vivo เปิดตัว vivo X100 Series มือถือสเปกอลังการรับปลายปี ที่สุดของพัฒนาการกล้องบนมือถือ

เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่จาก vivo อย่าง vivo X100 Series ที่ประกอบไปด้วย 2 รุ่นย่อยคือ vivo X100 และ vivo X100 Pro ที่สำคัญวีโว่ยังแย้มมาอีกด้วยว่าจะมีรุ่นที่เข้ามาวางจำหน่ายในเมืองไทย เพียงแต่ยังไม่บอกว่าเป็นรุ่นไหน

รายละเอียดสเปกที่ vivo X100 และ vivo X100 Pro มีความเหมือน

สเปกที่ vivo X100 และ vivo X100 Pro จะได้มาเหมือนกันมีอยู่หลายส่วน เริ่มต้นด้วยหน้าจอแสดงผลขนาด 6.78 นิ้ว แบบ LTPO 8T ความละเอียด 2800 x 1260 พิกเซล รองรับค่าสี 10-bit รองรับอัตรา Refresh Rate ตั้งแต่ 1 - 120Hz ความสว่าง 3,000 nits มีค่า PWM Dimming ที่ 2,160Hz กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอที่ 1080P 60FPS

การออกแบบ vivo X100 Series

การออกแบบด้านหลังตัวเครื่องค่อนข้างมีความน่าสนใจ โดย vivo X100 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดวงจันทร์ ส่วน vivo X100 Pro ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเกิดสุริยุปราคา ทำให้ทั้งสองรุ่นมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร มีสีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ , สีส้ม , สีฟ้า และสีขาว ตัวเครื่องรองรับมาตรฐานกันน้ำ IP68

ประสิทธิภาพด้าน Hardware ของ vivo X100 Series

BlueChip

เป็นการออกแบบทั้ง Hardware และ Software ให้เข้ากันเพื่อทำให้เกิดความลื่นไหลและกำหนด SoC ส่งผลให้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 9300 ทำงานบนสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังสามารถทำงานกับชิปกล้อง V3 ขนาด 6 นาโนเมตร ที่ช่วยในการประมวลผลภาพให้ออกมาดี การทำงานในภาพรวมดีขึ้น แถมยังได้ RAM แบบ LPDDR5T และพื้นที่จัดเก็บแบบ UFS 4.0 ซึ่งชิป Dimensity 9300 ทำงานได้ดีขึ้น 40% ใช้พลังงานลดลง 33% GPU Immortalis-G720 ใช้พลังงานลดลง 40% ทำงานเร็วขึ้น 46% มี Bandwidth 10% ได้คะแนนทดสอบบนแพลตฟอร์ม AnTuTu ทะลุ 2.3 ล้าน

Blue Volt

ออกแบบให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ทนทาน พร้อมกับออกแบบให้สามารถใช้พลังงานได้คุ้มค่า โดยแบตเตอรี่ของ vivo X100 จะมีขนาด 5000 mAh กำลังชาร์จไฟ 120W แบบสาย ส่วน vivo X100 Pro แบตเตอรี่จะมีขนาด 5400 mAh กำลังชาร์จไฟ 100W แบบสาย ทั้งคู่ยังรองรับการชาร์จไร้สายที่กำลังไฟ 50W และเมื่อชาร์จไฟได้ 4 วินาทีเครื่องก็จะเปิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

ประสิทธิภาพด้าน Software ของ vivo X100 Series

BlueLM

ยกระดับการใช้งานโทรศัพท์มือถือด้วยการนำเอา AI ที่พัฒนาขึ้นเอง มาเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล พร้อมตอบสนองกับการใช้งานของคุณ (Generative AI in Phone) โดยติดตั้งลงไปใน Jovi ที่รองรับการพูดคุยผ่านภาษาจีนเท่านั้น

BlueOS

ออกแบบให้ตัวเครื่องใช้งานได้ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น สามารถทำงานได้กับคอมพิวเตอร์ในระบบครอบคลุมตั้งแต่ Windows 95 โดยจะเริ่มกับ vivo Watch 3 ซึ่ง vivo X100 และ vivo X100 Pro เวอร์ชั่นจีนเลือกใช้ Origin OS 4 ครอบทับ Android 14 ส่วนเวอร์ชั่นที่จะวางขายทั่วโลกก็จะต่างกันออกไป

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนากล้องร่วมกับ Zeiss ที่มาพร้อมกับ Algorithm ที่ช่วยประมวลผลและทำให้การถ่ายภาพประสิทธิภาพสูงถูกใจผู้ใช้งาน โดยรอบนี้มันคือหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่ต่างกันโดยมีรายละเอียดดังนี้

สเปกกล้อง vivo X100

• กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล IMX920 รูรับแสง F/1.57
• กล้องมุมกว้าง 50 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 15 มิลลิเมตร
• กล้อง Telephoto 64 ล้านพิกเซล Optical 3x หรือระยะ ซูมสูงสุด 100x
• เป็นเลนส์ Zeiss เคลือบสาร T*

สเปกกล้อง vivo X100 Pro

• กล้องหลัก 50 MP เซนเซอร์ 1 นิ้วจาก IMX989 รูรับแสง F/1.75
• กล้องมุมกว้าง 50 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 15 มิลลิเมตร
• กล้อง Telephoto 50 ล้านพิกเซล Optical 4.3x หรือระยะ ซูมสูงสุด 100x
• ชุดเลนส์ Zeiss Vario APO Sonnar Pro

ราคา vivo X100 และ vivo X100 Pro

• Vivo X100 เริ่มต้น 3,999 หยวน หรือประมาณ 19,xxx บาท (RAM 12GB / 256GB) ไล่ไปจนถึงตัวท็อป RAM 16GB / 1TB ที่ 5,099 หยวน หรือประมาณ 25,xxx บาท
• Vivo X100 Pro เริ่มต้น 4,999 หยวน หรือประมาณ 24,xxx บาท (RAM 12GB / 256GB) ไล่ไปจนถึงตัวท็อป RAM 16GB / 1TB ที่ 5,999 หยวน หรือ 29,xxx บาท

เริ่มขายในประเทศจีน 21 พฤศจิกายน ส่วนเวอร์ชั่นที่จะวางขายทั่วโลกรวมถึงไทยจะวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้