ส่อง! 5 คุณสมบัติสำคัญของ Apple Watch ที่มีประโยชน์สำหรับการดูแลสุขภาพหัวใจ

ส่อง! 5 คุณสมบัติสำคัญของ Apple Watch ที่มีประโยชน์สำหรับการดูแลสุขภาพหัวใจ

ส่อง! 5 คุณสมบัติสำคัญของ Apple Watch ที่มีประโยชน์สำหรับการดูแลสุขภาพหัวใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เนื่องในโอกาสวันหัวใจโลก 29 กันยายน สมาพันธ์หัวใจโลกสนับสนุนให้ผู้คนทั่วโลกดูแลหัวใจของตนเองให้ดี และที่ Apple เป้าหมายของเราคือการเพิ่มศักยภาพให้แก่ลูกค้าในการเรียนรู้เพิ่มเติมและจัดการกับการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง

โดย Apple Watch ได้มอบชุดคุณสมบัติที่ครอบคลุมในเรื่องการดูแลสุขภาพหัวใจ และในช่วงเวลาที่ผ่านมา Apple Watch ก็ได้แจ้งเตือนผู้ใช้ทั่วโลกถึงสัญญาณที่อาจบ่งบอกถึงภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (AFib) และช่วยผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ในการสร้างสุขนิสัยที่ดีเพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

5 คุณสมบัติสำคัญของ Apple Watch ที่มีประโยชน์สำหรับการดูแลสุขภาพหัวใจของคุณ

การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจเร็วและช้า 

- Apple Watch จะตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วหรือช้าผิดปกติอยู่ในเบื้องหลัง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงภาวะร้ายแรงที่แฝงอยู่ และอาจช่วยให้ผู้ใช้รับรู้ว่าตนเองอยู่ในสถานการณ์ที่สมควรเข้ารับการประเมินเพิ่มเติมหรือไม่

- หากอัตราการเต้นของหัวใจของผู้ใช้สูงกว่า 120 ครั้งต่อนาทีหรือต่ำกว่า 40 ครั้งต่อนาที ในขณะที่ไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลา 10 นาที ผู้ใช้ก็จะได้รับการแจ้งเตือน ผู้ใช้งานสามารถปรับเกณฑ์จำนวนครั้งในการเต้นต่อนาที หรือเปิดหรือปิดการแจ้งเตือนได้ โดยการแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจทั้งหมดพร้อมด้วยวัน เวลา และอัตราการเต้นของหัวใจ สามารถดูได้ในแอปสุขภาพบน iPhone

การแจ้งเตือนจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอ

- คุณสมบัติการแจ้งเตือนจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอบน Apple Watch จะตรวจดูการเต้นของหัวใจของคุณเป็นครั้งคราว เพื่อตรวจสอบจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอที่อาจบ่งบอกถึงภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (AFib) 

- AFib เป็นภาวะจังหวะการเต้นของหัวใจที่ไม่สม่ำเสมอประเภทหนึ่ง ซึ่งการเต้นของหัวใจห้องบนไม่สอดคล้องกับจังหวะของหัวใจห้องล่าง ผู้ที่มีภาวะ AFib บางคนอาจไม่รู้สึกถึงอาการใดๆ เลย ขณะที่บางคนอาจมีอาการอย่างเช่นหัวใจเต้นรัว ใจสั่น เหนื่อยล้า หรือหายใจไม่อิ่ม

- การแจ้งเตือนจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอใช้เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัลบน Apple Watch เพื่อตรวจจับคลื่นชีพจรที่ข้อมือ แล้วหาการแปรผันของระยะห่างระหว่างการเต้นของหัวใจแต่ละครั้งขณะที่ผู้ใช้พักอยู่ หากอัลกอริทึมตรวจพบจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอซ้ำๆ หลายครั้ง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงภาวะ AFib คุณก็จะได้รับการแจ้งเตือน และมีการบันทึกวัน เวลา รวมถึงอัตราการเต้นของหัวใจเก็บไว้ในแอปสุขภาพ

แอป ECG

- ผู้ใช้ที่มีอาการอย่างเช่นหัวใจเต้นเร็วหรือเต้นข้ามจังหวะ สามารถวัด ECG และบันทึกอาการของตนเองได้ด้วยแอป ECG 

- แอป ECG ใช้เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้าที่มีอยู่ใน Digital Crown และผลึกบนฝาหลังเพื่อวัด ECG แบบจุดเดียว แล้วจากนั้นแอป ECG ก็จะแสดงผลว่าเป็นจังหวะไซนัส ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วที่มีอัตราการเต้นของหัวใจเร็ว ไม่สามารถสรุปผลได้ หรือการบันทึกไม่ดีพอ แล้วแจ้งให้ผู้ใช้บันทึกอาการต่างๆ เช่น หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นแรง เวียนศีรษะ หรือเหนื่อยล้า 

- จะมีการบันทึกรูปแบบคลื่น ผลลัพธ์ วัน เวลา และอาการอื่นๆ เก็บเอาไว้ และสามารถส่งออกข้อมูลจากแอปสุขภาพในรูปแบบ PDF เพื่อส่งต่อให้กับแพทย์ได้

คาร์ดิโอฟิตเนส 

- คาร์ดิโอฟิตเนสให้ค่าประมาณการของ VO2 Max หรือความสามารถของร่างกายในการรับออกซิเจนในระหว่างการออกกำลังกาย 

- ในอดีต นี่เป็นเพียงการวัดผลทั่วไปสำหรับนักกีฬาที่เน้นความทนทานของร่างกาย หรือในอีกด้านหนึ่งที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงก็คือ สำหรับผู้ที่มีอาการร้ายแรงอย่างเช่นหัวใจล้มเหลว ซึ่งโดยทั่วไปการทดสอบนี้จะทำในคลินิกและอาจค่อนข้างหนักสำหรับคนทั่วไป 

- ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหัวใจยอมรับว่า VO2 Max เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่บ่งบอกได้ดีถึงสุขภาพโดยรวม เราจึงตื่นเต้นที่ได้นำเทคโนโลยีนี้มาให้กับผู้ใช้ทุกคนด้วยความสามารถของ Apple Watch ในการตรวจสอบค่าประมาณการของ VO2 Max ตามหลักวิทยาศาสตร์

- ผู้ใช้สามารถเลือกรับการแจ้งเตือนได้หากการจัดประเภทของตนเองตกไปที่ "ต่ำ" ซึ่งสัมพันธ์กับความเสี่ยงของอาการโรคหัวใจที่ร้ายแรงในระยะยาว หากก็โชคดีที่ว่าคุณสามารถปรับปรุงเรื่องนี้ให้ดีขึ้นได้ด้วยการออกกำลังกายให้สม่ำเสมอยิ่งขึ้นหรือให้หนักขึ้น และเป็นสิ่งที่คุณสามารถติดตามผลได้ตลอดเวลา

ประวัติภาวะ Afib

- ประวัติภาวะ AFib ช่วยให้คุณเห็นระยะเวลาโดยประมาณที่หัวใจของคุณแสดงสัญญาณของภาวะ AFib ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งเนื่องจากงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าระยะเวลาของการเกิดภาวะ AFib อาจสัมพันธ์กับความรุนแรงของอาการ ปัญหาคุณภาพชีวิต และความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อน 

- ประวัติภาวะ AFib ยังช่วยผู้ใช้ในการติดตามปัจจัยการใช้ชีวิตบางอย่างเช่นการนอนหลับ การออกกำลังกาย และน้ำหนัก ซึ่งอาจมีอิทธิพลต่อระยะเวลาที่เกิดภาวะ AFib

- ตามประวัติแล้วไม่เคยมีวิธีที่ง่ายดายในการติดตามภาวะ AFib ในช่วงเวลาที่ผ่านไป หรือเทียบเคียงภาวะนี้กับปัจจัยการใช้ชีวิตที่สำคัญๆ แต่ตอนนี้คุณสามารถทำได้เพียงแค่สวมใส่ Apple Watch เท่านั้น 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook