'ติ๊กตอก' เผยรัฐบาลสหรัฐฯ กดดันเจ้าของชาวจีนขายหุ้นทิ้ง
บริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) เจ้าของแอปสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยม ติ๊กตอก (TikTok) เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการให้เจ้าของชาวจีนของ TikTok ขายหุ้นทิ้ง หากไม่ต้องการถูกสั่งห้ามใช้ในสหรัฐฯ สืบเนื่องจากความกังวลว่าแอปนี้อาจเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ในสหรัฐฯ
หากเป็นความจริงจะถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ข่มขู่ว่าจะแบน TikTok หลังจากที่รัฐบาลชุดที่แล้วเคยพยายามทำมาแล้วเมื่อปี 2020 แต่ถูกปัดตกไปโดยศาลสูงสหรัฐฯ
บรูค โอเบอร์เวทเทอร์ โฆษก TikTok กล่าวกับรอยเตอร์ว่า ได้รับแจ้งจากคณะกรรมาธิการด้านการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ หรือ CFIUS (Committee on Foreign Investment in the United States) ที่ต้องการให้เจ้าของที่เป็นชาวจีนขายหุ้นใน ByteDance ไม่เช่นนั้นจะถูกห้ามใช้ในสหรัฐฯ
ByteDance ยืนยันว่า ปัจจุบัน 60% ของผู้ถือหุ้นนั้นคือนักลงทุนจากทั่วโลก ส่วน 20% เป็นพนักงาน และอีก 20% เป็นของบรรดาผู้ก่อตั้งบริษัท
กระทรวงการต่างประเทศจีนตอบโต้ในวันพฤหัสบดีว่า สหรัฐฯ ยังไม่เคยแสดงหลักฐานว่า TikTok คุกคามความมั่นคงแห่งชาติ และว่า สหรัฐฯ ควรหยุดกดดันบริษัทเทคโนโลยีของจีนได้แล้ว
ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
เมื่อเดือนที่แล้ว ทำเนียบขาวสั่งห้ามใช้แอป TikTok ในอุปกรณ์สื่อสารของหน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด โดยให้เวลา 30 วันในการปฏิบัติตาม ขณะที่มากกว่า 30 รัฐในสหรัฐฯ สั่งแบนเจ้าหน้าที่ไม่ให้ใช้แอปนี้ในอุปกรณ์ของทางการเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม คำสั่งห้ามใช้ TikTok ในสหรัฐฯ อาจเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมายและแรงกดดันทางการเมือง เนื่องจากปัจจุบันมีชาวอเมริกันมากกว่า 100 ล้านคนที่ใช้แอปนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว