[พาชมเครื่องจริง] vivo X100 Series มือถือใหม่ระดับเรือธง จัดเต็มสุดๆ ก่อนเปิดตัวในเมืองไทย

หลังจากที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการกันไปแล้วสำหรับ vivo X100 Series ในรอบนี้ทีม Sanook Hitech จะได้รับตัวเครื่อง vivo X100 Pro มาใช้งานระยะเวลาสั้นๆ เลยจะพาคุณมาสัมผัสตัวเครื่องรอบตัวกันก่อนเปิดตัวในเมืองไทย พร้อมรับชมได้เลยครับ

รายละเอียดสเปกของ vivo X100 Pro

• ขนาดตัวเครื่อง (ยาว x กว้าง x หนา) 164.1 x 75.3 x 8.9 มม. 
• น้ำหนัก LTPO 8T ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียดระดับ 1260 x 2800 พิกเซล พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz รองรับ HDR 10 ความสว่าง 3,000 nits
• ชนิดกระจกกันรอย : ไม่ได้ระบุ 
• ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 9300 Powered By Bluechip
• กราฟิก : Immortalis-G720 MC12
•  RAM ขนาด 12/16GB LPDDR5T
• พื้นที่จัดเก็บภายใน : 256/512GB / 1TB
• พื้นที่จัดเก็บภายนอก : ไม่สามารถเพิ่มได้
• การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 B/G/N/AC/AX/Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3, 4G/5G, GPS, A-GPS
• ลำโพง : แบบ Stereo 
• กล้องดิจิทัลด้านหน้า 
• ตัวหลักความละเอียด 32 ล้านพิกเซล F/1.8 PDAF
• วิดีโอ : 1080p@30/60fps 

• กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น 
• กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ขนาดเซนเซอร์ 1 นิ้วปรับรับแสงได้ตั้งแต่ F/1.75  พร้อม PDAF, Laser AF, OIS 
• มุมกว้างความ 50 ล้านพิกเซล ช่วงเลนส์ 15 มม. F/2.4
• เลนส์กล้องซูมแบบ Periscope ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล PDAF + OIS ระยะซูม Optical 4.3x, OIS รูรับแสง F/2.5
• ครอบด้วย ชุดเลนส์ Zeiss Vario APO Sonnar Pro
• วิดีโอถ่ายได้ที่ 8K/30FPS, 4K@30/60fps, 1080p@30/60, gyro-EIS 
• LED Flash 

• ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น :IP68
• ระบบปลดล็อค Face Recognition และ ระบบสแกนนิ้วในหน้าจอ 
• แบตเตอรี่ความจุ 5400 mAh 
• รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 100W + Wireless Charge กำลัง 50W + Revese Wireless Charge
• ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android14 + OriginOS4 (ตลาดโลกคาดว่าจะใช้ FunTouch OS 14)
• สี ดำ, ฟ้า, ส้ม, ขาว

เปิดกล่อง vivo X100 Pro ประกอบด้วย

• ตัวเครื่อง vivo X100 Pro
• ปลั๊กชาร์จไฟ 120W
• สายชาร์จ พร้อมตัวแปลง
• เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
• คู่มือ
• เคสตัวเครื่อง

แรกเห็นรูปร่างดีไซน์ของ vivo X100 Pro

ถ้าบอกตรงๆ เมื่อเห็นด้านหน้าต้องบอกว่า มันคือ vivo X90 Pro ที่ขายในประเทศไทย ก็ไม่ผิดหรอกครับ เพราะหน้าจอมีขนาด 6.78 นิ้วพร้อมกับจอแบบ LTPO OLED แต่ความต่างที่ชัดเจนคือความสว่างมากถึง 3,000 nits และ Adaptive Display ที่เลือกส่วนได้ ติดตั้งกล้องความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมกับ การบันทึกวิดีโอ 1080p 60 FPS

 

รอบตัวเครื่องจะมีความหนาประมาณหนึ่งไม่ได้แตกต่างชัดเจนเท่าไหร่ โดยตัวเครื่องจะมีปุ่มควบคุมทั้งหมดอยู่ทางขวาเท่านั้น ได้แก่ปุ่ม Power, ปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง

ด้านบนจะมีคำว่า Professional Photography พร้อมกับอินฟราเรด และไมโครโฟนตัวเครื่อง

ด้านล่างจะมาพร้อมกับ USB-C, ไมโครโฟน, ลำโพงหลัก และถาดใส่ซิมแบบ Dual Nano SIM

ด้านหลังออกแบบตามแนวคิดของการเห็นสุริยุปราคา โดยกล้องรอบนี้มีขนาดใหญ่โตมาก ครอบด้วยเลนส์คุณภาพโดยชุดเลนส์ Zeiss Vario APO Sonnar Pro เคลือบสาร T*

 

พร้อมกับสีสันมาให้เลือกแบบครบๆ เช่นสี ฟ้า, ส้ม, ขาว และดำ โดยภาพตัวเครื่องจริงที่เห็นจะเป็น vivo X100 รุ่นปกติที่ต่างกันแค่เรื่องเลนส์ และรวมถึงการวางตำแหน่งชื่อเลนส์ และจะใช้เลนส์จากรุ่นก่อนหน้านี้และเคลือบสาร T* และการจับถือ น้ำหนักถือว่าไม่ได้หนัก แค่ต้องระวังเรื่องเลนส์กล้องขนาดใหญ่ ถ้าจะดี ใส่เคสดีกว่าครับมันจะกันเลนส์ได้ดี ถ้าไม่ใส่ก็ได้รับความ Premium ของสีสัน โดยสีส้มจะเป็นสีเดียวที่ได้วัสดุแบบหนักครับ

ฟีเจอร์ที่โดดเด่น / ประสิทธิภาพ

ทาง vivo ได้เปิดเผยว่ารอบนี้มีการพัฒนาในหลายๆ จุดให้หมด และมีการทุ่มเรื่องการวิจัยเยอะมากมาย ทำให้มือถือรุ่นนี้ออกมาโดดเด่นที่สุด ประกอบด้วย

BlueChip : เป็นการออกแบบทั้ง Hardware และ Software ให้เข้ากันเพื่อทำให้เกิดความลื่นไหลและกำหนด SoC จึงทำงานให้ชิป Dimensity 9300 ที่เข้ากับมือถือรุ่นนี้ และรวมถึงทำงานกับชิป V3 จะมีขนาด 6 นาโนเมตร ช่วยประมวลผลภาพที่ดีและการทำงานรวมจะดีมากขึ้น แถมได้ RAM แบบ LPDDR5T และ UFS 4.0

โดยชิป MediaTek Dimensity 9300 ทำงานได้ดีขึ้น 40% ใช้พลังงานลดลง 33% GPU Immortalis-G720 ใช้พลังงานลดลง 40% ทำงานเร็วขึ้น 46% มี Bandwidth 10% คะแนน AnTuTu ทะลุ 2.3 ล้าน แต่การทดสอบจริงทำได้ดีสุด 2.0 ล้าน แต่เครื่องก็เริ่มจะร้อนๆ ซึ่งดีกว่าเดิมที่กดแล้วร้อนจนสุก

Blue Volt : ออกแบบให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ทนทาน พร้อมกับมีการออกแบบให้สามารถใช้พลังงานได้คุ้มค่า โดยแบตเตอรี่ของ vivo X100 จะมีขนาด 5000 mAh ชาร์จไฟ 120W ส่วน vivo X100 Pro ขนาด 5400 mAh ชาร์จไฟ 100W แบบสาย ทั้งคู่รองรับชาร์จไฟไร้สาย 50W และชาร์จไฟ 4 วินาทีเครื่องจะติดโดยอัตโนมัติ

ซึ่งจากการใช้งานจริงของมือถือรุ่นนี้โดยเปิดเครื่องทั้งวันมีการอัปเดตและต่อเน็ตพร้อมกับถ่ายรูปยาวนาน พบว่าจากเวลา 8:05 ชั่วโมง แบตเตอรี่เหลือราวๆ 27% ถือว่าทำได้ดีแล้วถ้าเปิดกล้องหนักขนาดนี้และอุณหภูมิเย็นเพียง 5 องศา ทั้งนี้ต้องดูกับตลาดโลกต่อไปว่า จะทำได้แบบนี้ด้วยหรือไม่

ด้าน Software

BlueLM : ยกระดับตัวเครื่องโดยการนำ AI ที่พัฒนาเอง มาทำให้สามารถประมวลผล และตอบสนองกับการใช้งานของคุณ การงานจะเหมือนกับนำ Generative AI ติดตั้งลงไปใน Jovi เพื่อให้ฉลาดมากขึ้น แต่ว่ารองรับการพูดคุยผ่านภาษาจีนเท่านั้น

BlueOS : ออกแบบให้ตัวเครื่องใช้งานประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถทำงานได้กับคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานกับ อุปกรณ์ครอบคลุมตั้งแต่ Windows 95 ก็สามารถรันได้ โดยจะเริ่มกับ Smart Watch vivo Watch 3 ไว้จะมาเล่าที่หลัง แต่ว่า vivo X100 และ X100 Pro เวอร์ชั่นจีนเลือกใช้ Origin OS 4 พื้นฐานคือ Android 14 ส่วนตลาดโลกจะต่างกันออกไปครับ

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนากล้องกับ Zeiss และยังมาพร้อมกับ Algorithm ที่ช่วยประมวลผลและทำให้การถ่ายภาพที่ประสิทธิภาพสูงถูกใจผู้ใช้งาน ซึ่ง vivo ได้พูดเพิ่มเติมว่า ต้องการให้ผู้ใช้งานได้ภาพที่ดี โดยไม่ต้องปรับแต่งเยอะ แต่มีการปรับแต่งผ่าน Style, การเลือกรูปแบบการละลายหลังของ Zeiss และรวมไปถึง การเพิ่มโหมดการถ่ายวิดีโอ Cinematic Portrait เข้าไปช่วยให้สนุกกับการถ่ายภาพและบันทึกความทรงจำ โดยสเปกกล้อง

ฟีเจอร์กล้องเป็นอย่างไร

เรียกว่าใช้สนุกเพราะมีลูกเล่นทั้งโหมดการถ่ายภาพและวิดีโอแบบครบครนเลยไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการถ่ายภาพ ที่มี Zeiss ให้เลือกรูปแบบการละลายหลัง กำหนดโทนของภาพ รวมถึงการที่เลนส์ช่วยลดแสงสะท้อนทำได้ดี

วิดีโอรองรับ Cinematic Portrait ไว้สำหรับการละลายหลังทำให้ภาพที่ออกมาดูมีคุณภาพสูงเพราะรองรับการถ่ายถึง 4K 30 FPS และกำหนดจุดละลายหลังได้ด้วยครับ 

นอกนั้นก็ไม่ได้ต่างจากเดิม แค่ระยะการซูมทำได้ดีและสามารถถ่ายภาพระยะ 10x คมชัดอยู่ด้วย อันนี้ต้องบอกว่าชิป V3 มีส่วนช่วยเยอะเหมือนกัน ไม่เชื่อดูจากภาพตัวอย่างด้านล่างได้

ผลงานกล้อง vivo X100 Pro

 

ดูต่อจาก Gallery นะครับ เยอะมากจริงๆ 

สรุปความประทับใจกหลังจากได้ลอง vivo X100 Pro

ปิดท้ายสำหรับในภาคนี้ต้องบอกว่า vivo X100 Series ถือว่าเป็นอีกมือถือที่เน้นเรื่องกล้อง และ การใช้งานจริงเพราะรอบนี้จะเห็นว่ามีการจับมือกับ MediaTek แบบแทบจะเป็นบริษัทเดียวกัน, Zeiss จนกลายเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทไปแล้ว และความพรี้อมที่จะลุยเรื่องตลาดมือถือ Premium มากๆ อีกรุ่นหนึ่งเลยครับ ทั้งนี้ต้องรอติดตามกันต่อไปว่า เวอร์ชั่นตลาดโลกจะดีแบบนี้ไหม และราคาจะเป็นเร้าใจแค่ไหนต่อไป