แบตเสื่อมดูยังไง? รวมวิธีเช็กอาการแบตเสื่อมง่าย ๆ

แบตเสื่อมดูยังไง? รวมวิธีเช็กอาการแบตเสื่อมง่าย ๆ

แบตเสื่อมดูยังไง? รวมวิธีเช็กอาการแบตเสื่อมง่าย ๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แบตเสื่อม หนึ่งในปัญหากวนใจของผู้ใช้งานโทรศัพท์ที่ไม่ว่าใครก็อาจประสบปัญหานี้ได้ทั้งนั้น เนื่องจากแบตโทรศัพท์เสื่อมมีสาเหตุการเกิดที่หลากหลาย และเราไม่อาจป้องกันการเกิดแบตเสื่อมได้ 100% มีเพียงวิธีลดโอกาสแบตเสื่อมและยืดระยะเวลาให้แบตเสื่อมช้าลงเท่านั้น

นอกจากนี้อาการแบตเสื่อมจะยิ่งแย่ลงหากเราไม่ทันสังเกตและฝืนใช้งานต่อไป ดังนั้นการรู้เท่าทันอาการของแบตเสื่อม การปรับเปลี่ยนวิธีการใช้งาน โทรศัพท์มือถือ และการแก้ไขอาการแบตเสื่อมตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คุณสามารถใช้งานโทรศัพท์ของคุณอย่างเต็มประสิทธิภาพได้ยาวนานยิ่งขึ้น

istock-973440344

รู้จักกับแบตโทรศัพท์ แบตเสื่อมได้ง่ายแค่ไหน

ก่อนจะไปทำความรู้จักสาเหตุของแบตเสื่อม เราจะมาทำความรู้จักกับแบตโทรศัพท์ที่มีการใช้งานมากในปัจจุบันกันก่อน เนื่องจากประเภทและชนิดของแบตโทรศัพท์นี้เองก็มีผลต่อบางสาเหตุที่ส่งผลให้แบตเตอรี่โทรศัพท์เสื่อมได้

แบตโทรศัพท์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันประกอบไปด้วยแบต 2 ชนิดด้วยกันได้แก่

• แบตเตอรี่โทรศัพท์ชนิด Lithium Ion (Li-Ion)
• แบตเตอรี่โทรศัพท์ชนิด Lithium Ion Polymer (Li-Po)

โดยความแตกต่างของแบตเตอรี่ทั้ง 2 แบบ จะเป็นเรื่องของความสามารถในการใช้งาน น้ำหนัก และความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งไม่ต่างกันมากนัก โดยแบตเตอรี่รุ่น Li-Po จะมีน้ำหนักเบากว่า ส่วนแบตเตอรี่รุ่น Li-Ion จะนิยมใช้ในโทรศัพท์รุ่นราคาประหยัดมากกว่า

แบตเสื่อม เกิดจากอะไร มาดูสาเหตุที่ทำให้แบตเสื่อม

โทรศัพท์แบตเสื่อมเกิดจากอะไร การที่แบตเสื่อมอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้แบตเสื่อมจะขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลัก ประกอบไปด้วยสาเหตุดังต่อไปนี้

1. อุปกรณ์ชาร์จไม่ได้คุณภาพ

การใช้อุปกรณ์ชาร์จแบตที่ไม่ได้คุณภาพเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้แบตเสื่อม เนื่องจากอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะจ่ายไฟให้กับแบตเตอรี่ของคุณมากเกินไป หรือน้อยเกินไป ส่งผลให้แบตเสื่อมได้ นอกจากจะแบตเสื่อมแล้ว ก็อาจชาร์จแบตช้าเกินไปจนคุณใช้งานได้ไม่ต่อเนื่อง หรือที่ร้ายแรงที่สุดคือเสี่ยงต่อการเกิดแบตระเบิดได้

2. ใช้โทรศัพท์จนแบตหมดบ่อย ๆ

แบตเสื่อมเพราะใช้งานจนแบตเตอรี่เหลือ 0% บ่อยครั้งเกินไป สาเหตุนี้เกิดจากการที่แบตเตอรี่ทั้ง 2 ชนิดที่ใช้ในโทรศัพท์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น Li-Ion หรือ Li-Po เมื่อใช้จนแบตหมดแล้วจะทำให้เกิดการคายประจุออกไป ความจุของแบตเตอรี่จึงลดลงและส่งผลให้แบตเสื่อมตามไปด้วย

3. ใช้จนเครื่องร้อนเป็นเวลานาน

สาเหตุต่อมาที่ทำให้แบตเสื่อมคือ การใช้งานโทรศัพท์จนเครื่องร้อน หรือใช้งานโทรศัพท์ขณะเครื่องร้อน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานโทรศัพท์ต่อเนื่องนานเกินไป หรือการเปิดหน้าจอสว่างสูงสุดนานเกินไป ก็ส่งผลให้แบตเสื่อมได้ทั้งสิ้น

4. การชาร์จขณะใช้งานโทรศัพท์

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แบตเสื่อมซึ่งคนจำนวนมากนึกไม่ถึงคือ การใช้งานโทรศัพท์ขณะชาร์จแบต ซึ่งส่งผลให้แบตเสื่อมได้เช่นเดียวกันกับสาเหตุที่แล้ว นั่นคือการใช้โทรศัพท์ขณะชาร์จแบตจะส่งผลให้เครื่องร้อนเกินมาตรฐาน และทำให้แบตเสื่อมในที่สุด

5. อายุการใช้งาน

สาเหตุสุดท้ายที่ทำให้แบตเสื่อม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นั่นก็คือการที่แบตเสื่อมตามอายุการใช้งานนั่นเอง แต่เราสามารถชะลอ และพยายามถนอมให้แบตเสื่อมช้าลงได้ เมื่อเราใช้งานโทรศัพท์ไปจนถึงจุดหนึ่ง แบตก็จะเสื่อมลงตามการใช้งานของเรา และเราควรจะเร่งแก้ไขเมื่อสังเกตเห็นอาการแบตเสื่อมแล้ว

istock-677025632

สัญญาณเตือนแบตเสื่อม รวมอาการแบตเสื่อมที่ควรรู้

วิธีเช็คแบตเสื่อมสามารถทำได้ด้วยวิธีไหนบ้าง แบตเสื่อมดูยังไง ถ้าแบตเสื่อมแล้วเครื่องจะมีอาการอะไรบ้าง โดยทั่วไปเมื่อโทรศัพท์แบตเสื่อมจะแสดงอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออาจแสดงหลายอาการพร้อมกันจากอาการแบตเสื่อม 4 อาการต่อไปนี้

1. แบตเตอรี่ลดเร็วกว่าปกติ

แบตโทรศัพท์เสื่อม อาการแรกคือการที่แบตเตอรี่ลดเร็วกว่าปกติ อาการแบตเสื่อมอาการนี้สามารถเห็นได้ชัด เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วแบตเตอรี่ควรจะลดครั้งละ 1% และจะค่อย ๆ ลดตามการใช้งาน ไม่ใช่การลดรวดเดียว หรือเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ลดแม้ไม่ได้ใช้งาน

นอกจากการที่แบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็วแล้ว คุณยังสามารถเช็คสุขภาพของโทรศัพท์ซัมซุงว่าแบตเสื่อมหรือไม่ได้ ด้วยการใช้แอปพลิเคชัน Samsung Members เพียงแค่คุณเข้าไปในตัวแอปฯ และเลือกแท็บ Get Help จากนั้นเลือก Interactive Checks และ Battery เพียงเท่านี้หน้าจอก็จะแสดงผลให้คุณเห็นทั้ง พลังงานแบตเตอรี่, อายุการใช้งานแบตเตอรี่ และความจุแบตเตอรี่ ให้คุณเช็คได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ในทันทีว่าแบตเสื่อมหรือไม่

2. เปอร์เซ็นต์แบตไม่คงที่

อาการแบตมือถือเสื่อมอาการต่อมาคือ อาการที่การแสดงผลเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ไม่คงที่ เช่น การที่แบตเตอรี่จาก 100% เปลี่ยนไปเป็น 70% และเด้งกลับขึ้นมาเป็น 85% แม้จะไม่ได้ชาร์จโทรศัพท์แต่อย่างใด หากคุณเห็นสัญญาณเช่นนี้นั่นหมายความว่าโทรศัพท์ของคุณแบตเสื่อม และจะต้องทำการแก้ไขโดยเร็ว

3. แบตเตอรี่บวม

แบตเตอรี่บวมเป็นอีกหนึ่งอาการแบตเสื่อมที่เห็นได้ชัด เนื่องจากในบางครั้งคุณสามารถเห็นได้ทันทีจากตัวเครื่องที่มีลักษณะบวมออกมา อาการแบตเสื่อมอย่างแบตเตอรี่บวมนี้ มีสาเหตุหลักมาจากการใช้งานเครื่องจนเครื่องร้อนมากจนเกินไป หรือใช้งานจนเครื่องร้อนบ่อยครั้ง

4. เครื่องดับเองโดยไม่มีสาเหตุ

อาการมือถือแบตเสื่อมที่เห็นได้ชัดอีกอย่างหนึ่งคืออาการที่อยู่ดี ๆ มือถือก็ดับไปเองขณะใช้งานอยู่ แต่อาการนี้นอกจากจะแบตเสื่อมแล้ว ก็อาจเกิดจากซอฟต์แวร์มีปัญหา หรือปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วยก็ได้ ดังนั้นหากเกิดอาการนี้จึงควรตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่ หรือคอยสังเกตอาการแบตเสื่อมอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย

โทรศัพท์แบตเสื่อม แก้ไขได้อย่างไร

แบตเสื่อมแก้ยังไง แบตเสื่อมทําไงดี? สำหรับวิธีทำให้แบตหายเสื่อมที่ได้ผลจริงและทำตามได้ในทันที คือ การเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยนำไปส่งซ่อมที่ศูนย์หรือร้านที่ไว้ใจได้ เนื่องจากการเปลี่ยนแบตโทรศัพท์นั้นแตกต่างจากการเปลี่ยนแบตเตอรี่อย่างพวกถ่านอัลคาลอยน์ทั่วไป การเปลี่ยนเองจึงมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ จนอาจเกิดปัญหาอื่นนอกจากแบตเสื่อมตามมา

istock-1035992506

วิธีป้องกันให้แบตเสื่อมช้าที่สุด ต้องทำยังไงถึงจะถนอมแบตได้

วิธีการทำให้แบตเสื่อมช้าที่สุดมีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ ด้วยกัน ซึ่งจะช่วยคุณยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ และถนอมแบตให้สามารถทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพได้ยาวนานยิ่งขึ้น

1. ไม่ใช้งานขณะกำลังชาร์จ

เมื่อเรารู้สาเหตุของแบตเสื่อมแล้ว วิธีที่ดีที่สุดก็คือการไม่ทำตามสาเหตุที่ทำให้แบตเสื่อมนั่นเอง ในที่นี้คือการไม่ใช้งานโทรศัพท์ขณะกำลังชาร์จแบต เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องร้อนเกินไปและส่งผลให้แบตเสื่อมช้าลง

2. ใช้อุปกรณ์ชาร์จไฟที่ได้มาตรฐาน

อีกหนึ่งวิธีถนอมแบตเตอรี่และทำให้แบตเสื่อมช้าลง คือการใช้อุปกรณ์ชาร์จไฟที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้เวลาชาร์จแบตโทรศัพท์ของคุณได้รับพลังงานแบตเตอรี่ที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ทำให้ไม่เป็นสาเหตุของแบตเสื่อม

istock-1355042517

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโทรศัพท์แบตเสื่อม โทรศัพท์แบตเสื่อม เปลี่ยนแบตเองได้ไหม?

โทรศัพท์แบตเสื่อมไม่ควรเปลี่ยนแบตเอง เนื่องจากแบตโทรศัพท์มีความพิเศษ การเปลี่ยนแบตเองอาจสร้างความเสียหายและไม่สามารถแก้ปัญหาแบตเสื่อมได้ จึงควรส่งซ่อมศูนย์หรือร้านที่ไว้ใจได้

สรุปแบตเสื่อมเกิดจากอะไร จะแก้ไขและป้องกันได้อย่างไร

แบตเสื่อมเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุจากวิธีการใช้งาน เช่น ใช้มือถือจนเครื่องร้อน ใช้โทรศัพท์ตอนชาร์จแบต ใช้โทรศัพท์จนแบตหมด หรือปัจจัยภายนอกอย่างอุปกรณ์ชาร์จแบตที่ไม่ได้มาตรฐาน และปัจจัยภายในคืออายุการใช้งานของตัวแบตเตอรี่เอง

ไม่ว่าจะเกิดแบตเสื่อมจากสาเหตุไหน อาการของแบตเสื่อมก็จะแสดงให้เห็นคล้าย ๆ กันนั่นคือแบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ แบตเตอรี่ผกผันแปรปรวนไม่คงที่ แบตเตอรี่บวม และเครื่องโทรศัพท์จู่ ๆ ก็ดับเองอย่างไม่มีเหตุผล

ดังนั้นหากคุณสังเกตเห็นอาการแบตเสื่อมอาการใดอาการหนึ่ง หรือหลายอาการร่วมกันแล้ว คุณควรตรวจเช็คสุขภาพแบตเตอรี่ สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ Samsung ก็สามารถไปที่แอป Samsung Members ได้ทันที หรือหากคุณแน่ใจแล้วว่าแบตเสื่อมก็ให้แก้ไข โดยการเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ศูนย์ หรือเปลี่ยนกับร้านที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ ไม่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่เองเพื่อแก้แบตเสื่อมโดยเด็ดขาด

ส่วนวิธีการป้องกันแบตเสื่อม สามารถทำได้โดยการป้องกันจากสาเหตุที่ทำให้เกิดแบตเสื่อมนั่นเอง เช่น การไม่ใช้โทรศัพท์ขณะชาร์จไฟ และการไม่ใช้อุปกรณ์ชาร์จแบตที่ไม่ได้คุณภาพ เป็นต้น เพียงเท่านี้แบตเตอรี่ของคุณก็จะมีอายุการใช้งานยาวนาน และไม่เกิดการแบตเสื่อมก่อนอายุการใช้งานที่กำหนด ทำให้คุณใช้โทรศัพท์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook