เล่นแล้วเล่า "Huawei FreeBuds Pro 3" หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวน ANC พร้อมไดรเวอร์คู่ที่ทรงพลัง
HUAWEI FreeBuds Pro 3 ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดเพื่อให้ได้รับประสบการณ์การฟังที่ยอดเยี่ยมด้วยการตั้งค่าไดรเวอร์คู่ที่ทรงพลัง ยกระดับโดย Halbach array พร้อมการตอบสนองระดับสูง ขับเคลื่อนพลังเบสแบบ Ultra-mag ขนาด 11 มม. ที่จะทำให้คุณตกตะลึงอย่างแน่นอน ทะยานไปอีกขั้นกับเทคโนโลยี Digital Cross-over ส่งย่านเสียงไปได้ไกลถึง 48 kHz3 หรือย่านต่ำไปจนถึง 14 Hz3 แล้วคุณจะไม่พลาดในทุกจังหวะ
สรุปสเปกของ UAWEI FreeBuds Pro 3 กันหน่อย
- ขนาดหูฟัง: 29.1 มม. (สูง) × 21.8 มม. (กว้าง) × 23.7 มม. (ลึก)
- ขนาดกล่องชาร์จ: 46.9 มม. (สูง) × 65.9 มม. (กว้าง) × 24.5 มม. (ลึก)
- ตัวหูฟังหนักข้างละ 5.8 ก.
- กล่องชาร์จ: 45.5 ก.
- เซนเซอร์: Accelerometer/Infrared sensor/Hall sensor/Press sensor/Touch sensor/Bone sensor
- การเชื่อมต่อกับสองอุปกรณ์ผ่านบลูทูธ
- ANC: Active Noise Cancellation
- สามารถเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์
- การจับคู่แบบป๊อปอัป: รองรับ
- ความจุของแบตเตอรี่ หูฟัง: 55 mAh
- กล่องชาร์จ: 510 mAh
- การชาร์จแบบมีสาย: USB-C, ไร้สาย: สูงสุด 2 วัตต์
- กันฝุ่นและน้ำระดับ IP54
มาดูกันในกล่องมีอะไรมาให้บ้าง
- หูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 3
- กล่องชาร์จ
- คู่มือเริ่มต้นใช้งานอย่างย่อ (พร้อมข้อมูลความปลอดภัย)
- ใบรับประกัน
- สายชาร์จ USB-C (ความยาว: 23 ซม. ± 2 ซม.)
- จุกหูฟัง 4 คู่ (มีจำหน่ายขนาดใหญ่ กลาง ขนาดเล็ก และขนาดเล็กพิเศษ ขนาดกลางติดตั้งไว้ล่วงหน้าบนหูฟัง)
ได้เวลาจะมาสัมผัส HUAWEI FreeBuds Pro 3 ด้านดีไซน์สวยแค่ไหน?
กล่องของ HUAWEI FreeBuds Pro 3 ยังมาพร้อมกับความพรีเมี่ยมและหรูหราเหมือนเดิมครับ HUAWEI FreeBuds Pro 3 เป็นหูฟังเอียร์บัด มีให้เลือกใช้งานด้วยกันทั้งหมด 3 สีได้แก่ สีเขียว, สีขาว และสีเงิน (Silver Forst) ซึ่งเป็นสีที่เราได้มารีวิวให้ได้อ่านกัน
เคสชาร์จของ HUAWEI FreeBuds Pro 3 มาพร้อมความโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบง่ายด้วยตัวเรือนกระจกเงาและบานพับดีไซน์ปกปิด เคสชาร์จมีขนาดเล็กกว่าเคสรุ่นก่อนหน้า 4.5% ผิวแบบแก้วระดับนาโนชิ้นเดียวของเคสชาร์จมีความทนทานต่อการสึกหรอมากขึ้น 32% เคสชาร์จมาพร้อมกับบานพับซึ่งสร้างขึ้นเพื่อทนต่อการเปิดและปิดได้มากกว่า 100,000 ครั้ง พร้อมกับไฟสถานะบอกปริมาณไฟ จะแสดงผลสีต่างๆ เช่น
- ไฟสีเขียว = ปริมาณไฟเต็ม
- ไฟสีเหลือง = ปรมาณไฟเกิน 50%
- ไฟสีแดง = ปริมาณไฟต่ำกว่า 25%
- ไฟสีขาวกระพริบ = เข้าสู่โหมด Pairing
พื้นที่สัมผัสที่ขยายใหญ่ขึ้นของเอียร์บัดทําให้ง่ายต่อการนําออกมาใช้งานเช่นกัน จะพกพาสะดวกขนาดพกพาเหมาะสําหรับชีวิตขณะเดินทาง และทำให้ดูสะดวกพกกกว่าเดิม
สำหรับปุ่มกดสั่งงานจะมีทั้งปุ่ม Pairing สำหรับอุปกรณ์ โดยอยู่ทางขวามือ ส่วนช่องเสียบพร้อมกับลำโพงด้านล่างที่กล่อง อยู่ทางด้านล่าง
ต่อกันที่ส่วนของหูฟัง... สำหรับในรุ่นใหม่นี้มาพร้อมการดีไซน์หากมองผ่านๆ คือไม่ได้แตกต่างจากรุ่นแรกมากนัก แต่หากได้ลองสัมผัส หรือหยิบจับคุณจะรู้ได้เลยว่า HUAWEI FreeBuds Pro 3 มาพร้อมความแตกต่าง และมันยังใช้งานง่ายกว่าหูฟังทั่วไป ด้วยหูฟังที่มีน้ำหนักน้อยกว่า FreeBuds รุ่น Pro 2 ถึง 5%
เอียร์บัดได้ผ่านการทดสอบการเปิดและปิดมากกว่า 100,000 ครั้ง ข้อมูลมาจากห้องปฏิบัติการของหัวเว่ย สามารถสั่งการด้วยการสัมผัส เราสามารถควบคุมการสัมผัสและการปัดอยู่ที่ด้านหน้าของด้ามจับเมื่อสวมใส่เอียร์บัด คุณสามารถตั้งค่าคุณสมบัติเพิ่มเติมได้ในแอป AI Life คุณสมบัติจริงอาจแตกต่างกัน
นอกจากนี้ HUAWEI FreeBuds Pro 3 มาพร้อมกับปลอกหูฟังแบบใหม่ขนาด XS รวมทั้งหมด 4 ขนาด ให้คุณสามารถปรับแต่งหูฟังตามขนาด ถ้าไม่มั่นใจว่าขนาดที่ใส่พอกับหูของคุณหรือไม่ ใน App Ai Life ก็มีการบอกว่าหูฟังของคุณของคุณสามารถใส่ได้พอดีหรือไม่เช่นเดียวกัน
การควบคุม (Control)
Huawei FreeBuds Pro 3 จะมีปุ่มที่ชัดเจนอยู่ทางด้านข้างนอกสุดสามารถกดสั่งงานได้ดังนี้
- บีบหนึ่งครั้ง: เล่น/หยุดเพลง รับสาย/วางสาย
- บีบสองครั้ง: เล่นเพลงถัดไป
- บีบสามครั้ง: เล่นเพลงก่อนหน้า
- บีบยาว: เปิดหรือปิดใช้งาน ANC/Awareness
- ปัดขึ้น/ลง: เพิ่มหรือลดระดับเสียง
ทั้งหมดสามารถดูและทบทวนผ่าน Huawei Ai Life
ทดลองฟังเพลงด้วย HUAWEI FreeBuds Pro 3
จากการออกแบบระบบลำโพงที่เป็นแบบ Dual Speaker และมาพร้อมกับ Digital Cross-Over พร้อมกับส่งย่านเสียงไปได้สูงทั้ง 48 kHz และต่ำสุดที่ 14Hz ทำให้ระบบเสียงที่ออกมาถือว่าทำได้ดีจากการทดลองฟัง ให้เสียงที่โดดเด่นไม่น้อยและยังมี Driver ทั้งแบบ Halbach array และ Ultra-mag รวมกันขนาด 11 มิลลิเมตร เข้าไปอีกช่วยขับเสียงออกมาได้ดีขึ้น ที่สำคัญรองรับ Hi-Res Wireless Audio, HWA อีกด้วย
และสามารถปรับเสียงได้ตามใจเพราะมี อัลกอริทึม EQ ที่ปรับเปลี่ยนได้ถึง 3 ระดับจะเริ่มต้นบรรเลงทุกโน้ต โทน และปรับแต่งคุณภาพเสียงให้สมจริง อัลกอริทึมจะตรวจจับระดับเสียง รูปร่างช่องหู และสถานะการสวมใส่แบบเรียลไทม์ และปรับแต่งระดับเสียงและการตั้งค่า EQ ที่เหมาะสม หรือสายโปรก็สามารถปรับแต่งได้ผ่าน Ai Life ได้เช่นเดียวกัน
ไมโครโฟนของ / การลดเสียงรบกวน
สำหรับระบบไมโครโฟนรอบนี้มีทั้งหมด 4 ตัวและมาพร้อมกับระบบ Pure Voice 2.01 ที่เก็บรายละเอียดเสียงได้ดีกว่า 2.5 เท่าเมื่อเทียกับรุ่นเดิม โดยรอบนี้มีการจัดวางไมโครโฟนที่รับเสียงระหว่างเสียงปกติ และเสียเพลง โดยมีการหักล้างได้ จากการที่ได้ทดลองฟังเสียงที่ออกมาถือว่ามีคุณภาพที่ดีช่วยลดเสียงได้จริง และยังมีการตรวจจับสภาพแวดล้อม ทำให้เสียงที่ได้ยินจะมีแต่เสียงเราเท่านั้น
นอกจากระบบไมโครโฟนแล้ว ยังมีการออกแบบระบบ ANC เวอร์ชั่น 3.0 ใหม่ลดเสียงรบกวนได้จริงเมื่อตรวจจับได้จะทำให้เสียงที่ได้ยินลดลงกว่า 50% เมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว และยังสามารถลดเสียงทั้งคลื่นเสียงต่ำและสูงได้ด้วยในเวลาเดียวกัน
Ai Life
สำหรับ App พูดหลากหลายจุดแล้วมันคือ Huawei Ai Life ที่สามารถปรับแต่ตั้งค่าหูฟังได้มากมายเช่น
- รูปแบบของเสียง
- การตามหาหูฟัง
- การตั้งค่าปุ่มกดทั้งการกดครั้งเดียว, กดค้าง, เลื่อนขึ้นหรือลง
- การตั้งค่าระบบ ANC
- อัปเดต Software
- คู่มือการใช้งาน
นอกจากคุณสมบัติต่างๆ แล้ว FreeBuds Pro 3 สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องในเวลาเดียวกันและสลับเสียงได้แม้ระหว่างอุปกรณ์ iOS และ Android โดยไม่ต้องจับคู่และตัดการเชื่อมต่อซ้ำๆ และยังสามารถแชร์เสียงฟังกับเพื่อนได้อีกด้วย
คุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ไม่ใช่แค่เรื่องเสียงเท่านั้น Huawei FreeBuds Pro 3 ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- Huawei FreeBuds Pro 3 จะออกแบบให้สามารถกันน้ำกระเด็นได้ผ่านมาตรฐาน IP54 ถือว่าช่วยได้ระดับหนึ่งแต่ถ้าน้ำเข้าตัวเครื่อง จะหมดประกันนะ
- จุกที่เปลี่ยนได้นั้นมีความนิ่มช่วยให้ใส่ได้ง่าย
- ตัวหูฟังสามารถเลื่อนขึ้นลงเพื่อปรับระดับเสียงได้
แบตเตอรี่ของ HUAWEI FreeBuds Pro 3
สำหรับแบตเตอรี่ของ Huawei FreeBuds สามารถใช้งานได้นาน การเล่นเพลง (โดยปิดใช้งานการป้องกันเสียงรบกวน): 6.5 ชั่วโมงหลังจากชาร์จเต็ม และ 31 ชั่วโมงเมื่อใช้กับกล่องชาร์จ การเล่นเพลง (พร้อมระบบลดเสียงรบกวน): 4.5 ชั่วโมงหลังจากชาร์จเต็ม และ 22 ชั่วโมงเมื่อใช้กับกล่องชาร์จ และชาร์จแบบไร้สายเพื่อการใช้งานได้สบาย
สรุปหลังจากที่ได้ทดลองใช้งาน HUAWEI Freebuds Pro 3
บอกได้เลยว่าหากคุณกำลังมองหาหูฟังตัวใหม่ไว้ใช้งาน HUAWEI Freebuds Pro 3 คืออีกตัวเลือกที่มีดีไม่แพ้ใครในท้องตลาด ทั้งเรื่องของเสียงฟังเพลงที่ชัด การลดเสียงได้มากกว่าเดิม แต่ยังสามารถปรับให้คุณรู้ว่าเสียงข้างนอกเป็นยังไงรวมไปถึงเรื่อง ความทนททานและใช้งานไม่ซับซ้อน นี่เป็นอีกคุณสมบัติที่หูฟังเรือธงควรมี
HUAWEI Freebuds Pro 3 ขายในไทยราคา 6,990 บาท มีให้เลือก 3 สี ดำ ขาว และเขียว เริ่มวางจำหน่าย 12 ธันวาคม นี้ พร้อมโปรโมชั่นแถมกระเป๋าหูฟังมูลค่า 599.- ตั้งแต่ 12 ธันวาคม 2566 – 7 มกราคม 2567 ช่องทางการสั่งซื้อ Shopee: https://bitly.ws/33cT6
อัลบั้มภาพ 23 ภาพ