‘พิพิธภัณฑ์แห่งความล้มเหลว’ ผิดพลาดเพื่อผลักดันสู่ความสำเร็จ
ผลิตภัณฑ์ที่ผิดพลาดหรือล้มเหลวมากกว่า 150 ชิ้นจากทั่วโลก ถูกนำมาจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ในกรุงวอชิงตัน ซึ่งแม้ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะต้องถูกยกเลิกการผลิตไปก่อนเวลาอันควร แต่หลาย ๆ ชิ้นก็ได้รับการพัฒนาไปสู่นวัตกรรมที่ดีกว่าและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
เก้าอี้ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฮูลาฮูป ที่ควรจะช่วยให้ผู้ใช้ได้ออกกำลังกายขณะทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ แต่กลับทำให้เกิดอาการวิงเวียนแทน
นอกจากนี้ ยังมีจักรยานทำจากพลาสติก ซึ่งจะโยกเยกไปมาและล้มพับเมื่อถูกใช้งาน และยังมีเจ้าตุ๊กตาที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ "เคี้ยว" พลาสติกได้นั้น แต่อาจพลาดไปแทะนิ้วเด็ก ๆ ได้
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวมากกว่า 150 ชิ้น ซึ่งปัจจุบันถูกจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งความล้มเหลว ในกรุงวอชิงตัน ของซามูเอล เวสต์
เวสต์ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้กล่าวว่า ของที่ถูกจัดแสดงอยู่นี้ คือผลิตภัณฑ์และบริการที่ผู้ที่ลงทุนลงแรงไป คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถทำกำไร แต่ผลลัพธ์กลับไม่ได้เป็นดังหวัง
โดยสิ่งของเหล่านี้เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่การเกิดภัยพิบัติทางทะเล ไปจนถึงการขนส่งทางบกที่เป็นอันตราย มีราคาแพง และไม่สามารถใช้งานได้จริง
เวสต์กล่าวต่อไปว่า ของบางชิ้นเรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่โง่เขลา ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากที่ใช้ไฟฟ้าช็อตเพื่อให้ใบหน้าของผู้ใช้สวยงามขึ้น หรือไม้กอล์ฟที่ให้ผู้ใช้สามารถปัสสาวะลงไปได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปเข้าห้องน้ำในขณะที่ตีกอล์ฟอยู่
เวสต์ ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาด้านการค้ากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ความล้มเหลวคือสิ่งที่มีความสำคัญต่อความก้าวหน้า ดังนั้นเป้าหมายหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือการช่วยให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้หลุดพ้นจากการถูกตีตราว่าเป็นความล้มเหลว
เวสต์กล่าวด้วยว่า “สหรัฐฯ เป็นประเทศที่ผู้คนหมกมุ่นอยู่กับความสำเร็จ ดังนั้นความล้มเหลวจึงเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมาก ๆ โดยเฉพาะในโลกธุรกิจ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับองค์กร เพราะถ้าคนเราไม่ยอมรับความความผิดพลาดของตัวเอง ก็จะไม่สามารถพัฒนา และไม่สามารถเรียนรู้จากความล้มเหลวของตนเองได้”
ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งความล้มเหลว เอ่ยถึงหลาย ๆ บริษัทที่ผลิดสินค้าที่ล้มเหลวในตอนแรก แต่สามารถพัฒนาต่อจนกลายเป็นที่ฮือฮาในเวลาต่อมา เช่น บริษัทวิดีโอเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Nintendo ที่ล้มเหลวในหลายผลิตภัณฑ์มาก่อนอย่างไม่น่าเชื่อ
หนึ่งในนั้นก็คือถุงมือที่สวมใส่เพื่อควบคุมเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง และอีกชิ้นหนึ่งก็คือคอนโซลเกมสามมิติที่ใช้ในการเล่นเกม ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสายตาของเด็กได้หากใช้เกิน 10 หรือ 15 นาที
แต่ Nintendo ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านี้และสร้างหนึ่งในวิดีโอเกมคอนโซลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดที่เคยมีมา ซึ่งก็คือ Nintendo Wii นั่นเอง
และที่ตรงทางออกของพิพิธภัณฑ์ ผู้เยี่ยมชมมีโอกาสที่จะแบ่งปันความผิดพลาดล้มเหลวของตน โดยการเขียนลงในแผ่นกระดาษแล้วแปะไว้ตรงฝาผนังที่ติดป้ายไว้ว่า “Share Your Failure”