ASUS เผยโฉม Zenbook S13 OLED โน้ตบุ๊กที่บางเบาที่สุดในโลก ในเวลานี้
ASUS ได้เผยโฉมคอมพิวเตอร์ใหม่ล่าสุดอย่าง Zenbook S13 OLED รหัสรุ่น UX5304 มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ทำให้ตัวเครื่องบางเพียง 1 เซนติเมตร น้ำหนัก 1 กิโลกรัม สะดวกพกมากขึ้นนอกจากความพิเศษที่ตัวเครื่องจะบางเบาแล้ว Zenbook S 13 OLED มาพร้อมกับเทคโนโลยีการแสดงผล Lumina OLED ทำให้หน้าจอมีความคมชัดตอบสนองต่อการแสดงผลได้อย่างดี พร้อมทั้งมอบประสบการณ์ด้านภาพที่เหนือชั้น ด้วยค่าคอนทราสต์ที่สูงและสีสันที่กว้าง
ผ่านมาตรฐาน Pantone Validated VESA DisplayHDR™ True Black-certified และยังมีค่าความคลาดเคลื่อนสี (Delta E) ต่ำกว่า 1 พร้อมรองรับการปรับแต่งค่าเขตขอบสี ASUS Splendid. ASUS Tru2Life และ OLED Power Saving- Target Mode ใน MyASUS และยังมาพร้อมมาตรฐานทางทางหาร US-Military-Grade
โดดเด่นด้วยขนาดตัวเครื่องบางเพียง 1 ซม. ตัวเครื่องหนัก 1 กม. วางจำหน่ายในสองสีใหม่ เทา (Basalt Gray) และสีน้ำเงิน (Ponder Blue) ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ใช้วัสดุอะลูมิเนียม และพลาสติกที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิล โดยตัวกล่องบรรจุภัณฑ์ยังผ่านการรับรองจากองค์กรจัดการด้านป่าไม้ FSC ตัวกระดาษนำกลับมารีไซเคิลและย่อยสลายได้เอง 100%
ทั้งนี้ Zenbook S 13 OLED จะมาพร้อมกับสีเทา (Basalt Gray) ‘พลาสมาเซรามิก อะลูมิเนียม’ ที่ผ่านกระบวนการพิเศษเฉพาะของเอซุส ซึ่งสามารถรีไซเคิลได้ 100% ช่วยเพิ่มความทนทาน, การจัดการความร้อน และอายุการใช้งาน โดยให้ผิวสัมผัสเสมือนหินธรรมชาติ ทั้งนี้มีพร้อมกับขุมพลัง Intel EVO Gen 13 รุ่นสูงสุดจะเป็น Intel Core i7 พร้อมกับ RAM 32GB แบบ LPDDR5 1 TB PCIe® 4.0 x4 SSD, พอร์ตเชื่อมต่อครบครัน, แบตเตอรี่ขนาด 63 Wh ชาร์จไฟผ่าน USB-C
ทั้งนี้ ASUS Zenbook ใหม่ยังมีการเปิดตัวอีก 3 รุ่นได้แก่ Zenbook 14X OLED (UX3404) มาพร้อมกับวัสดใหม่พลาสมาเซเรามิกแอลูมิเนียมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สีเบจ (Sandstone Beige) และ สีเทา (Inkwell Gray) โดยรุ่นสีเบจ (Sandstone Beige) เลือกใช้ Intel® Evo™ 13th Gen Intel Core i9-13900H, การ์ดจอ NVIDIA® GeForce® RTX™ 3050, RAM 32 GB LPDDR5 และหน่วยเก็บข้อมูลขนาด 1 TB PCIe® 4.0 x4 SSD หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นขนาด 14.5 นิ้ว 16:10 2.8K 120 Hz ASUS Lumina OLED ใช้งานได้ต่อเนื่องกว่า 10 ชั่วโมง ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 70 Wh
Zenbook 14 Flip OLED (UP3404) กับดีไซน์พับได้มาพร้อมกับหน้าจอ ขนาด 14 นิ้ว 16:10 2.8K ASUS Lumina OLED ผ่านมาตรฐาน Pantone® Validated ให้สีที่ชัดสมจริง ใช้งานร่วมกับปากกา ASUS Pen 2.0 รองรับแรงกดได้กว่า 4096 ระดับ เลือกขุมพลังจาก13th Gen จาก Intel และได้ แบตเตอรี่ขนาด 75 Wh น้ำหนักเครื่อง 1.5 กก. บาง 15.9 มม. ปรับใช้งานได้ 360 องศา มีระบบเสียงสเตอริโอที่ได้การรับรองโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงจาก Harman Kardon ทำงานร่วมกับระบบจำลองเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos ให้เสียงที่ทรงพลังและชัดใสสมจริง
และ Vivobook S 15 OLED BAPE® Edition (K5504) โน้ตบุ๊กรุ่นพิเศษ เป็นการร่วมงานครั้งแรกกับแบรนด์สตรีทแวร์ชื่อดังอย่าง BAPE พร้อมร่วมถ่ายทอดสไตล์ตัวตนของ Vivobook ที่สดใส มีพลัง โดยในปีนี้ยังเป็นการครบรอบ 30 ปีของแบรนด์แฟชั่นชื่อดังอีกด้วย เป็นจังหวะที่ลงตัวในการเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ร่วมกันครั้งนี้
นอกจากตัวโน้ตบุ๊กที่แฟนๆต่างตั้งตารอกันแล้ว ตัวอุปกรณ์เสริมอย่าง เมาส์, กระเป๋าถือ และตุ๊กตาฟิกเกอร์ Baby Milo® ยังมาพร้อมกับลายพราง (Camo pattern) อันขึ้นชื่อของแบรนด์อีกด้วย การร่วมงานกันครั้งนี้จะเป็นการชูคอนเซ็ปต์ ‘Wow the World’ ของ Vivobook ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดี
ส่วนตระกูล Vivobook S 14 OLED และ vivobookS 15 OLED เป็นโน้ตบุ๊กที่ได้รับรองมาตรฐาน Evo ด้วยโปรเซสเซอร์ 13th Gen Intel Core i9-13900H และหน้าจอ ASUS Lumina OLED 2.8K 120 Hz ทำให้ Vivobook S ซีรีส์สามารถมอบความลื่นไหลในการสตรีมมิ่ง, การทำงาน, และความบันเทิง โดยการให้หน้าจอที่มีสัดส่วนใหญ่ถึง 88% เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง และระบบเสียงที่ได้รับการรับรองจาก Harman Kardon และ Dolby Atmos ตัวเครื่องมีความบางเพียง 17.9 มม. และเบาเพียง 1.5 กก. สำหรับรุ่นขนาดหน้าจอ 14.5 นิ้ว และ 1.7 กก.
สำหรับรุ่นขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว โน้ตบุ๊กในซีรีส์ Vivobook S มีขนาดกระทัดรัดและถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สะดวกต่อการพกพา โดยมีสีตัวเครื่องให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Midnight Black, Cool Silver, Cream White, หรือ Solar Blue และการออกแบบใหม่ทั้งหมดโดยใช้สไตล์แบบกล่องสี่เหลี่ยมสำหรับพื้นที่บริเวณพอร์ตเชื่อมต่อ รวมไปถึงรายละเอียดต่างๆอันเป็นเอกลักษณ์ของ Vivobook ไม่ว่าจะเป็นแท็กโลโก้แบบนูนบนฝาโลหะด้านหลังหน้าจอ, ลายแถบคาดอันโดดเด่นบนปุ่ม Enter, และปุ่ม ESC สีส้มสดใส
ทั้งนี้ ASUS ประเทศไทยจะเริ่มจำหน่ายคอมพิวเตอร์กลุ่มนี้ในเร็วๆ นี้ หากมีอัปเดตอะไรทีม Sanook Hitech จะนำมาบอกเล่ากันอีกครั้ง