[รีวิว] ZTE Blade V50 Design มือถือรุ่นใหม่ที่ให้สเปกคุ้ม และราคาไม่ต้องคิดมากถ้าจะซื้อ
กลับมาพบกับรีวิวจากทีมของ Sanook Hitech กันอีกครั้งในรอบนี้จะมาพร้อมกับมือถือรุ่นใหม่อีกตัวจาก ZTE อย่าง Blade V50 Design ใหม่ล่าสุด เห็นแบบนี้เรามาดูกันต่อไป
รายละเอียดสเปกของ ZTE Blade V50 Design (สำหรับรุ่นที่ได้ทดสอบ)
- ขนาด: 164.96 x 76.1 x 8.3 มิลลิเมตร
- น้ำหนักตัวเครื่อง: 190 กรัม
- หน้าจอแสดงผล : IPS LCD ขนาดหน้าจอ 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2404x1080 หรือ HD+ Refresh Rate 90Hz
- มาตรฐานกัน : ไม่ได้ระบุ
- กระจกกันรอย : ไม่ได้ระบุ
- ชิปเซ็ต : Unisoc T606 Octa-Core 1.6GHz | GPU : Mail G57
- RAM : 18 GB (RAM 8GB / VRAM 10GB)
- ROM : 256 GB
- ความจำเสริม : MicroSD
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 + My OS
- WiFi 802.11 B/G/N/AC (Dual Band)
- Bluetooth 5.2
- เครือข่ายมือถือ : 2G/3G/4G
- การบอกพิกัด : GPS, A-GPS
- กล้องหลัง 2 ตัว:
- ตัวแรกเป็นของ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล PDAF
- กล้องตัวที่ 2 Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- วิดีโอ 1080p@30/fps
- LED Flash
- กล้องหน้าเซลฟี่
- ความละเอียดกล้องหลัก: 5 ล้านพิกเซล
- ถ่ายวิดีโอ 720p@30fps,
- รองรับ: สแกนใบหน้าแบบ 2D, ระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
- ชนิดซิมการ์ด : nano SIM สามารถใส่ได้ 2 ช่อง + MicroSD
- ช่องเสียบ : USB-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- แบตเตอรี่ : Li-Po 5000 mAh
- ระบบชาร์จไฟ : แบบ USB-C กำลัง 22.5W
- สี : Diamond Black, Beach Green, Sunrise Violet
เปิดกล่อง ZTE Blade V50 Design
- ตัวเครื่อง ZTE Blade V50 Design
- เคสใส
- สายชาร์จไฟ USB-C to USB-A
- ปลั๊กชาร์จไฟ 5W
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ ZTE Blade V50 Design
เริ่มต้นกับหน้าจอของ ZTE Blade V50 Design จะมาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 6.6 นิ้ว แบบ IPS LCD พร้อมกับ 2408 x 1080 พิกเซล พร้อมกับดีไซน์เรียบง่าย
ส่วนบนจะมาพร้อมกับกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมกับลำโพงตัวเครื่องและยังมาพร้อมกับขอบหน้าจอแบบ V Shape
ส่วนด้านล่างจะมาพร้อมกับปุ่มกดจะเป็นแบบสัมผัสและปุ่มกดต่างๆ มาเช่นเดียวกัน
ขอบตัวเครื่องจะมาพร้อมกับความหนาประมาณหนึ่ง ฝั่งซ้ายจะมีถาดใส่ซิมแบบ 2 Nano SIM, MicroSD เช่นเดียวกัน
ฝั่งขวามีปุ่ม Power พร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือและมีปุ่มปรับระดับเสียงได้ง่าย
ส่วนบนจะไม่มีปุ่มอะไร
ส่วนด้านล่าง มีทั้งช่องเสียบหูฟัง, USB-C ไมโครโฟนและลำโพงตัวเครื่อง ให้เสียงมาแบบจัดเต็มไม่น้อยเลยครับ
พลิกด้านหลังจะมาพร้อมกับกล้องด้านหลังทั้งหมด 2 ตัวและพร้อมกับ LED และดีไซน์ถือว่าสวยงามและวัสดุโพลีคาร์บอเนตที่โดดเด่นไม่น้อย
น้ำหนักและการจับถือ
สำหรับในเรื่องน้ำหนักของเครื่องที่อยู่ที่ 190 กรัมเท่านั้นเอง แต่วัสดุนั้นถือว่าสมกับมือถือในระดับไม่เกิน 4,000 บาท เพราะจริงๆ มันทำได้ตัวเครื่องอาจจะเกินค่าตัวไปมากกว่านั้นนะ ดังนั้นใครที่ชอบความพรีเมี่ยม นี่เป็นอีกรุ่นที่โดดเด่นไม่น้อยเลยครับ
การแสดงผลภาพ / ระบบเสียง
การแสดงผลภาพของภาพที่เป็นแบบ IPS-LCD พร้อมกับความละเอียด FHD+ และยัง Refresh Rate 90Hz ช่วยให้ในเรื่องเล่นเกมและการตอบสนองทำได้ลื่นไหลอยู่
ส่วนระบบเสียงถือว่าที่ดีให้เสียงดังแต่ว่าถ้าจับในเรื่องของความดังถ้าอยู่กลางเมืองที่มีเสียงเยอะๆ อาจจะค่อนข้างเบาไปนิดนึง
ประสิทธิภาพ / การเชื่อมต่อไร้สาย
สำหรับประสิทธิภาพของเครื่อง พบว่าทำได้เท่าที่เห็น ถือว่ายังรับได้ นอกจากนี้ในเรื่องการเล่นเกม เล่นได้อยู่ครับ เพราะหลักๆ แล้ว RAM ของเครื่องที่เยอะขนาดนี้จุดประสงค์ทำได้รวดเร็ว แต่ว่าถ้า CPU อาจจะยังไม่ได้แรงเท่าไหร่
ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายจะมาพร้อมกับ 4G LTE, Wi-Fi AC, Bluetooth 5.2 พร้อมกับ GPS, A-GPS เป็นต้น
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายใน / ระบบความปลอดภัย
ZTE Blade Series ของปี 2023 จะได้ระบบปฏิบัติการ MyOS ครอบบน Android 13 การทำงานถือว่าแบ่งออกมาทั้ง Quick Setting และการแจ้งเตือนต่างๆ ช่วยให้แยกได้ง่ายมากขึ้น ฟีเจอร์ภายในอาจจะไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากนักพร้อมกับเครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, และเครื่องมืออื่นๆ อีกมากมายครับ
ส่วนระบบความปลอดภัยของมือถือรุ่นนี้จะรองรับทั้งระบบสแกนใบหน้า / ระบบสแกนลายนิ้วมือ
เปิดกล้องลองถ่ายภาพของ ZTE Blade V50 Design
- กล้องหลัง 2 ตัว:
- ตัวแรกเป็นของ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล PDAF
- กล้องตัวที่ 2 Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- วิดีโอ 1080p@30/fps
- LED Flash
- กล้องหน้าเซลฟี่
- ความละเอียดกล้องหลัก: 5 ล้านพิกเซล
- ถ่ายวิดีโอ 720p@30fps,
ฟีเจอร์ของกล้อง ZTE Blade V50 Design
เมนูของกล้องมีการปรับเปลี่ยนจากกล้องรุ่นที่รีวิวก่อนหน้านี้คือมีการรองรับการถ่ายภาพ HD Photo ความละเอียดสูง มีโหมด โปรเข้ามา และยังมาพร้อมกับลูกเล่นอื่นๆ เช่นฟิลเตอร์ต่างๆ มีให้หมดทุกอย่างเลยครับ
ผลงานจากกล้อง ZTE Blade V50 Design
กล้องหลัง
กล้องหน้า
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
มาถึงเรื่องแบตเตอรี่ของ ZTE Blade V50 Design จะมาพร้อมกับขนาด 5000 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 22.5W โดยการใช้งานจริงพบว่าสามารถใช้งานได้ข้ามวัน ถ้าเป็นคนใช้งานปกติ ถ้าใช้งานหนักอาจจะเจอ CPU กินไฟเท่านั้นเอง
อย่างที่บอกว่าระบบชาร์จไฟของเครื่องจะมาพร้อมกับกำลัง 22.5W ด้วยครับ
สรุปหลังจากทดลองใช้งาน ZTE Blade V50 Design
เรียกได้ว่าเป็นมือถือรุ่นใหม่ที่จะมาพร้อมกับราคาคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้มา ทั้งดีไซน์สวย และยังสามารถใช้งานได้จริง เหมาะกับการเพิ่มเงินจากรุ่น A34 มาพอสมควรเลยครับ ทั้งนี้ในเรื่องราคาจะมีดังนี้
ราคาของ ZTE Blade V50 Design มีดังนี้
- V50 Design RAM 16GB (RAM 8GB / External RAM 8GB) ความจำภายใน 128GB = 3,499 บาท
- V50 Design RAM 18GB (RAM 8GB / External RAM 10GB) ความจำภายใน 256GB = 3,999 บาท
ทั้งนี้ก็มีโปรโมชั่นของรุ่นนี้คือ ZTE Blade และมี Gift Box เช่นเดียวกัน ทั้งนี้จะมาพร้อมกับประกันตัวเครื่อง 18 เดือน ทั้งนี้มือถือรุ่นนี้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แล้วทั้งตัวแทนจำหน่ายและหน้าร้านทั่วไป
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ