พูดคุยกับ "Meta" ครึ่งหลังปี 2023 ที่เน้น Solution พัฒนา AI ให้ใช้จริงมากขึ้น

วันนี้ทีม Sanook Hitech ได้มาอัปเดตเกี่ยวกับเรื่องราวของ Meta (Facebook) เดิมถึงเรื่องการดำเนินการและรวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ และรวมถึง Threads น้องใหม่ ในยุคของ AI ที่มีบทบาทมากขึ้น มีเรื่องราวอย่างไร เรามาดูกันได้เลยครับ

ก่อนอื่นทาง Meta ได้เผยจำนวนผู้ใช้งานที่ผ่านมาว่า ในเวลานี้มีผู้ใช้งานกว่า 3.88 พันล้านคน ต่อเดือนและต่อวัน 3 พันล้านคนต่อวัน เมื่อไตรมาสที่ผ่านมา และการเติบโตมากถึง 6% ในไตรมาสที่ผ่านมา โดยเป็นข้อมูลนี้เป็น และมีทั้ง 10 ล้านร้ายที่เข้าถึงธุรกิจ รวมถึงการเห็นโฆษณาสูงขึ้น 34% แต่ว่าราคานั้นลดลง 16% เรียกว่าคุ้มทุนมากขึ้น
ในปี 2023 มีนวัตกรรมตั้งแต่

• เปิดตัว Llama 2.0 เป็น Open Source ที่เป็น Generative AI ที่ทำให้คนใช้งานได้มากขึ้น และจับมือกับ Microsoft (Microsoft Azure)
• เปิดตัว Threads
• เปิดตัว Meta Quest 3 ในเดือนกันยายน

ในเรื่องของการเติบโตเกี่ยวกับ AI (Artificical Intellgent) ทาง Meta มองเห็นในเรื่องนำไปใช้งาน มาใช้งานตั้งแต่การพิมพ์ข้อความเพื่อให้ต้องการเก็บภาพได้มากขึ้น

 

ย้อนกับไปเล็กน้อยเพราะ AI ไม่ได้เพิ่งเกิดตัวแต่เริ่มพัฒนาในปี 1966 มาโด่งดังในปี 1997 ที่ AI สามารถล้มเซียนหมากรุกได้เช่นเดียวกัน และมาถึงในช่วงเวลานี้เป็น AI 2.0 ที่มีการพัฒนามากขึ้น เช่นการใช้ AI เปลี่ยนฟิลเตอร์ หรือ ถามตอบเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้การพัฒนาของ AI กับทาง Meta (Facebook) เริ่มตั้งแต่ 2006 ที่มีการนำ New Feeds ที่ใช้ AI ในการพัฒนา จากนั้นมีการพัฒนา AI โดย Yann LeCun ขึ้นมา และพัฒนามาเรื่อยๆ ตั้งแต่ PyTouch ในปี 2016 เป็นต้น

 

AI ใน Facebook ที่คุณได้เห็นตั้งแต่

AI For Feed : โดยมีการเห็นข้อมูลต่างๆ โดยมีเทคโนโลยี AI Discovery Engine สิ่งใหม่ๆ ที่ค้นพบใน Platform โดย Facebook เห็นที่ 40% และ Instagram 20% ซึ่งมีผลคือ ทำให้เวลาใช้งานบน Platform สูงขึ้น ทั้ง Facebook 7% และ Instagram สูงขึ้น 24% ด้วยกัน

• การใช้ AI ให้มีประสิทธิภาพของโฆษณาของเรา ตั้งแต่
  
  • การลงทุนด้าน Hardware ที่จะทำให้ AI ประมวลผลเร็วขึ้น
  • การลงทุนพัฒนา Software ที่เราจะมีการพัฒนาการใช้ข้อมูลในระดับข้อมูลภาพรวม ให้มากขึ้น
  • การพัฒนาทำให้กระบวนการสร้างแคมเปญโฆษณาให้ดีมากยิ่งขึ้น

ในเรื่องของการที่ Meta ได้โฟกัสในปีนี้จะมีการพูดถึงเรื่องของเทรนด์วิดีโอสั้น หรือ Reels นั้นเติบโตค่อนข้างรวดเร็ว และช่วโมงใช้งานมากกว่า 50% ของการใช้งานทั้งหมด ส่วนประเทศไทยนั้นถือว่าเป็นอันดับ 2 ของการใช้งานบนออนไลน์ ส่วน 40% ของคนไทยใช้วิดีโอเป็น ช่องทาสงติดตามมากที่สุด

Advantage Suite ระบบที่สามารถให้ AI เรียนรู้เรื่องของการเห็นโฆษณามากขึ้นเช่นเราสามารถเห็นดูข้อมูลในเรื่องโฆษณาไดเช่นเดียวกัน และลดการทำงานของนักการตลาดใช้เวลาน้อยลง

Business Messaging ประเทศไทยเองเป็นผู้ที่มีการโต้ตอบทางแชทบ่อยมาก เพราะธุรกิจกว่า 65% มีการใช้ Click to Messenger เพื่อพูดคุยกันต่อเช่นเดียวกัน

Threads จริงๆ ออกมาเพื่อเชื่อมโยงกับ Instagram เพื่อสร้าง Community แต่มีช่องว่างของ Instagram ทำให้เกิดการพูดคุยได้ด้วย และการทำงานร่วมกับ Instagram ทำให้เกิดความปลอดภัย เพราะใช้นโยบาลแบบเดียวกัน และสามารถดแสดงผลแบบ Recommend ได้เช่นเดียวกัน

ซึ่งผู้ใช้งานมีสูงถึง 100 ล้านบัญชี และมีกลับมาใช้งานกว่า 10 ล้านบัญชีเช่นเดียวกัน วิธีการเข้าไปใช้งานเมื่อกดผ่าน Instagram ได้แล้ว และยังสามารถดึง Following เข้าไปยัง Threads ได้ สิ่งที่ปรับปรุงตอนนี้

• Feed จะมีการเพิ่ม Recommend
• ระบบค้นหาที่ดีกว่าเดิม แต่การค้นหาที่มีข้อความกำลังพัฒนา
• การพิมพ์ข้อความได้มากถึง 500 ข้อความ และสามารถ Mention ได้แต่จะถูกนับได้
• เพิ่มอัปโหลดวิดีโอ, ภาพ ได้เข้าไป และสามารถกด Like หรือ Replies ได้
• สามารถแสดงความคิดเห็นของ ข้อมูลตั้งแต่การ Repost ถ้าเหมือนกัน และ Quote หากเราต้องการโต้ตอบ Post นั้นๆ นั้น

และยังสามารถควบคุมได้ว่าตั้งแต่การเห็นเฉพาะคน หรือ เฉพาะ คนที่ตามเรา หรือ คนทั้งหมด สามารถให้เห็นว่าใน Feed ของใครบ้าง

• สามารถ Block คนที่เราไม่ต้องการได้
• ความปลอดภัย เราสามารถ 2 Factor จะทำงานร่วมกับ, การลง Content ที่ไม่เหมาะสมจะไม่ปรากฏแน่นอน และตั้งค่า Block
• ข้อความได้ตามเที่เราต้องการเช่นเดียวกัน
• เห็นแบบนี้แล้วทาง Meta ได้นำฟีเจอร์ที่ใหม่ที่ทำให้น่าใช้มากขึ้นได้แก่
• ดูตามลำดับการ Post
• ดูตาม Post เฉพาะคนที่ Post
• แปลภาษาให้เป็นสิ่งที่เราเข้าใจได้
• เพิ่มปุ่ม Activity ที่ใช้งานได้ง่าย
• ปุ่ม Follow กลับมาแล้วทำให้กดง่ายขึ้นหากจะติดตาม
• Threads สามารถเข้าถึงข้อความเกี่ยวกับ DM ได้ด้วย
• เช็คว่าเราสามารถดูว่า Like อะไรไปบ้าง
• ดูว่าใครที่เรากด Follow ก่อนว่าจะเป็นใคร
• สามารถใส่คำอธิบาย (Alt Text) ข้อความรูป เพื่อให้คนที่ไม่สามารถกดดูรูปได้

ทั้งนี้ในเรื่องที่มีการพูดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยมีดังนี้

 

Q: ในเรื่องของการจัดการ Spam / Online Spammer จะจัดการ

A: โดยวิธีการดูแลขั้นจะมีการดูข้อมูลตั้งแต่บัญชีนั้นจริงหรือปลอม, ระบบเช็ค Verify เพื่อทำให้ เราสามารถตรวจจับเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาได้ในอนาคต

Q: จะมีการปรับรูปแบบ AI ในการจัดการบัญชีปลอมหรือไม่

A: ตอนนี้กำลังมีการพัฒนาอยู่และมีการจับมือกับภาครัฐเพื่อทำให้จัดการเกี่ยวกับสแกมที่ทำให้เกิดหลอกลวงได้ทั้งหมด ถึงแม้ว่าโฆษณาที่มีหลอกลวง แม้ว่า Meta จะเจอปัญหานี้อยู่ก็ตาม

Q: Meta Verify ในประเทศไทยมีความสนใจขนาดไหนและทาง Page จะเริ่มใช้เมื่อไหร่

A: Meta Verify จะเน้นเรื่องการทำเกี่ยวกับ Creator มากขึ้น ทั้งนี้ Meta Verify ถูกออกแบบให้กับผู้ติดตามที่น้อยกว่า และคนที่จำนวนนี้ เปิดรับ เพื่อใช้งานได้ยืนยัน และเร็วๆ นี้จะมีการการ Verify ทั้ง Instagram และ Facebook แบบ Bundle ในอนาคต

Q: จาก Facebook Reels ที่ทำให้เกิดการแสดงผลยอดผิดพลาด ทำให้เกิดการชักชวนโดย Creator สามารถสร้างรายได้ผ่านวิดีโอสั้นทาง Meta จะมีการอธิบายอย่างไร

A: ในด้านนี้อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งและมีการแจ้งเตือนเพื่อให้เกิดขึ้น ทั้งนี้มีแค่บาง Account เท่านั้นที่เกิดความผิดพลาดในการแสดงที่เกิดรายได้มากเกินความเป็นจริง

Q: Reels มี Creator เพิ่มขึ้นไหมจากกรณีนี้

A: ทาง Meta ไม่สามารถบอกได้ และมีการแก้ไขและแจ้งเพื่อความชัดเจน

Q: หากไม่ได้ใช้ Threads แล้วควรทำอย่างไร เพราะตอนนี้ปิด Account แยกไม่ได้ต้ปิดราวม

A: จะต้องปิดระบบ Reply เพื่อไม่ให้เกิดการโต้ตอบ ส่วน Solution Disable Account จะต้องรอกันไปก่อนว่าเป็นอย่างไร และเกิดขึ้นในรูปแบบไหน