BIZCUIT Solution เปิดตัว Computer Vision 2023 เปลี่ยนกล้องวงจรปิดเดิมให้เป็นกล้อง AI อัจฉริยะ
บิสกิต โซลูชั่น ชี้ BIZCUIT Vision Analytics (BVA) โซลูชันวิทยาการวิเคราะห์ภาพแบบเรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยี Computer Vision ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด ล่าสุดเปิดตัว Computer Vision 2023 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ที่วิเคราะห์ภาพเรียลไทม์ ด้วย AI ที่ฉลาดขึ้น มาพร้อมความสามารถใหม่สุดล้ำ เปลี่ยนกล้อง CCTV ให้เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ AI CCTV
โดยไม่ต้องติดกล้องใหม่ อาทิ การตรวจจับว่าพนักงานได้อยู่ประจำจุดการให้บริการหรือไม่ หรือการตรวจสอบเส้นทางการเดินของลูกค้าภายในร้าน ชี้เพิ่มประสิทธิภาพจากเวอร์ชันเดิมถึง 50 เท่า ใช้ง่ายขึ้น และมีค่าบริการที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น เผยมีธุรกิจสนใจใช้บริการแล้วกว่า 20 ธุรกิจ พร้อมโชว์เคส 4 ธุรกิจนำไปใช้งานจริง เดินหน้าเพิ่มการใช้งานการวิเคราะห์ภาพจากกล้องมากกว่า 100 จุด ภายในปี 66 นี้
นายสุทธิพันธุ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิสกิต โซลูชั่น จำกัด หรือ BIZCUIT Solution เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัว BIZCUIT Vision Analytics (BVA) เมื่อปีที่ผ่านมา โดยเป็นโซลูชันวิเคราะห์ภาพแบบเรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยี Computer Vision ด้วยระบบ AI ที่สามารถเข้าใจและตอบสนองต่อข้อมูลภาพอย่างชาญฉลาด เปลี่ยนกล้อง CCTV ที่ทุก ๆ ร้านมีอยู่แล้ว ให้กลายเป็นกล้อง AI CCTV โดยไม่ต้องติดกล้องใหม่
พร้อมทั้งช่วยในการเก็บข้อมูลและประมวลผลโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ เช่น การวิเคราะห์จำนวนลูกค้าที่เดินเข้าร้านเทียบกับเปอร์เซ็นต์จำนวนคนที่ผ่านหน้าร้าน เพื่อวิเคราะห์ความน่าสนใจในการจัดหน้าร้านและการจัดการพนักงานหน้าร้าน หรือการตรวจสอบระยะเวลาที่ลูกค้าต้องรอคิวและระยะเวลาที่พนักงานให้บริการลูกค้า ว่าเร็วพอที่จะไม่ทำให้สูญเสียลูกค้าไปหรือไม่ เป็นการช่วยทรานฟอร์มฯ ธุรกิจได้อย่างแท้จริง และได้รับผลตอบรับดีเกินคาด ล่าสุดจึงได้เปิดตัว Computer Vision 2023 โดยเพิ่มความสามารถวิเคราะห์ภาพเรียลไทม์ ด้วย AI ที่ฉลาดขึ้น
“โซลูชัน Bizcuit Vision Analytics เป็นการนำเทคโนโลยีด้าน Computer Vision มาผสานกับเทคโนโลยี Edge Computing สร้างเป็นกล่องอัจฉริยะพร้อมนำภาพจากกล้อง CCTV มาเสียบต่อเพื่อให้ AI ประมวลผลที่กล่องแบบเรียลไทม์ และไม่ผ่านการบันทึกภาพทำให้ใช้งานได้โดยไม่ผิด PDPA ผลที่วิเคราะห์ได้สามารถนำไปแสดงผลแบบแดชบอร์ด หรือสร้างเป็นการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ เพื่อให้หน้างานแก้ไขการทำงานได้โดยไม่ต้องมีมนุษย์มาคอยนั่งเผ้าดู รูปแบบการวิเคราะห์นั้นมีความหลากหลาย
โดยหนึ่งกล่องอัจฉริยะสามารถวิเคราะห์ภาพจากกล้องได้มากถึง 15 กล้องต่อหนึ่งกล่องสำหรับการวิเคราะห์ที่ใช้จำนวนภาพนิ่ง (frame rate) ต่ำ ส่วนการวิเคราะห์ที่ต้องใช้ frame rate สูงก็จะสามารถวิเคราะห์บนจำนวนกล้องต่อกล่องที่น้อยลงหากมีความซับซ้อนมากขึ้น จุดเด่นสำคัญที่สุดคือทุก ๆ สถานที่สามารถเพิ่มการวิเคราะห์ที่ชาญฉลาดเข้าไปในกล้องใดก็ได้โดยไม่ต้องติดตั้งกล้องใหม่” นายสุทธิพันธุ์ กล่าว
นายสุทธิพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเวอร์ชันใหม่ล่าสุดนี้ ระบบ AI ยังสามารถวิเคราะห์ได้หลายมิติมากขึ้นในอุปกรณ์เพียงตัวเดียว เช่น การนับจำนวนคนที่เดินเข้า-ออกร้านได้ละเอียดขึ้น การแยกแยะเพศ การวิเคราะห์แยกแยะลูกค้ากับพนักงาน ทำให้สามารถปรับแต่งเรื่องที่ต้องการวิเคราะห์ให้เหมาะสมกับธุรกิจได้สูงสุดถึง 3 เรื่องต่อ 1 อุปกรณ์เพียงตัวเดียว ซึ่งก็จะช่วยให้ประหยัดต้นทุนการรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์มากขึ้น และยังแม่นยำเหมือนเดิมในราคาที่จับต้องได้
นอกจากนี้ มีตัวอย่างการประยุกต์ใช้ใน 4 ธุรกิจที่น่าสนใจคือ
1. ธุรกิจค้าปลีก (Retail) ร้าน Luxury Brand แห่งหนึ่ง ต้องการทราบว่าลูกค้าที่เดินเข้าร้านมีกี่คนที่ซื้อสินค้าออกมา โดย Computer Vision จะตรวจจับว่าลูกค้าที่เดินออกมามีกี่คนถือถุงของแบรนด์นั้น ๆ
2. ธุรกิจ Warehouse เกี่ยวกับระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm) ซึ่งโดยปกติจะทำงานต่อเมื่อเกิดไฟไหม้แล้ว แต่ Computer Vision จะเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดในคลังสินค้าตรวจจับประกายไฟ และแจ้งเตือนก่อนที่จะมีเหตุการณ์อันตรายเกิดขึ้น เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานที่อาจก่อให้เกิดประกายไฟ ช่วยให้การดำเนินงานธุรกิจมีเกณฑ์ความปลอดภัยที่สูงขึ้น
3. Smart City เป็นการใช้เพื่อตรวจจับรถยนต์ในสถานที่ห้ามจอด
โดยในเวอร์ชันใหม่ หากติดตั้งกล้องในพื้นที่ละแวกเดียวกัน จะสามารถวิเคราะห์ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อเพียงแค่ตัวเดียว ครอบคลุมการวิเคราะห์ได้บนพื้นที่จำนวนมาก และ 4. ธุรกิจ Contact Center นำมาใช้ในการตรวจจับการปฏิบัติงานของพนักงาน ซึ่งหากพบสิ่งผิดปกติ เช่น พนักงานไม่อยู่โต๊ะนานเกินเวลาที่กำหนด หรือพนักงานนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น ตัวโซลูชันที่เชื่อมต่อกับกล้องก็จะมีการแคปเจอร์ภาพ ส่งแจ้งเตือนไปยังผู้บังคับบัญชาหรือผู้เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ดี เทคโนโลยี Computer Vision ในเวอร์ชันใหม่นี้ จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่สามารถผลักดันธุรกิจทรานส์ฟอร์มองค์กรด้วยระบบ AI ที่ชาญฉลาดยิ่งกว่า โดยล่าสุดมีธุรกิจสนใจใช้บริการแล้วกว่า 20 ธุรกิจ คาดการให้บริการวิเคราะห์ภาพจากกล้องแตะ 300 จุดภายในสิ้นปี 2566 นี้
สนใจทดลองใช้งานโซลูชัน ติดต่อ https://www.bizcuitsolution.com/th/talk-to-us