เล่น 1 วันกับ "iPhone 15 Pro" ที่เขาว่าเดิม มันก็ไม่เดิมซะทีเดียว

เล่น 1 วันกับ "iPhone 15 Pro" ที่เขาว่าเดิม มันก็ไม่เดิมซะทีเดียว

เล่น 1 วันกับ "iPhone 15 Pro" ที่เขาว่าเดิม มันก็ไม่เดิมซะทีเดียว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่ iPhone 15 Series ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เชื่อๆ กันว่าหลายคนอยากเห็นรีวิว iPhone 15 Pro Max แบบเต็มอยู่ใช่ไหมครับ แต่สำหรับครั้งนี้ทีม Sanook Hitech พาคุณมาดู iPhone 15 Pro ซึ่งเป็นกลางกันก่อน โดยรอบนี้เราได้สี Titanium Black ซึ่งเป็นอีกสีที่มองว่าสวยอยู่มาได้สัมผัสกัน

รายละเอียดสเปก iPhone 15 Pro

  • ขนาดตัวเครื่อง 146.6 x 70.6 x 8.25 มิลลิเมตร  
  • น้ำหนัก 187 กรัม  
  • หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ใช้หน้าจอ Super Retina XDR (OLED) แบบ Dynamic Island
  • ความละเอียดหน้าจอ :  2556 x 1179 พิกเซล รองรับการแสดงผล HDR10+ Dolby Vision True-Tone และ Wide Color Gamut ความสว่าง 2,000 nits
  • กระจกหน้าจอ : Ceramic Shield
  • มาตรฐานการกันน้ำ IP68  กันน้ำได้ลึกสุด 6 เมตร
  • ชิปเซ็ต : Apple A17 Pro | GPU : เป็นของ Apple เองเป็นแบบ 6 Core 
  • RAM: 8GB LPDDR5X
  • ความจำในตัว :128 / 256 / 512GB / 1TB
  • เพิ่มความจำผ่าน iCloud Storage   
  • ระบบปฏิบัติการ : iOS 17 
  • การเชื่อมต่อWiFi 6 (AX), GPS, 5G, Bluetooth 5.3 NFC
  • พอร์ต : USB-C
  • รองรับ eSIM และ Nano SIM      
  • ระบบเสียง 
  • ลำโพง Stereo ทั้งด้านบนและล่าง รองรับ Dolby ATMOS
  • กล้องมีหลังประกอบด้วย 3 ตัวด้วยกันประกอบด้วย   
    • กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F/1.6 มาพร้อมกับ LED Flash รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 24/30/60 FPS, Full HD 30/60/120/240, Timelapse ทั้งกลางวันและกลางคืน sensor-shift OIS
    • กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง 4 มุมมอง120 องศา 
    • กล้อง Telephoto 3x 
  • กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล  พร้อมระบบ Auto Focus
  • แบตเตอรี่ ยังไม่ระบุความจุ
  • ระบบชาร์จไฟ : รองรับกำลังชาร์จไฟ (20W) รองรับทั้ง ชาร์จไร้สาย (15W)
  • ระบบความปลอดภัย สแกนหน้าแบบ Face ID
  • สี : ไทเทเนียมดำ, ไทเทเนียมขาว, ไทเทเนียมน้ำเงิน, ไทเทเนียมธรรมชาติ

แรกเห็นรูปร่างดีไซน์

batch_20230923_143056

ต้องบอกก่อนว่า iPhone 15 Pro นั้นก็มีความคล้ายกับ iPhone 14 Pro พอสมควรเลยครับ แต่สิ่งที่อยากจะบอกจริงๆ นั้นคือด้านหน้ามีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.1 นิ้วเท่านั้น โดยความละเอียดเท่ากันกับรุ่นที่แล้วคือ 2556 x 1179 พิกเซล แต่ถ้าใครถืออยู่แล้วดูจะบอกว่า ขอบหน้าจอพบว่ามันบางลงกว่าเดิมช่วยทำให้เครื่องถือได้กระชับมากขึ้น 

batch_20230923_174906

batch_20230923_175215

batch_20230923_175146

รอบตัวเครื่องทำจากไทเทเนียม แต่ความจริงแล้วโครงสร้างเป็นแบบออลูมิเนียม ดังนั้นการที่โลหะ 2 ชนิดเข้าด้วยกันจึงทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้กาวหรือการเชื่อมที่ทำให้เกิดการซ่อมที่ยากเหมือนแต่ก่อน ไม่แปลกใจที่ทำให้ราคาค่าซ่อมถูก แต่ความรู้สึกที่ได้นั้นพบว่าด้านกว่ารุ่นเดิม แต่เป็นรอยนิ้วมือเมื่อจับไหม คำตอบคือ ตามภาพเลย มีแบบชัดเจนมาก ส่วนวิธีการแก้ปัญหาคือ ซื้อสีอ่อนก็จะลดได้นิดหน่อย หรือจะลบออกด้วยผ้าสะอาดๆ แต่สำหรับสายกลัวเลย แนะนำแปะฟิล์มรอบเครื่องเลยจบครับ ส่วนด้านล่างมีพอร์ต USB-C ที่ Apple เคลมว่าสะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น

batch_20230923_174850

ด้านหลังมาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 48 ล้านพิกเซลในเลนส์หลัก, 12 ล้านพิกเซลในเลนส์มุมกว้างและ Telephoto และมี LiDAR ด้านหลังมีระบบ Wireless Charging ด้วยครับ

ภาพรวมน้ำหนักและการถือ

batch_20230923_115503

ด้วยน้ำหนักของของเครื่องที่เคลมว่าอยู่ 187 กรัมเท่านั้นถือว่าน้ำหนักเครื่องเบากว่าเดิมพอสมควร แต่ทั้งนี้การออกแบบและการเลือกใช้วัสดุก็มีผลต่อน้ำหนัก แต่ถ้าถามว่าความหนักแน่นเมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้วยังมีอยู่ไหม คำตอบคือยังมีอยู่ดังนั้นใครที่บ่นว่า iPhone 14 Pro หนักจังเลย เลิกบ่นนะเขาเบาแล้ว แต่ถ้าใส่เคสล่ะ ก็หนักเหมือนเดิม ขึ้นอยู่กับแต่ละเคสที่เลือกล่ะกัน

ภาพและเสียงเป็นอย่างไร

batch_20230923_175517

สำหรับภาพและเสียงยังคงคล้ายกับ iPhone 14 Pro คือภาพคมชัดเสียงดังกำลังดี เหมาะกับการใช้งานทั่วไปอยู่ แต่ความสว่างของหน้าจอรอบนี้เพิ่มไปที่ 2,000 nits ทำให้เวลาที่ต้องใช้งานภายนอกอาคารกลับทำได้ดีแบบเห็นได้ชัด ก็กลายเป็นจุดเด่นของมือถือรุ่นนี้ไปเลยครับ

ประสิทธิภาพ / การเล่นเกม / การเชื่อมต่อ

 batch_img_0178

batch_img_0179

จากการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องพบว่าการเครื่องทำงานได้รวดเร็วดีอย่างที่คาดไว้ เพียงแต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการทดสอบคือความร้อนสูงเกินไปหน่อยเท่านั้นเอง โดยเฉพาะการเล่นเกมหรือการทำงานระดับสูงเลยครับ

batch_20230923_175544

ส่วนการเชื่อมต่อต่างๆ รอบนี้ยังคงทำได้ครบทั้ง Wi-Fi6e, Bluetooth 5.3, GPS, A-GPS แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญคือการเปลี่ยนแปลงเป็น USB-C นี่แหล่ะ โดยในเรื่องของการเชื่อมต่อต่างๆ ง่ายขึ้น โดยเฉพาะรุ่น Pro ที่จะได้ใช้เทคโนโลยี USB3 นั่นเอง ความเร็วถือว่าสูง แต่ต้องใช้สายแบบ USB-C to USB-C ด้วยกันนะครับ

batch_20230923_094755

ระบบปฏิบัติการภายในของเครื่อง

batch_20230923_111630

ภายในของ iPhone 15 Pro เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 17 ใหม่ล่าสุด โดยเป็นระบบปฏิบัติการที่ปรับปรุงจากเดิมมากขึ้นในเรื่องการทำงานต่างๆ ทั้งนี้ทีม Sanook Hitech ได้สรุปเรื่องต่างๆ ไว้สามารถอ่านได้จากข้างล่างนี้

กล้องเป็นอย่างไร

batch_20230923_175118

สำหรับสเปกของเครื่อง iPhone 15 Pro ประกอบไปด้วย

  • กล้องมีหลังประกอบด้วย 3 ตัวด้วยกันประกอบด้วย   
    • กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F/1.6 มาพร้อมกับ LED Flash รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 24/30/60 FPS, Full HD 30/60/120/240, Timelapse ทั้งกลางวันและกลางคืน sensor-shift OIS
    • กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง 4 มุมมอง120 องศา 
    • กล้อง Telephoto 3x 
  • กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล  พร้อมระบบ Auto Focus

ส่วนฟีเจอร์ภายในของกล้องไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักยกเว้นความสะดวกสบายเวลาถ่ายภาพ Portrait ถ้าเข้าโหมดปกติแล้วถ่ายคนแล้วจับได้ว่าถ่ายคนจะขึ้นเป็นโหมดละลายหลังทันที แต่ถ้าถ่ายของใกล้ๆ จะเป็นโหมด Macro ให้ทันที ส่วนที่เหลือจากการทดลองมาไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมายนัก

ผลงานจากกล้อง iPhone 15 Pro

 batch_img_0058
batch_img_0059
batch_img_0060
batch_img_0061
batch_img_0062
batch_img_0093
batch_img_0097
batch_img_0099
batch_img_4934
batch_img_4935

 

แบตเตอรี่เป็นอย่างไร

batch_img_0188

จากการที่มีการรายงานปริมาณแบตเตอรี่ของ iPhone 15 Pro ว่ามีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพียงแต่ว่าการทดสอบแบบ 1 วันที่มีการใช้งานทั่วไป เข้า Social Network เล็กน้อย และรวมไปถึงการเล่นเกม พบว่าปริมาณไฟนั้นถือว่าลงเร็วพอสมควร โดยพบว่าถ้าดาวน์โหลดเกม Genshin Impact ตั้งแต่เช้าจนครบแค่นี้ไฟก็หายไปจาก 100% เหลือที่ 78% อย่างรวดเร็ว ตัดภาพมาที่โหมด Standby เฉยๆ ปริมาณไฟไหลลงแต่ไม่ได้เร็วมากอย่างที่คิด

อย่างไรก็ตาม ระบบชาร์จไฟของเครื่องรุ่นนี้อยู่ที่ 20W แบบสาย (เสียบจริงถ้าไฟเหลือน้อยอาจจะได้ 27W) และไร้สายถ้าใช้ MagSafe ทำได้ที่ 15W เช่นเคย

บทสรุปของ iPhone 15 Pro หลังจากใช้งานในระยะเวลา 1 วันประทับใจแค่ไหน

batch_20230923_174850_1

โดยรวมแล้วสำหรับ iPhone 15 Pro จากที่ได้สัมผัสจริงๆ 1 วันเต็มต้องบอกว่ามีการแก้มือจาก iPhone 14 Pro ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบเครื่องเบากว่าเดิม หน้าจอคมชัดและสว่างมากขึ้น และรวมไปถึงในเรื่องประสิทธิภาพในการเล่นเกม แต่ในเรื่องข้อด้อยคือเรื่องการจัดการพลังงานที่อาจจะต้องทำใจหน่อยว่า มันยังไม่ดีเท่าไหร่ ส่วนเรื่องจับแล้วเป็นรอยนิ้วมือ ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดากับผิวสัมผัสโลหะที่ยังไงก็ต้องเป็นอยู่ดี ถ้าซีเรียดมากอาจจะต้องแปะหุ้มเครื่องไปก็เท่านั้นเองครับ 

และมาถึงเรื่องราคาของเครื่องรุ่นนี้กันครับโดยมีดังนี้

  • iPhone 15 Pro ขนาด 128GB ราคา 41,900 บาท
  • iPhone 15 Pro ขนาด 256GB ราคา 45,900 บาท
  • iPhone 15 Pro ขนาด 512GB ราคา 54,900 บาท
  • iPhone 15 Pro ขนาด 1TB ราคา 63,900 บาท

batch_20230923_175242

ปิดท้ายรอบนี้แบบไม่มีข้อเด่นและข้อสังเกตว่า ถ้าคุณอยากได้มือถือ iPhone ที่ทรงประสิทธิภาพ แต่ต้องพกพาง่าย หรือไปเล่น Pro Max หน้าร้านแล้วบอกว่ามันมากกินไป แต่จะไปเอา Plus ก็ใหญ่ไป iPhone 15 Pro มันคือคำตอบที่ดีเช่นเดียวกันครับ 

ส่วนรุ่นอื่นๆ ของ iPhone 15 Series เรามีรีวิวให้คุณได้รับชมแน่นอนที่ Sanook Hitech สามารถกลับมาติดตามในโอกาสหน้านะครับ

อัลบั้มภาพ 29 ภาพ

อัลบั้มภาพ 29 ภาพ ของ เล่น 1 วันกับ "iPhone 15 Pro" ที่เขาว่าเดิม มันก็ไม่เดิมซะทีเดียว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook