Kingston Technology ถูกจัดอันดับให้เป็นผู้นำ สำหรับการเป็นซัพพลายเออร์ SSD ในปี 2565

Kingston Technology ถูกจัดอันดับให้เป็นผู้นำ สำหรับการเป็นซัพพลายเออร์ SSD ในปี 2565

Kingston Technology ถูกจัดอันดับให้เป็นผู้นำ สำหรับการเป็นซัพพลายเออร์ SSD ในปี 2565
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Kingston Technology ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์หน่วยความจำและโซลูชันเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศว่า บริษัทครองตำแหน่งอันหนึ่งสำหรับส่วนแบ่งการตลาดด้าน SSD ในปี 2565 โดยแม้ความต้องการ SSD ระดับรายย่อยของทั่วโลกจะลดลงเมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี แต่ความยืดหยุ่นและความหลากหลายของผู้บริโภคในตลาดปลายทาง ที่ได้รับแรงหนุนจากการลดลงของราคาขายเฉลี่ยอย่างต่อเนื่อง ช่วยเสริมแกร่งให้กับความต้องการโซลูชัน SSD คุณภาพสูงจาก Kingston

กลุ่มผลิตภัณฑ์ SSD ประสิทธิภาพสูงของ Kingston ถูกขับเคลื่อนจากความมุ่งมั่นของบริษัทที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่มีความต้องการอันหลากหลาย โดย Kingston ได้เปิดตัว NV2 PCIe 4.0 NVMe SSD สำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานที่ล้ำสมัย เพื่อการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน และ KC3000 PCIe 4.0 NVMe M.2 SSD สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานระดับสูงที่ต้องการก้าวข้ามขีดจำกัดการทำงาน รวมทั้ง FURY Renegade PCIe 4.0 NVMe M.2 SSD ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเหล่าเกมเมอร์ที่กำลังมองหาประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือชั้นสำหรับการเป็นเจ้าสนาม พร้อมทั้งได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมอันยอดเยี่ยม

pressphoto_kingstontopscha

ข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดจากบริษัทด้านการวิเคราะห์ TRENDFOCUS ระบุว่า Kingston ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในการเป็นผู้จัดจำหน่าย SSD ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 24% และได้จัดส่ง SSD ระดับรายย่อยจำนวน 22 ล้านชิ้นภายในปี 2565 นอกจากนี้ส่วนแบ่งตลาด SSD ระดับรายย่อยของ Kingston เฉพาะในไตรมาสที่ 3 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 28.4% อย่างมีนัยสำคัญในช่องทางการจัดส่ง ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งแม้ต้องเผชิญกับความท้าทายระดับมหภาคอย่างต่อเนื่อง

TRENDFOCUS ยังได้ระบุว่าในปี 2565 ยอดรวมของตลาด SSD ระดับรายย่อยลดลง 15% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เคยส่งผลให้ความต้องการใช้งานพีซีเพิ่มสูงขึ้นในปี 2564 โดยผลกระทบต่อความต้องการดังกล่าวลดลงอย่างมาก ทั้งการใช้งานโน้ตบุ๊กและพีซี เดสก์ท็อป มีอัตราการลดลงเกือบเท่ากันที่ร้อยละ 13% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี อย่างไรก็ตามแม้การใช้งานพีซีระดับรายย่อยจะลดลง แต่ SSD ระดับรายย่อยกลับถูกนำมาใช้มากขึ้น เนื่องจากราคาของโมดูลมีการลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้พีซีหลายเครื่องที่ถูกซื้อไปในช่วงแรกๆ ของการแพร่ระบาดกำลังจะเข้าสู่รอบของการอัปเกรดหรือเปลี่ยนใหม่ ซึ่งอาจช่วยเพิ่มความต้องการใช้งานให้มากขึ้นได้

นายดอน เจเน็ตต์ รองประธานของ TRENDFOCUS กล่าวว่า “ในปี 2565 อัตราการใช้งาน SSD เพียงไดรฟ์เดียวบนเดสก์ท็อปพีซีสูงถึง 75% และคาดว่าจะสูงถึง 90% ภายในสิ้นปี 2566 เนื่องจาก Microsoft วางแผนที่จะเลิกใช้ HDD เป็นพื้นที่เก็บข้อมูลหลักของพีซีในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า โดยจะมีการจัดส่งอุปกรณ์ที่รองรับ HDD เพียงไม่กี่เครื่องเท่านั้น ด้วยเหตุนี้แนวโน้มของการเติบโตจึงยังคงมีต่อเนื่องไปยังปี 2567”

Kingston กล่าวว่า “ผลการวิเคราะห์ประจำปี 2565 ดังกล่าว ช่วยตอกย้ำตำแหน่งความเป็นผู้นำของ Kingston ในตลาดด้าน SSD และด้วยประโยชน์ด้านประสิทธิภาพจาก SSD ที่ผู้ใช้งานทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของ Kingston จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเราได้เสริมแกร่งให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราด้วยโซลูชัน NVMe และ SATA ที่มีประสิทธิภาพ

ซึ่งออกแบบมาเพื่อโน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อป นอกจากนี้เรารู้สึกภูมิใจที่ได้นำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น NV2 SSD สำหรับผู้ใช้ทั่วไป และ KC3000 SSD สำหรับผู้ใช้งานระดับสูง รวมทั้ง Kingston FURY Renegade SSD สำหรับสายเกมเมอร์ ทั้งนี้ทีมงานทั้งหมดของเราได้ช่วยขับเคลื่อนให้บรรลุความสำเร็จดังกล่าว โดยเราขอขอบคุณและแบ่งปันความสำเร็จนี้ร่วมกันกับพาร์ทเนอร์ ผู้จัดจำหน่าย และลูกค้าของเราทุกคน”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook