชุด 2)