รวมมือถือตกรุ่นน่าใช้ ราคาน่าคบหาต้อนรับเดือนสิงหาคม 2023
กลับมาพบกับการ รวมมือถือประจำเดือนสิงหาคม 2023 ในช่วงนี้หลายคนก็พยายามเลือกมือถือให้กับคนที่คุณรักอยู่ใช่ไหมล่ะครับแต่ราคาก็เป็นปัจจัยที่คิดเช่นเดียวกัน วันนี้ Sanook Hitech จะรวมมือถือที่เพิ่งจะตกรุ่นหรือบางรุ่นก็ยังมีขายอยู่ในราคาคุ้มค่า ตัวไหนที่น่าสนใจ เรามาดูกันเลย
รวมมือถือตกรุ่นน่าใช้ ประจำเดือนสิงหาคม 2023
1. Samsung Galaxy Z Flip4 ราคาเริ่มต้น 26,900 บาท
รุ่นใหม่เปิดตัวแล้วกับราคาที่หลายคนเห็นแล้วอาจจะมองหารุ่นเดิมที่ราคาลง อันนี้พูดเลยว่าจุดคุ้มค่ามาถึงแล้วถ้าใครอยากซื้อมือถือพับได้ที่กันน้ำและน่าเชื่อถือได้ ตอนนี้มาถึงเวลาที่คุณจะซื้อแล้วครับ และยังมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกซื้อเช่นเดียวกัน ไม่ต้องทันสมัยแต่ราคาถูกกว่าแล้วไง ^^
รายละเอียดสเปกอย่างเป็นทางการของ Samsung Galaxy Z Flip4
- ขนาดตัวเครื่อง(เมื่อพับ) 71.9 x 84.9 x 17.1 (ส่วนบน) – 15.9 (ส่วนหน้า) มิลลิเมตร (เมื่อกาง) 71.9 x 165.2 x 6.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 187 กรัม
- หน้าจอด้านใน DynamicAMOLED 2X 6.7″ 2640 x 1080 พิกเซล (HDR10+) Refresh Rate 120Hz เป็นแบบ Adaptive (1-120Hz)
- หน้าจอด้านนอก 1.9 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด 512x260 พิกเซล
- ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 8+ Gen 1 | GPU Adreno 730
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายในความจุ 128 / 256 /512GB
- การเชื่อมต่อไร้สาย 4G, 5G, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax (Wi-Fi 6E), Bluetooth 5.2, GPS, A-GPS
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ให้มุมกว้าง 80 องศา
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 2 ตัว ครอบด้วย Super Clear Glass Gorilla Glass DX แบ่งออกเป็น
- กล้องตัวหลัก 12 ล้านพิกเซล Dual Pixel F/1.8 มุมกว้าง 83 องศา
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล F/2.2 ให้มุมกว้าง 123 องศา
- LED Flash
- วิดีโอ 8K, 4K 60 FPS
- ระบบปลดล็อค Face Recognition และ สแกนนิ้วด้านข้าง
- แบตเตอรี่ความจุ 3700mAh
- ระบบลำโพง Dual Speaker พร้อมกับ Dolby ATMOS
- รองรับ Fast Charge 25W (แบบสาย), รองรับชาร์จไร้สาย Qi Wireless Power Share 2.0
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.1.1
- มาตรฐานกันน้ำ IPX8
- สีที่จำหน่ายคือ Bora Purple, Graphite, Pink Gold, Blue
2. Samsung Galaxy Z Fold4
เช่นเดียวกับ Galaxy Z Fold4 ที่ใกล้ตกรุ่นและเห็นโปรโมชั่นลดราคาบ่อยมาก ฉะนั้นใครที่ไม่อยากรอรุ่นใหม่รุ่นเดิมก็ลดแรงอยู่ สอยได้ก่อนที่รุ่นใหม่จะมาก็ดีนะ
รายละเอียดสเปกอย่างเป็นทางการของ Samsung Galaxy Z Fold4
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : (ก่อนกาง) 155.1 x 67.3 x 15.8 มิลลิเมตร (ถ้าไม่นับกล้อง 14.2 มิลลิเมตร) | (เมื่อกาง) 155.1 x 130.1 x 6.3 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 263 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : IPX8
- หน้าจอแสดงผลด้านนอก : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.2 นิ้วความละเอียด 2316 x 904 พิกเซล, อัตราส่วน 23.1:9
- หน้าจอภายใน Dynamic AMOLED 2X 120Hz (48 – 120Hz) ขนาด 7.6 นิ้ว ความละเอียด 2176 x 1812 พิกเซล,อัตราส่วน 21.6:18 รองรับปากกา S Pen
- กระจกคลุมจอ Gorilla Glass Victus+
- ชิปเซ็ตประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 ใช้ GPU Adreno 730
- หน่วยความจำแรม (RAM) : 12 GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) : 256 / 512GB / 1TB
- การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 B/G/N/AC/AX, Bluetooth 5.2, GPS, A-GPS, 5G, 4G
- SIM Card : รองรับ Dual Nano SIM และ 1 eSIM
- หน่วยความจำภายนอก : -
- ระบบปฏิบัติการ : Android 12 + One UI 4.1.1
- ระบบความปลอดภัย
- สแกนลายนิ้วมือผ่านด้านข้าง
- ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว ครอบด้วย Super Clear Glass Gorilla Glass DX+ :
- ตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง F/1.8 มุมกว้าง 85 องศา
- กล้อง Ulta Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มุมมอง 123 องศา
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง F/2.4 OIS ซูมได้ 3 เท่า
- กล้องดิจิทัลด้านหน้า : (ด้านในหน้าจอ) 4 ล้านพิกเซล F1.8 | (ด้านนอก) กล้องความละเอียด 10 ล้านพิกเซล F2.2 มุมกว้าง 85 องศา
- ลำโพง Stereo พร้อมกับ Dolby ATMOS
- แบตเตอรี่ความจุ : 4,400 mAh (แบ่งแบตเตอรี่ 2 ข้าง) + Fast Charge 25W, Wireless Charge 15W, Reverse Wireless Charge 4.5W
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ : USB Type-C
- สีสันของเครื่อง : Graygreen, Phantom Black, Beige
3. Vivo X70 Pro 5G ราคา 17,690 บาท
vivo X70 Pro 5G ที่ราคาลดต่ำกว่าที่เปิดตัวเยอะพอสมควร นอกจากเลนส์กล้องที่โดดเด่น และยังอัปเกรดต่อได้แล้วรุ่นนี้ยังได้ความบางเบาถือคล่องแถมวิดีโอยังมี Gimbal ที่รับประกันว่าภาพวิดีโอนิ่งแน่นอนในงบไม่เกิน 18,000 บาท จากเรือธงสู่ระดับ Mid-Range รุ่นนี้ใช้คำว่าถ้าหาซื้อได้ไม่ควรพลาดจริง ๆรายละเอียดสเปกของ vivo X70 Pro
- ขนาด: 158.3 x 73.2 x 8 มิลลิเมตร
- หนัก: 185 กรัม
- หน้าจอแสดงผล : LTPS AMOLED ความละเอียด 1080x2376 พิกเซล ขนาดประมาณ 6.5 นิ้ว รองรับ Refresh Rate 120Hz HDR10+ จอโค้ง
- มาตรฐานกัน : ไม่ระบุ
- ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 1200 Octa Core vivo Edition | GPU Mali-G77 MC9
- RAM : 12 GB
- ROM : 256 GB
- ความจำเสริม : ไม่สามารถเพิ่มความจำได้
- ระบบปฏิบัติการ: Android 11 + FunTouch OS 12
- WiFi 802.11 B/G/N/AC/6 (Dual Band)
- Bluetooth 5.2
- เครือข่ายมือถือ : 2G/3G/4G/5G
- กล้องหลัง 4 ตัว:
ตัวแรกเป็นของ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/1.8 1.0µm, PDAF + Gimbal
ตัวที่ สอง กล้องมุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 116 องศา
ตัวที่ สาม เป็นเลนส์ Telephoto 12 ล้านพิกเซล f/2.0, 50mm (telephoto), 1/2.93", 1.22µm, PDAF, ซูมได้ 2 เท่า แบบ Optical Zoom
ตัวที่ 4 เป็นเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 125 mm. ซูมได้ 5 เท่า (Periscope) PDAF + OIS
มาพร้อมกับ เลนส์ Zeiss และเคลือบด้วย Zeiss T* ลดแสดงสะท้อนพร้อมกับ Pixel Shift, Dual LED Flash และมี HDR รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30/60 1080p@30/60fps, gyro-EIS, HDR10+ - กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก: 32 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอได้ 4K
- รองรับระบบความปลอดภัย : สแกนนิ้วในหน้าจอ และ สแกนใบหน้า
- ชนิดซิมการ์ด : nano SIM Dual SIM
- ช่องเสียบ : USB-C
- แบตเตอรี่ : Li-Po 4450 mAh + Flash Charge 44W ติดมาให้กับที่กล่อง
- สี : Cosmic Black, Aurora Dawn
4. realme 10 Pro+ 5G
มือถือรุ่นหนึ่งที่กำลังจะตกรุ่นไม่นานหลังจากนี้เพราะรุ่นใหม่ที่เปิดตัวแล้ว แต่รุ่นก่อนหน้านี้กำลังลดราคาลงมาด้วยกัน และจะมาพร้อมกับ กล้องความละเอียด 108 ล้านพิกเซล พร้อมกับกล้องมุมกว้างมาให้ ขุมพลังเป็น Dimensity 1080 เริ่มลดลงเหลือราวๆ 14,999 บาทแล้วล่ะรายละเอียดสเปกของ realme 10 Pro+
- ขนาดตัวเครื่อง (ยาว x กว้าง x หนา) 161.5 x 73.9 x 7.8 มม.
- น้ำหนัก 172 - 175 กรัม
- หน้าจอ AMOLED ขนาด7 นิ้วความละเอียดระดับ 1080 x 2400 พิกเซล พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz รองรับ HDR 10 ให้สีสูงสุด 1 พ้นล้านสี พร้อมกับความสว่าง 800 nits
- ชนิดกระจกกันรอย : ไม่ได้ระบุ
- ชิปเซ็ตประมวลผล : MediaTek Dimensity 920 5G
- กราฟิก : Mali G68 MC4
- RAM ขนาด 12GB + VRAM 12GB
- พื้นที่จัดเก็บภายใน : 256GB
- พื้นที่จัดเก็บภายนอก : ไม่สามารถเพิ่มได้
- การเชื่อมต่อ WiFi11 B/G/N/AC Bluetooth 5.2, 4G, 5G, A-GPS, GPS
- ลำโพง : Dual Speaker บนและล่าง
- ช่องเสียบ USB-C
- กล้องดิจิทัลด้านหน้า
- ตัวหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล F/2.5
- วิดีโอ : 1080p@30fps
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องหลังความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ รูรับแสง F/1.8 พร้อมกับระบบ OIS
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล Ultra Wide
- กล้องละลายหลัง (Depth) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- วิดีโอถ่ายได้ที่ 1080P 30FPS
- LED Flash
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น : ไม่ระบุ
- ระบบปลดล็อค Face Recognition และ ระบบสแกนนิ้วด้านข้าง
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh
- รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 67W
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 13 + realme UI 4.1
- สี ทอง ไฮเปอร์สเปซ, ดำดาร์คแมตเตอร์
5. iPhone 11
ถึงแม้ว่าจะตกรุ่นมาหลายรุ่นและคาดว่าจะหายไปจากตลาดในเร็วๆ นี้ แต่สำหรับ iPhone 11 ถือเป็นรุ่น 4G รุ่นสุดท้ายของ Apple ที่ยังหาซื้อได้อยู่โดราคาล่าสุดจากที่เห็นทางออนไลน์เหลือเพียง 16,100 บาท แต่ถ้าซื้อกับผู้ให้บริการจะลดแรงกว่านี้ ใครที่สนใจมือถืออย่าง iPhone งบประหยัดและเน้นจอใหญ่ รุ่นนี้ยังเลือกได้อยู่รายละเอียดของ iPhone 11
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 9 x 75.7 x 8.3 มม.
- น้ำหนัก: 194 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : IP68 (ลงน้ำได้ 2 เมตร นาน 30 นาที)
- หน้าจอ: IPS LCD (Liquid Retina Display) ขนาด 1 นิ้ว
- ความละเอียดหน้าจอ 828 x 1792 พิกเซล ความหนาแน่น 326 ppi
- ชิปเซ็ต Apple A13 Bionic Hexa Core (ตัวแรง 2 Core + ทำงานปกติ 4 Core) + Apple GPU (4 Core)
- การเชื่อมต่อ : 4G LTE (Nano SIM + eSIM), WiFi 802.11 B/G/N/AC Dual Band, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : iOS 13.1 (Upgrade ได้)
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนใบหน้าแบบ 3 มิติ (Face ID)
- กล้องหลัง / ตัว : 12 ล้านพิกเซล (8,) + 12 ล้านพิกเซล (4, Ultra-Wide)
- กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล (0)
- แบตเตอรี : 3,110 mAh + Fast Charge 18W (ซื้ออุปกรณ์แยก) / Wireless Charge
- แรม (RAM) : 4GB
- ความจำภายใน : 64/128/256GB
- ความจำภายนอก : -
- ช่องเสียบ : Lightning Port
- สี : สีม่วง Purple, สีขาว White, สีเขียว Green, สีเหลือง Yellow, สีดำ Black, และ สีแดง (PRODUCT) Red
สำหรับในครั้งต่อไปทีม Sanook Hitech จะรวมมือถือกลุ่มไหนให้คุณได้เลือกซื้อกันนั้นต้องรอติดตามกันในครั้งหน้าครับ