[รีวิว] Huawei Watch GT4 สมาร์ตวอชท์ใหม่ที่ครบเครื่องกว่าที่คุณรู้จัก
Huawei มีอุปกรณ์ Smart Watch มากมายแต่สำหรับ Watch GT Series ที่ถือว่าเป็นรุ่นที่เน้นอายุการใช้งานที่ยาวนานไม่น้อยและมาพร้อมกับลูกเล่นที่ดี ในรอบนี้กับ Watch GT 4 ใหม่ล่าสุด มันจะเป็นอย่างไรมาดูกันครับ
สำหรับรายละเอียดสเปกนั้นขอแปะไว้ก่อนแต่รอบนี้เราพาคุณมาดูตัวเรือนและฟีเจอร์หลังจากการใช้งานกันก่อนดีกว่า
(Coming Soon)
รูปร่างหน้าตา
เริ่มตันต้องบอกก่อนว่า HUAWEI Watch GT4 นั้นจะยังมาพร้อมกับบอดี้ทำจากโลหะในแบบอลูมิเนียมที่แข็งแรง โดยถ้ามีขนาด 42 มิลลิเมตร จะเป็นโครเมี่ยมที่สวยงาม แต่ถ้าเป็น 47 มิลลิเมตร จะเน้นความแข็งแรงดุดันแบบผู้ชาย ซึ่งรอบนี้หน้าจอของรุ่น 47 มิลลิเมตรจะมีขนาดใหญ่ถึง 1.4 นิ้ว และหน้าจอปรับปรุงให้เกิดการสู้แสงที่ดีมากขึ้น
รอบตัวเครื่องจะออกแบบแตกต่างกัน โดยขนาด 42 มิลลิเมตร จะออกแบบให้ดูเรียบหรูกว่า แต่ขณะที่ 47 มิลลิเมตร จะออกแบบให้ดุดันโดยการออกแบบให้มีสันและมุมที่ชัดเจน ฝั่งขวามือจะเป็นที่อยู่ของปุ่ม โดยปุ่มด้านบน จะหมุนได้ ส่วนด้านล่างเป็นปุ่ม Quick Menu หรือกดแล้วเข้าสู่โหมดออกกำลังกายได้
ฝั่งซ้ายจะมีลำโพงตัวเครื่อง ใช่ครับมันสามารถใช้งานในการสนทนาและมีไมโครโฟนที่จะมีฟีเจอร์วัดการนอนกรนได้เช่นเดียวกัน
สายสำหรับรอบนี้จะมีให้เลือกตั้งแต่สายโลหะ, ไทเทเนียม, หนังและยาง โดยแบ่งเป็นทั้งหมด 7 รูปแบบ แต่ขนาด 42 มิลลิเมตร 3 แบบคือ หนังสีขาวตัวเรือนทอง, สายสีดำ, แบบไทเทเนียม และขนาด 47 มิลลิเมตร สายเรซินดำ, เขียว, ไทเทเนียม และ อลูมิเนียมที่เห็นอยู่นี้ ขนาดของสายคือ 22 มิลลิเมตร เท่าเดิม
พลิกมาด้านล่างจะมีเซนเซอร์วัดชีพจรและวัดระบบต่างๆ ของร่างกายและยังสามารถออกแบบให้รองรับกับระบบชาร์จไฟไร้สาย
ภาพรวมแล้วตัวเรือนจะหนักกว่า GT3 แค่ไม่กี่กรัมเท่านั้นและยังออกแบบให้สามารถทนทานและทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น ในรอบนี้สิ่งที่ทำให้รุ่นนี้หนักกว่าเดิมจะมีประโยชน์ต่อฟีเจอร์ที่จะเล่าตามไปนี้ และมาตรฐานกันน้ำ ทำได้ที่ 5ATM หรือ กันน้ำได้ 10 เมตร
การเชื่อมต่อกับมือถือผ่าน Huawei Health
สำหรับการเชื่อมต่อของ HUAWEI Watch Buds จะสามารถใช้งานได้ทั้ง Android และ iOS ผ่านโปรแกรม Huawei Health ที่ สามารถติดตั้งได้ง่ายเพราะในกล่องจะมี QR Code สแกนได้ง่าย หรือจะกดลิงก์ตรงได้ที่นี่
หลังจากติดตั้ง HUAWEI Health ให้กดเข้าไปที่หน้าอุปกรณ์ จากนั้นเลือกไปที่ Add หรือ Scan ก็ได้ แต่ระบบจะแสดงผลอัตโนมัติขึ้นมา จากนั้นให้กดยอมให้ Apps เข้าถึงเรื่องการแจ้งเตือนและภายในของมือถือเพื่อจดจำข้อมูลในกิจกรรมของคุณ
เมื่อเชื่อมต่อเสร็จแล้ว แนะนำให้อัปเดตจนจบทุกขั้นตอนหลังจากนั้น ก็สามารถใช้งานต่อได้ตามปกติ แต่อย่าลืมไปขอเรื่องสิทธิ์การใช้งานให้ครบเพื่อให้สามารถใช้งานต่อได้ครับ
สำหรับผู้ใช้ iOS: ดาวน์โหลดและติดตั้งแอป Huawei Health จาก App Store หากคุณทำการติดตั้งแล้ว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับการอัปเดตแล้ว
เปิดแอป Huawei Health ล็อกอินและทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อให้การอนุญาตที่จำเป็นแก่แอป ไปที่ขีด 3 ปุ่มด้านบนแล้วเลือกสแกน | แตะ จับคู่ และแอปจะค้นหาอุปกรณ์บลูทูธที่พร้อมใช้งานที่อยู่ใกล้เคียงโดยอัตโนมัติ เมื่อพบนาฬิกาของคุณ ให้แตะที่ชื่อของนาฬิกาเพื่อเริ่มการจับคู่
เมื่อคำขอจับคู่แสดงบนหน้าจอนาฬิกา ให้แตะเพื่อจับคู่นาฬิกาและโทรศัพท์ของคุณ ยืนยันการจับคู่บนโทรศัพท์ของคุณเช่นกัน
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
เริ่มต้นที่ระบบปฏิบัติการ เลือกใช้ Harmony OS 3.0 ใหม่ที่ออกแบบให้หน้าจอการทำงานดูง่ายมากขึ้นและยังสามารถสั่งงานได้สะดวกมากกว่าเดิม แถมยังมีการออกแบบ Font ตัวอักษรที่คมชัด ช่วยให้การใส่ออกกำลังกายทำได้ดีกว่าเดิมชัดเจน นอกจากนี้ยังมีความสามารถเพิ่มขึ้นได้แก่
- ฟีเจอร์การออกกำลังกาย 100+ รูปแบบแถมขนาด 47 มิลลิเมตร จะมีการตรวจจับบาสเกตบอล, ฟุตบอล ได้เช่นเดียวกัน
- ฟีเจอร์ตรวจจับการนอน Huawei TruSleep ที่สามารถวัดการนอนได้แม่นยำ และยังรองรับการอัปเกรดฟีเจอร์ให้สามารถวัดการนอนกรนได้ด้วย
- ฟีเจอร์วัดความเครียดและ SpO2 อัตโนมัติ จะทำงานทันที่เมื่อคุณสวมใส่และตั้งค่าผ่าน Huawei Health
- Font การออกแบบในตัวฟีเจอร์ออกำลังกายจะมีการออกแบบให้สามารถแสดงผลได้ชัดเจนกว่ารุ่นก่อน และเอาใจคนไทยด้วยเสียงการเตือนออกกำลังกายภาษาไทยด้วย
- เชื่อมต่อกับมือถือง่านผ่าน Huawei Health ที่มีความเข้าถึงง่ายกับทุกระบบปฏิบัติการของมือถือ
ด้านฟีเจอร์ทั่วไปสามารถใช้งานได้ตั้งแต่
- การสั่งถ่ายภาพจากมือถือ รอบนี้สั่งได้หมดไม่มีกั๊กว่าจะต้องเป็นมือถือ Huawei
- สามารถรับสายและคุยได้ทันทีจากตัวนาฬิกา
- สามารถแจ้งเตือนผ่านมือถือได้
- ดูตารางปฏิทินต่างๆ ได้
- รวมไปถึงสามารถติดตั้ง Apps เพิ่มเติมจาก AppGallery ผ่านใน Huawei Health ได้
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
และอีกเรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงคือแบตเตอรี่โดยเฉพาะขนาด 47 มิลลิเมตร ที่สวมใส่อยู่นี้ พบว่ามีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิม 100mAH หรือคิดได้เป็น 20% จากที่ได้ทดลองใช้งานออกกำลังกายและใช้ชีวิตประจำวัน พร้อมกับมีการแจ้งเตือนกับมือถือพบว่า แบตเตอรี่ลดลงค่อนข้างน้อย และยังสามารถชาร์จไฟด้วยระบบ Wireless Charging ด้วยเช่นกัน
สรุปหลังจากที่ได้ทดลอง HUAWEI Watch GT4 หลังจากที่ได้ทดลองใช้งาน
การเปลี่ยนแปลงของ Huawei Watch GT4 ถือว่าน่าตื่นเต้นมากกว่าเดิม เนื่องจากการปรับปรุงที่มีความใส่ใจเกี่ยวกับการตรวจจับสุขภาพที่ดีมากพอสมควรก็แล้วกับที่มีการพัฒนาจาก R&D ของ Huawei Health Lab ที่มีทั้งหมด 3 แห่งทั่วโลก
ทั้งนี้ HUAWEI Watch GT 4 เปิดราคาอย่างเป็นทางการเริ่มต้น 6,990 บาท โดยสามารถหาซื้อได้ทางออนไลน์ได้แก่ Shopee และ Lazada โดยลงทะเบียนความสนใจได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึง 5 ตุลาคม นี้
ดังนั้นใครที่อยากได้ Smart Watch ที่ครบเครื่องสามารถจัดได้เลยตั้งแต่วันนี้
จุดเด่น
- สเปกครบทั้งขนาดเล็กและใหญ่
- แบตเตอรี่อึดมาก
- การทำงานลื่นไหลมากเช่นกัน
- ต่อได้ทั้ง 3 OS แบบไม่มีแบ่งค่าย
- ราคาดีมากเริ่มต้นไม่แรงเลย
ข้อสังเกต
- การเชื่อมต่อกับ Android ยังคงทำได้แต่มีขั้นตอนหน่อย
- น้ำหนักของมันหนักกว่าเดิมโดยเฉพาะรุ่นใหญ่
อัลบั้มภาพ 35 ภาพ