[รีวิว] Nokia 105 4G และ Nokia 110 4G มือถือปุ่มกดแห่งปี 2023 ที่สะดวกใช้มากที่สุด

กลับมาพบกับรีวิวจากทีม Sanook Hitech กันอีกครั้ง สำหรับในรอบนี้ทีมได้รับมือถือปุ่มกดจาก Nokia มาเล่าให้ฟังกันอีกครั้ง กับ Nokia 105 4G และ Nokia 110 4G ใหม่ เมื่อเข้าสู่ปี 2023 แล้วมันน่าสนใจแค่ไหน เรามารับชมกันเลย

รายละเอียดสเปกของ Nokia 110 5G

• สัดส่วนตัวเครื่อง 121.5 x 50 x 14.4 มิลลิเมตร 
• น้ำหนัก 94.5 กรัม 
• หน้าจอ TFT LCD ขนาด 1.8 นิ้ว ความละเอียด120x160 พิกเซล 
• ขุมพลัง Unisoc T107 1.0GHz 
• รองรับ 4G / Bluetooth 5.0 
• RAM 48MB / พื้นที่ความจุในตัว 128MB 
• เพิ่มความจำภายนอก MicroSD 
• ช่องเสียบ : ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, Micro USB 
• กล้องหลัง 1 ตัว 
• ความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล
• LED Flash เป็นไฟฉาย

• กล้องหน้า : ไม่มี 
• แบตเตอรี่ขนาด 1450 mAh 
• ระบบชาร์จไฟแบบ Micro USB กำลัง 10W 
• สีสัน : Midnight Blue, Arctic Purple
• ระบบปฏิบัติการ : ฟีเจอร์โฟน 

รายละเอียดสเปกของ Nokia 105 4G

• สัดส่วนตัวเครื่อง 121.5 x 50 x 14.4 มิลลิเมตร 
• น้ำหนัก 93 กรัม 
• หน้าจอ TFT LCD ขนาด 1.8 นิ้ว ความละเอียด120x160 พิกเซล 
• ขุมพลัง Unisoc T107 1.0GHz 
• รองรับ 4G / Bluetooth 5.0 
• RAM 48MB / พื้นที่ความจุในตัว 128MB 
• เพิ่มความจำภายนอก MicroSD 
• ช่องเสียบ : ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, Micro USB 
• แบตเตอรี่ขนาด 1450 mAh 
• ระบบชาร์จไฟแบบ Micro USB กำลัง 10W 
• สีสัน : Charcoal, Ocean Blue
• ระบบปฏิบัติการ : ฟีเจอร์โฟน 

แกะกล่อง Nokia 110 4G / 105 4G

• ตัวเครื่อง Nokia 110 4G / 105 4G
• ปลั๊กชาร์จไฟ
• สายหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
• คู่มือ
• แบตเตอรี่

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Nokia 110 4G / 105 4G

เริ่มต้นกับดีไซน์ของ Nokia 110 4G / 105 4G รุ่นใหมมีการออกแบบที่ต่างกัน โดย Nokia 110 4G มีปุ่มเรียบชิดติดกันทำให้ดูเรียบหรู แต่ถ้าใครต้องการดูหน้าจอของเครื่องเล็กเพียง 1.8 นิ้ว คือเล็กกว่า Nokia 5710, Nokia 8210 ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้

ส่วนล่างมีโลโก้ Nokia มีลำโพงที่เป็นทุกอย่างข้างใน, ปุ่มควบคุมการสั่งงานต่างๆ และปุ่มตัวเลข ตำแหน่งของไมโครโฟนจะอยู่ที่เครื่องหมายดอกจัน

รอบตัวเครื่องออกแบบเรียบง่ายไม่มีปุ่มอะไรทั้งสิ้น

ส่วนบนจะมีช่องเสียบหูฟัง, ไฟฉาย ส่วนล่างมีช่องเสียบ Micro USB

พลิกมาด้านหลังจะมาพร้อมกับกล้องความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล สำหรับ 110 4G แต่ 105 4G ไม่มีกล้องนะ

และยังสามารถเปิดฝาหลังได้ด้วยพร้อมกับสามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ ซึ่งคุณจะสามารถใส่ซิมการ์ด Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่อง และ Micro SD ได้จากด้านล่างเท่านั้น

น้ำหนักและการจับถือ

เนื่องจตากตัวเครื่องที่เล็กทำให้การถือของมือถือรุ่นนี้มีน้ำหนักทีเ่บาช่วยทำให้ในเรื่องการออกแบบของเครื่องจัดหนักจัดเต็มอยู่ ดังนั้นใครที่อยากได้มือถือเครื่องสำรอง ทั้งคู่นี้จัดได้เลยครับ

ฟีเจอร์ภายในของ Nokia 110 4G / 105 4G

 

ทั้งคู่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Nokia OS ฟีเจอร์โฟนแม้จะดูธรรมดาแต่ก็มีสิ่งต่างๆ ที่ผมว่ามันพาคิดถึงวันเวลาเก่าๆ ได้เช่น 

• วิทยุ FM Radio ที่กดฟังได้เลยไม่ต้องเสียบหู และสามารถฟังผ่านหูฟังไร้สายได้ 
• เครื่องเล่นเพลงสามารถใส่เพลงเข้าไปได้ 
• กล้องรองรับการถ่ายภาพ และ วิดีโอในแบบ .3gp เท่านั้น เฉพาะ Nokia 110 4G
• เกมต่างที่ติดมาทั้งเกมงู, Tetris, Racing Action, Black Jack  
• เครื่องมือครบทั้ง เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, ไฟฉาย และอื่นๆ  

อย่างไรก็ตามเนื่องจากมือถือรุ่นนี้ไม่ได้รองรับ Wi-Fi ทำให้ไม่สามารถใช้งานเกี่ยวกับการปล่อย Hot Spot ได้

แบตเตอรี่เป็นอย่างไร

สำหรับขนาดแบตเตอรี่ยังคงได้เท่าเดิมคือ  1450 mAh ที่มีขนาดใหญ่กว่าเครื่องด้วยลูกเล่นที่มีแบบพอให้หายคิดถึงทำให้ไม่ต้องชาร์จไฟได้ 5 วันได้สบายๆ และชาร์จไฟผ่าน Micro USB แต่ถ้าใครรีบก็หาแบตเตอรี่มาอีกก้อนแล้วใช้ได้เลยครับ แต่รุ่น 105 จะอยู่ได้นานกว่า

สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลองกับมือถือทั้งคู่นี้

Nokia 110 4G และ Nokia 105 4G มือถือรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับสเปกกที่จตัดหนักกับเรื่องของการปุ่มกดที่ลงตัวฟีเจอร์ที่คุณสามารถใช้งานได้ดีและไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ขนาดเล็กคล่องตัว เป็นของแถมที่น่าสนใจ

สำหรับราคาสำหรับ Nokia 110 4G (2023) มาพร้อมลวดลายพื้นผิวนาโน ให้เลือก 2 สี คือ Midnight Blue (สีน้ำเงิน) และสี Arctic Purple (สีม่วง) และยังคงเน้นความทนทานต่อรอยขีดข่วนในการใช้งาน ในราคาเพียง 1,350 บาท และ Nokia 105 4G (2023) มีให้เลือก 2 สี Charcoal (สีเทาดำ) และ Ocean Blue (สีฟ้า) ในราคาเพียง 1,290 บาท