18 เทคนิคยืดอายุแบตเตอรี่ iPhone 15 ให้รอดตายระหว่างวัน
เรียกได้ว่า iPhone 15 Series เป็นมือถือที่มีจุดเด่นมากมาย ทั้งนี้หลายคนก็เจอปัญหาในเรื่องของการใช้พลังงานของเครื่องที่เยอะพอสมควร แล้วมันจะมีเทคโนโลยีประหยัดพลังงานมือถือรุ่นใหม่นี้ได้แค่ไหน กับ 18 เทคนิคยืดอายุแบตเตอรี่มีดังนี้
ปิดฟีเจอร์ Live Activities
สิ่งแรกคือ การแสดงผลของ Dynamic Island และ Lock Screen ที่จะแสดงกิจกรรมและเปิดบน Always On Display ทำให้เกิดการกินพลังงาน การปิดส่วนนี้ก็จะทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้ โดยมีวิธีดังนี้
- เข้าหน้าตั้งค่า
- เข้าไปที่ Face ID และ Passcode
- กดรหัส Passcode
- กดปิด Live Activities
ลบ Widgets ที่ไม่ใช้ใน Lock Screen และ Home Screen
ต่อมาคือ Widget ที่มีการปรับปรุงใน iOS 17 ซึ่งสามารถโต้ตอบและจัดการ Widget และยังสามารถเชื่อมต่อกบอุปกรณ์ Smart Home ทั้งนี้เราจะประหยัดพลังงานได้ด้วยถ้าเกิดเราลบ Widget ที่ไม่ได้ใช้ออก ก็สามารถประหยัดพลังงานได้
ปิดระบบ Live Voicemail
ฟีเจอร์ต่อมาสำหรับคนที่ใช้งานอยู่ในบางประเทศเวลาที่สามารถให้เสียงของข้อความที่ฝากไว้ในเครื่องถ้าใครมองว่าเป็นฟีเจอร์นี้กินพลังงานสูง เราสามารถปิดได้ที่ ตั้งค่า (Setting) > Live Voicemail และกดปิด
ทั้งนี้ระบบนี้ในประเทศไทยไม่สามารถใช้งานได้
ปิดระบบการทำงานของ AirDrop Sharing
เคยสังเกตไหมว่าฟีเจอร์ของ iPhone ที่คุณวางข้างๆ กันหลังจากอัปเดต iOS 17 รุ่นใหม่จะมีฟีเจอร์ที่อยู่ข้างๆ กันแล้วทำให้สามารถส่งภาพได้ทันที หรือส่ง Contact ได้ทันที ฟีเจอร์แบบนี้ก็กินพลังงานมาก และอาจจะทำให้เกิดความน่ารำคาญดังนั้นการปิดฟีเจอร์นี้ก็จะช่วยลดการใช้พลังงานได้ โดยเข้าไปที่ ตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > AirDrop > Bringing Devices Together
ตั้งค่าให้แผนที่แบบออฟไลน์
จุดเด่นของ iOS 17 คือสามารถในเรื่องของ Apple Maps คือเราสามารถดาวน์โหลดแผนที่ด้วยเช่นเดียวกัน หากคุณไม่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายได้ ดังนั้นถ้าคุณอยากประหยัดพลังงานก็สามารถใช้วิธีการดาวน์โหลดแผนที่ตั้งแต่แรกเพื่อไว้ดูข้อมูลได้และใช้นำทางได้เช่นเดียวกัน แค่ไม่มีการแสดงการจราจรเท่านั้นเอง
ปิดระบบสั่นระหว่างการพิมพ์ (Haptic Keyboard Feedback)
ออฟชั่นหนึ่งที่ทำให้การพิมพ์มีความรู้สึกที่ทำได้เช่นเดียวกันคือ การเปิดระบบสั่นเพื่อบอกว่าพิมพ์อะไรอยู่ ถ้าคุณปิดฟีเจอร์นี้ก็ทำให้สามารถเช่นเดียวกัน แต่มันก็จะกินพลังงานมากพอสมควรดังนั้นควรจะปิดฟีเจอร์ โดยเข้าไปที่ ตั้งค่า (Setting) > เสียงและสั่น (Sound & Haptics) > ตั้งค่าการตอบสนอง Keyboard (Keyboard Feedback) > เลือกปิด
ปิดฟีเจอร์ Always-On Display
ทั้งนี้การทำงานของฟีเจอร์ Always On Display นอกจากสะดวกในการแสดงผลเวลาและข้อมูลต่างๆ แม้ว่าไม่ได้เปิดเครื่อง แต่ฟีเจอร์นี้แอบกินพลังงานอยู่ ดังนั้นถ้าอยากประหยัดพลังงาน ก็ควรจะปิด โดยสามารถเลือกได้ตั้งแต่
- เข้าหน้าตั้งค่า
- เลือกที่หน้าจอ / ความสว่าง
- เลือก Always On Display หรือ ตลอดเวลา
- เลือกปิด
เลือก Wallpaper แบบนิ่งๆ
บางครั้งฟีเจอร์ของ Wallpaper สามารถใช้พลังงานได้มากกว่าที่คิดโดยเฉพาะ Wallpaper ที่มีการขยับออกมาเช่นเดียวกัน ดังนั้นถ้าคุณต้องการประหยัดพลังงานก็ควรจะเลือกการปิดฟีเจอร์นี้ก็ดีนะ
เลือกใช้ Focus Mode
การที่ Focus Mode ที่สามารถใช้ในเรื่องของการตั้งค่าเวลาที่เราทำงาน หรือเวลานอนรวมถึงการใช้ชีวิตปกติ จะทำให้เครื่องช่วยปรับการตั้งค่าและการแจ้งเตือนให้เหมาะสม ช่วยประหยัดดพลังงานได้
ใช้ Scheduled Summary
สำหรับคนที่อย่างให้สำหรับ iOS 17 รุ่นใหม่ที่สามารถแสดงผลข้อมูลข่าวและการแจ้งเตือนผ่านทาง Scheduled Summary โดยสามารถเห็นทั้งข่าวและตารางต่างๆ เป็นต้น
จำกัดการเข้าถึง Location
ถ้าคุณใช้งานเกี่ยวกับการบอกพิกัดหรือ Location สามารถช่วยให้คุณบอกว่าคุณอยู่ไนและเช็คอินได้ว่าเพื่อนๆ เราอยู่นี้ แต่สังเกตเท่าที่เห็นการเปิดฟีเจอร์นี้ก็อาจจะทำให้กินพลังงานได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นการเลือกโปรแกรมเฉพาะก็จะทำให้ประหยัดพลังงานได้
จำกัดฟีเจอร์ต่อกับ Bluetooth
นอกจาก Location แล้ว การที่มือถือเลือกใช้บริการ Bluetooth ที่มากเกินไปก็จะใช้พลังงานได้ ดังนั้นเราสามารถเลือกให้ Apps บางตัวไม่เลือกใช้ Bluetooth จะทำให้เกิดการประหยัดพลังงานได้
ใช้ Low Power Mode
ฟีเจอร์หนึ่งที่สามารถช่วยลดการใช้พลังงานคือ Low Power Mode เมื่อเปิดแล้วจะสามารถลดการใช้ CPU ลดเกี่ยวกับความสว่างหน้าจอเล็กน้อยและปรับการทำงานให้เกิดการประหยัดพลังงานดีที่สุด แต่โหมดนี้จะตัดตัวเองเมื่อชาร์จไฟเกิน 80% นะ
ต่อ Wi-Fi และ เปิด Airplane Mode
การเชื่อมต่อ 5G หรือเครือข่ายมือถือ จะมีการใช้งานพลังงานไม่น้อยเลยครับ แต่ว่าสิ่งที่เป็นข้อสังเกตคือ Wi-Fi ของเครื่องคุณสามารถประหยัดพลังงานกว่าเน็ตมือถือดังนั้นถ้าเกิดจำเป็นต้องใช้พลังงานควรจะเปิด Wi-Fi จะดีกว่า ส่วน Airplane Mode ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ค่อยเปิดเช่นเวลาอยู่บนเครื่องบินเป็นต้น
จัดการ Apps แบตเตอรี่ให้สามารถกินพลังงานลดลง
อย่างน้อย iPhone จะมาพร้อมกับฟีเจอร์คุณสามารถเปิดฟีเจอร์ให้ Apps สามารถลดการใช้พลังงานได้ โดยคุณสามารถเช็คว่า Apps ไหนกินพลังงานได้ ถ้าเกิด Apps ไหนไม่ใช้ควรลบออก
เปิดฟีเจอร์ จำกัดกิจกรรมพื้นหลัง หรือ Limit Background Activity
ทุก Apps ที่คุณใช้มักจะมีการรีเฟรชอยู่ที่พื้นหลังแม้ว่าจะไม่ได้เปิดเสมอ เพราะการที่คุณไม่จำกัดกิจกรรมพื้นหลังของ Apps ซึ่งเดี๋ยวนี้เราสามารถกำหนดให้สามารถหยุดพฤติการณ์ของ Apps ได้โดยต้องเข้าไปตั้งค่าของพื้นหลัง และหลังจากนั้นคือเลือกปิดเฉพาะ Apps ที่ไม่จำเป็น
ลดความสว่างหน้าจอ
ความสว่างของหน้าจอมักมีผลต่อการใช้พลังงานดังนั้นการเลือกให้หน้าจอมีความสว่างที่เหมาะสม หรือปรับให้ตามแสงตามสิ่งแวดล้อมหรือ Auto Brightness ก็จะทำให้ช่วยประหยัดพลังงานได้ หรือควรจะปรับรูปแบบของ Theme ให้เป็นสีดำ ก็ช่วยประหยัดพลังงานและชะลอการเสื่อมของหน้าจอได้
ปิดการเชื่อมต่อกับระบบเมล์ เท่าที่จำเป็น
นอกจากการปิดกิจกรรมพื้นหลังของ Apps แล้ว ถ้าคุณมีอีเมลอยู่เยอะ ควรเลือกการจัดการตั้งค่าการเตือนของเมล์ให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดการแจ้งเตือนที่มากเกินไป
อย่างไรก็ตามการตั้งค่าของเครื่องเพื่อทำให้ประหยัดพลังงานสามารถทำได้ทุกเครื่องไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือ Android แต่ต่างกันที่ปุ่มกดต่างๆ ซึ่งการตั้งค่าดังกล่าวก็ช่วยประหยัดพลังงานไม่น้อยก็มาอยู่ครับ ลองปรับกันดูนะครับ