รวมมือถืองบไม่เกิน 5,000 บาท สุดคุ้มค่าประจำเดือนมิถุนายน 2023

มือถือในราคาไม่เกิน 5,000 บาท มักจะเป็นรุ่นที่เน้นความพอใช้ และมีฟังก์ชั่นพื้นฐานอย่างพอเพียง ไม่สามารถมีคุณสมบัติและสเปคที่สูงมากเท่ากับรุ่นราคาสูงได้ ตัวอย่างเช่น มีกล้องถ่ายรูปที่มีความละเอียดต่ำกว่า, ประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการอาจจะไม่สูงเท่ากับรุ่นที่มีราคาสูงกว่า, ความจุหน่วยความจำและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอาจจะจำกัดเป็นบางส่วน

เข้าสู่กลางปี 2023 ทีม Sanook Hitech ได้รวบรวม มือถือราคาประหยัดงบไม่เกิน 5,000 บาท จะมีรุ่นไหนเข้าตากรรมการบ้าง เรามาดูกัน

1) realme C53 ราคาไม่เกิน 5,000 บาท

เพิ่งเปิดตัวไม่นานสำหรับมือถือ realme รุ่นนี้จุดเด่นเน้นเรื่องความคุ้มค่ากับมือถือที่มีราคาไม่เกิน 5,000 บาท ได้ทั้งกล้องคมชัด ชาร์จไฟเร็ว ความจำที่เยอะทั้ง RAM 6GB / ROM 128GB ด้วยกัน เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับงบประมาณเท่านี้

รายละเอียดสเปกของ realme C53

• ขนาดตัวเครื่อง 167.3 x 76.7 x 7.5 มิลลิเมตร 
• น้ำหนัก 182 กรัม  
• หน้าจอขนาด 6.74 นิ้ว ใช้หน้าจอ IPS-LCD
• ความละเอียดหน้าจอ : 1080x2400 , Refresh Rate 90Hz
• กระจกหน้าจอ : ไม่ได้ระบุ
• มาตรฐานการกันน้ำ : ไม่ระบุ
• ชิปเซ็ต :   Unisoc Tiger T612 Octa Core | GPU : Mali G57
• RAM: 6GB
• ความจำในตัว :128GB
• เพิ่มความจำผ่าน MicroSD
• ระบบปฏิบัติการ : Android 13 + realme UI T
• การเชื่อมต่อ WiFi 5 (AC), 4G, Bluetooth 5.0, A-GPS, GPS
• ช่องเสียบ USB-C + ช่องเสียบหูฟัง
• รองรับ Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่อง + MicroSD
• ระบบเสียง : เฉพาะด้านล่าง
• ระบบไมโครโฟน : 2 จุดบนล่าง
• กล้องมีหลังประกอบด้วย 2 ตัวด้วยกันประกอบด้วย
• กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล PDAF F/1.8
• กล้องที่ 2 ไม่ได้ระบุว่าเป็นกล้องอะไร
• รองรับการถ่ายวิดีโอ FHD 30 FPS
• กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล  วิดีโอ 720P
• แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 33W
• ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า และสแกนนิ้วมือด้านข้าง
• สี : Champion Gold, Mighty Black

2) Nokia C32 ราคา 3,590 บาท

HMD จัดหนักสำหรับมือถือ Nokia C32 รุ่นเริ่มต้นแบบนี้แต่ได้ทั้ง Android 13 USB-C กล้อง 50 ล้านพิกเซล ในราคา 3,590 บาท ใช้คำว่าคุ้มสุดในงบนี้อีกรุ่นเลยก็ว่าได้ แถมบอดี้ประกอบแน่นหนาสมกับการเป็น Nokia สักที

รายละเอียดของ Nokia C32

• ขนาดตัวเครื่อง (ยาว x กว้าง x หนา) 164.6 x 75.9 x 8.6 มม.
• น้ำหนัก 199.4 กรัม
• หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้วความละเอียดระดับ 1600x720 พิกเซล 
• ชนิดกระจกกันรอย ไม่ได้ระบุ
• ชิปเซ็ตประมวลผล Unisoc SC9863A1Octa Core
• กราฟิก : IMG8322
•  RAM ขนาด 4 GB
• พื้นที่จัดเก็บภายใน : 128GB
• พื้นที่จัดเก็บภายนอก : MicroSD
• การเชื่อมต่อ 4G LTE, Wi-Fi N Bluetooth 5.2
• ลำโพง : เฉาพะด้านล่าง
• Port การเชื่อมต่อ: ช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm / USB-C
• กล้องดิจิทัลด้านหน้า
• ตัวหลักความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
• วิดีโอ : 1080p@30fps
• กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 2  ตัว แบ่งออกเป็น
• กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมกับ PDAF
• กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
• วิดีโอถ่ายได้ที่ 1080P 30 FPS
• LED Flash
• ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น :ไม่ได้ระบุ
• ระบบปลดล็อค : สแกนนิ้วมือด้านข้าง, ระบบสแกนใบหน้า
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh
• รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 10W แบบ USB-C
• ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 13
• สี : Charcoal, Autumn Green

3) TCL 40 SE ราคาเริ่มต้น 4,999 บาท

ต่อกันที่ TCL 40 SE  มาพร้อมกับหน้าจอ 6.75 นิ้ว การแสดงภาพยนตร์เสียงที่โดดเด่นทำให้ใช้งานได้เต็มที่มากขึ้น ให้ความชัดเจนและสีสันจึงรับชมสิ่งที่คุณชอบและเพลิดเพลินกับการสนทนาทางวิดีโอได้ ถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น แม้แต่ฉากที่มีแสงน้อย ภาพระยะใกล้ และทิวทัศน์ก็สามารถเผยให้เห็นศิลปะได้ กล้อง 50MP และคุณสมบัติ AI TCL 40 SE รุ่นใหม่ล่าสุด นี่เป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่น่าจับตามองพอสมควรเลยครับ กับราคาเริ่มต้น 4,999 บาท

รายละเอียดสเปกของ TCL 40 SE

• ขนาดตัวเครื่อง (ยาว x กว้าง x หนา) 167.91 x 76.5 x 8.45 มม.
• น้ำหนัก 190 กรัม
• หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.75 นิ้วความละเอียดระดับ 1600x720 พิกเซล ความสว่าง 450 nits Refresh Rate 90Hz
• ชนิดกระจกกันรอย ไม่ได้ระบุ
• ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio G37 Octa Core
• กราฟิก : PowerVR GE8320
•  RAM ขนาด 4 GB
• พื้นที่จัดเก็บภายใน : 128GB
• พื้นที่จัดเก็บภายนอก : MicroSD
• การเชื่อมต่อ 4G LTE, Wi-Fi AC (Wi-Fi 5) Bluetooth 5.1
• ลำโพง : Stereo บนและล่าง
• Port การเชื่อมต่อ : ช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm / USB-C
• กล้องดิจิทัลด้านหน้า
• ตัวหลักความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
• วิดีโอ : 1080p@30fps
• กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3  ตัว แบ่งออกเป็น
• กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมกับ PDAF
• กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
• กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
• วิดีโอถ่ายได้ที่ 1080P 30 FPS
• LED Flash
• ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น :ไม่ได้ระบุ
• ระบบปลดล็อค : สแกนนิ้วมือด้านข้าง, ระบบสแกนใบหน้า
• แบตเตอรี่ความจุ 5010mAh
• รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 18W แบบ USB-C
• ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 13 (TCL UI 3)
• สี : ม่วง (Twilight Purple), เทา (Dark Grey)

4) Samsung Galaxy A04 ราคา 3,999 บาท

Samsung ในปีนี้กับ Galaxy A04 รุ่นนี้มีดีทั้งหน้าจอใหญ่ 6.5 นิ้ว กล้องคมชัด 50 ล้านพิกเซล, สเปกถือว่ารับได้กับทุกงาน, Android 12 และยังมีอัปเกรดต่อเนื่อง แถมราคาเปิดมาถูกเพียง 3,999 บาท

รายละเอียดของ Samsung Galaxy A04

• ขนาดตัวเครื่อง 164.4 x 76.3 x 9.1 มิลลิเมตร   
• น้ำหนัก 192 กรัม 
• หน้าจอ IPS LCD พิกเซล ขนาด 6.5 นิ้วความละเอียดระดับ HD+ (1600 x 720 พิกเซล) พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 60Hz  
• ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio P35
• กราฟิก :  PowerVR Rouge
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB 
• หน่วยความจำภายในความจุ 32GB
• หน่วยความจำภายนอก Micro SD
• การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0, 4G 
• ลำโพง เฉพาะตัวล่าง 
• กล้องหน้า 1 ตัวความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p
• กล้องหลังทั้งหมด 2 ตัวประกอบด้วย 
• ตัวหลักความละเอียด50 ล้านพิกเซล PDAF, F/2.2
• กล้องตัวที่3 2 ล้านพิกเซล Depth Sensor
• LED Flash  
• รองรับการถ่ายวิดีโอFull HD 30 FPS
• ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ ไม่ได้ระบุ
• ระบบปลดล็อค : สแกนใบหน้า Face Recognition + สแกนนิ้วมือด้านข้าง
• แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh 
• รองรับ Fast Charge 10W (แบบสาย)
• ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 12 + One UI Core 4.1
• สี : Black, Green

5) Redmi 12C ราคาไม่เกิน 5,000 บาท

รุ่นอัปเกรดของ redmi 10C ที่ได้จอใหญ่ขึ้น ขุมพลังแรงขึ้นและยังได้ราคาคุ้มค่าสำหรับสเปกเริ่มต้นอย่าง RAM 4GB / ความจำ 64GB ในราคาไม่เกิน 5,000 บาท

รายละเอียดสเปกของ Redmi 12C

• สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 168.8 x 76.4 x 8.8 มม.          
• น้ำหนัก: 192 กรัม          
• หน้าจอ: IPS LCD ขนาด 6.71 นิ้ว 
• ความละเอียดหน้าจอ 720x1650 พิกเซล 
• ชิปเซ็ต MediaTek Helio G85  + Mali-G52 MC2
• การเชื่อมต่อ : 4G LTE (Nano SIM 2 Slot) WiFi 802.11 B/G/N/AC Dual Band, Bluetooth 5.1, GPS, A-GPS   
• ความจำภายใน : 64/128GB          
• RAM 4/6GB
• ความจำภายนอก :  MicroSD 
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11 + MIUI 13
• ระบบความปลอดภัย          

• ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนใบหน้าแบบ 2 มิติ
• ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนนิ้วด้านหลัง
• กล้องหลัง 2 ตัว  

• กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/1.7 เป็นเลนส์หลัก
• กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 0.08 ล้านพิกเซล (Depth Sensor)

• กล้องหน้า: 5 ล้านพิกเซล (f2.2)      
• แบตเตอรี่ : 5,000 mAh
• ระบบชาร์จไฟ : 10W   
• ลำโพงเฉพาะด้านล่าง
• ช่องเสียบ : Micro USB, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร   
• การป้องกันน้ำและฝุ่น : ไม่ระบุ
• สี:  Black, Blue, Mint, Violet

6) Tecno Spark 10 Pro ราคา 4,499 บาท

จัดว่าวางจำหน่ายไม่นานแต่สเปกดีอย่าง Tecno Spark 10 จริงๆ มีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น แต่สำหรับรุ่นนี้ที่แนะนำคือ Spark 10 Pro ที่มีกล้องความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมกับสเปกต่างๆ ที่เรียกได้ว่าจัดเต็มกันเลยทีเดียว ดังนั้นใครที่ต้องการมือถือที่ย่อมเยาอีกรุ่นที่น่าสนใจครับ

รายละเอียดของ Tecno Spark 10 Pro

• ขนาดตัวเครื่อง 168.4 x 76.2 x 8.4 มม.
• น้ำหนัก 208 กรัม
• หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.8 นิ้วความละเอียดระดับ 2460x1080 พิกเซล พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz ความสว่าง 500 nits
• ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น :ไม่ระบุ
• ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio G88
• กราฟิก : Mali-G52 MC2
•  RAM ขนาด 8GB
• พื้นที่จัดเก็บภายใน : 128 / 256GB
• พื้นที่จัดเก็บภายนอก : MicroSD
• การเชื่อมต่อ WiFi11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.1, 4G
• ลำโพงมีเฉพาะด้านใต้
• กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล วิดีโอ Full HD
• กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 2 ตัว แบ่งออกเป็น
• กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ รูรับแสง F/1.6 พร้อม PDAF
• กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4
• วิดีโอถ่ายได้ที่ 1440p/1080p@30fps
• LED Flash
• ระบบปลดล็อค Face Recognition และ ระบบสแกนนิ้วมือด้านข้าง
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh
• รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 18W
• ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 12 + HiOS 12
• สี  Starry Black, Pearl White

การเลือกซื้อ มือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาท นั้นควรพิจารณาความต้องการและการใช้งานของคุณ หากคุณต้องการใช้งานเบื้องต้นเช่นการโทรหรือส่งข้อความ และไม่ต้องการความสำคัญในเรื่องฟีเจอร์หรือสเปคที่สูง การเลือกซื้อมือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาทอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม

สำหรับในครั้งหน้าจะเป็นกลุ่มราคาของมือถือรุ่นไหน รอติดตามได้ที่ Sanook Hitech ครับ