ทำไมอินเดียจึงเป็นหนึ่งในตลาดรถไฟฟ้าที่โตเร็วที่สุดในโลก?
อินเดียเป็นหนึ่งในตลาดยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าหรือ EV ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ซึ่งในตอนนี้มีผู้เป็นเจ้าของรถ EV อยู่หลายล้านคน โดยมากกว่า 90% ของรถไฟฟ้าจำนวนทั้งหมด 2.3 ล้านคันในอินเดียเป็นรถสองล้อหรือสามล้อที่มีราคาถูกและได้รับความนิยมมากกว่า เช่น รถมอเตอร์ไซค์ สกู๊ตเตอร์ และรถสามล้อ
นอกจากนี้ มากกว่าครึ่งหนึ่งของรถสามล้อในอินเดียที่จดทะเบียนในปี 2022 ล้วนเป็นสามล้อไฟฟ้า ตามรายงานของ IEA ที่เผยแพร่เมื่อเดือนเมษายน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า โครงการมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์ของรัฐบาลกลางอินเดียเพื่อสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและมอบส่วนลดให้แก่ลูกค้า ตลอดจนราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นในทศวรรษที่ผ่านมา และความตระหนักรู้ของผู้บริโภคเกี่ยวกับผลประโยชน์ด้านต้นทุนในระยะยาว ล้วนมีส่วนผลักดันยอดขายรถ EV ในอินเดีย
ยานพาหนะไฟฟ้าเป็นทางออกหนึ่งในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาวะโลกร้อน และทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้น เนื่องจากการใช้ยานพาหนะบนท้องถนนมีส่วนสำคัญต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การที่ตลาดรถไฟฟ้าจะประสบความสำเร็จในการลดปริมาณคาร์บอนได้นั้น ขึ้นอยู่กับการเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล การจัดการในเรื่องของห่วงโซ่อุปทานแร่ที่สำคัญ และการเพิ่มยอดขาย EV ในพื้นที่ที่มีภูมิหลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่แตกต่างกันในประเทศ ล้วนเป็นกุญแจสำคัญ
บาลาจี เปรมคุมาร์ คนขับรถสามล้อวัย 25 ปี ได้เปลี่ยนมาใช้รถสามล้อไฟฟ้าเมื่อต้นปีนี้ เขามักจะถูกรายล้อมไปด้วยรถสามล้อที่ใช้น้ำมันซึ่งส่งเสียงดังและพ่นควันหนาทึบขึ้นไปในอากาศตอนติดสัญญาณไฟจราจร
เปรมคุมาร์ กล่าวว่า รถสามล้อไฟฟ้ารุ่นใหม่ขับง่ายและสะดวกสบายขึ้น และค่าใช้จ่ายยังถูกลงอีกด้วย เช่น ถ้าเขาจ่ายเงิน 60 รูปี หรือราว 25 บาทเพื่อชาร์จรถเป็นเวลาสามชั่วโมง รถจะวิ่งได้ระยะทาง 80 กิโลเมตร แต่ถ้าใช้รถสามล้อเครื่องยนต์ดีเซล จะต้องใช้เงินอย่างน้อย 300 รูปี หรือราว 126 บาท ในระยะทางเท่ากัน
สันโดช คุมาร์ วัย 23 ปี คนขับรถสามล้อส่งของของบริษัท City Link ซึ่งเป็นบริษัทโลจิสติกส์ในเมืองบังกาลอร์ คืออีกคนหนึ่งที่เห็นถึงข้อดีของการเปลี่ยนมาใช้รถสามล้อไฟฟ้าของบริษัท เขาบอกว่า “รถสามล้อไฟฟ้าไม่เคยเสียเลย และมีจุดชาร์จอยู่มากมายอีกด้วย” โดยเขาใฝ่ฝันที่จะซื้อรถไฟฟ้าเป็นของตัวเอง หรืออาจจะซื้อหลาย ๆ คันเพื่อให้คนเช่าอีกด้วย
ทั้งนี้ จุดชาร์จรถไฟฟ้าในอินเดียนั้นเพิ่มขึ้นสิบเท่าตามข้อมูลของเอลิซาเบธ คอนนอลลี นักวิเคราะห์เทคโนโลยีพลังงานและการขนส่งของ IEA
เอ็น ซี ธิรุมาลัย จากศูนย์การศึกษาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนโยบายแห่งบังกาลอร์ กล่าวว่า ส่วนมากแล้ว รถสองล้อและสามล้อจะถูกใช้ในการส่งของหรือรับส่งคน ซึ่งระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้รถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกที่ถูกกว่าการจ่ายค่าน้ำมันอย่างเห็นได้ชัด แต่ความอยู่รอดในระยะยาวของยานพาหนะไฟฟ้านั้นขึ้นอยู่กับการจัดหาแร่ธาตุสำคัญที่จำเป็นสำหรับแบตเตอรี่และชิ้นส่วนอื่น ๆ นอกจากนี้ แหล่งไฟฟ้าที่ใช้ชาร์จยานพาหนะก็ต้องสะอาดด้วย ซึ่งยังไม่ได้เป็นเช่นนั้นในปัจจุบัน
แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังมีความหวังในทางที่ดีเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าที่สะอาดขึ้นในอนาคต และว่า “แรงผลักดันมหาศาลสำหรับพลังงานหมุนเวียนในประเทศ” ย่อมหมายความว่าการปล่อยของเสียของรถ EV ก็ควรลดลงไปด้วย
ในขณะที่ความคืบหน้าในเรื่องของพลังงานหมุนเวียนยังมีความหลากหลายอยู่ อินเดียก็วางแผนที่จะติดตั้งพลังงานสะอาด 500 กิกะวัตต์ภายในสิ้นทศวรรษนี้ ซึ่งเพียงพอที่จะจ่ายไฟให้แก่บ้านเรือนในอินเดียจำนวน 300 ล้านหลัง และตั้งเป้าที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2070