รวมมือถือราคาไม่เกิน 20,000 บาท ปี 2025 รุ่นไหนน่าซื้อเก่งทุกด้าน

สำหรับใครที่กำลังมองหา มือถือราคาไม่เกิน 20,000 บาท บอกเลยว่ามีตัวเลือกน่าสนใจมากมาย แต่ละรุ่นมาพร้อมจุดเด่นที่แตกต่างกันไป
กลับมาพบกับรวมมือถือจากทีม Sanook Hitech อีกครั้ง รอบนี้ใครมองหามือถืองบไม่เกิน 20,000 บาทในปี 2025 ที่น่าสนใจในปีนี้จะมีรุ่นไหนติดโผบ้างเรามาดูกันครับ
แนะนำมือถืองบไม่เกิน 20,000 บาท ประจำปี 2025
1. Nothing Phone (3a) Pro
มือถือใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวและกำลังจะวางจำหน่ายอีกไม่นานหลังจากนี้ พร้อมกับความจำ RAM 12GB / 256GB แตกต่างในเรื่องการออกแบบที่ฉีกทุกอย่าง แถมเป็นมือถือรุ่นแรกที่ซูมไกลได้จริงของ Nothing เพราะใส่ Periscope Lens ในราคา 17,499 บาท แต่ว่าขาย 1 เมษายน นี้
สเปกของ Nothing Phone (3a) Pro
- หน้าจอ 6.77 นิ้ว ใช้หน้าจอ AMOLED สีสัน ความละเอียดหน้าจอ FHD+, Refresh Rate 120Hz ความสว่าง 1200 nits
- ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3
- ความจำ RAM 8GB - 128GB / RAM 12GB - 256GB
- การเชื่อมต่อ : 5G, Wi-Fi 6e, Bluetooth 5.3, GPS
- กล้องหลัง 50 (หลัก) + 50 (Periscope Telephoto) + 8 (Ultra Wide) ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ 5000 mAh ระบบชาร์จไฟ 50W
- ระบบปฏิบัติการ Nothing OS 3.1 + Android 15
2. OPPO Reno 13 5G ราคาเริ่มต้น 17,990 บาท
เปิดตัวใหม่ล่าสุดแม้อาจจะเป็นมือถือที่มีรอยบาปเพราะ Apps ที่ติดมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่น้องก็เาอออกไปแล้วรอบนี้เลบยจะมาพูดถึงให้กำลังใจสักหน่อยกับ OPPO Reno 13 จุดเด่นของเขาคือดีไซน์ยกมากจากรุ่นพี่อย่าง Find X8 Series เบาสบาย กล้องดี กันน้ำและยังได้ขุมพลังที่เรียกว่าแรงจาก MediaTek แม้จะไม่ได้เป็นรุ่นท็อปแต่เล่นเกมได้แน่นอน ถ้าคุณไม่ได้สนใจ Telephone เหมือนกับรุ่น Pro ผมว่าแค่นี้พอแล้วสำหรับใครหลายคน ราคาอาจจะต้องยอมรับเมื่อเทียบกับกลุ่มนี้ สูงแต่ก็แลกกับคุณภาพโดยรวมที่ทีมให้ว่ามันคือตัวตึกมือถืองบไม่เกิน 20,000 ในปี 2025
สเปก OPPO Reno 12 5G
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด 1256 x 2760 พิกเซล อัตราการรีเฟรช 120Hz
- ชิปประมวลผล: Dimensity 8350
- หน่วยความจำ: RAM 12GB, ROM 256GB / 512GB
- ระบบปฏิบัติการ: ColorOS 15 based on Android 15
- กล้องหลัง:
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.8 พร้อมกับระบบ Auto Focus และ OIS
- กล้องมุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- กล้อง Depth Sensor
- รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K@30fps, 1080p@30/60/120/480fps, 720p@960fp
- LED Flash
- กล้องหน้า: ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่: 5600 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 80W
3. realme GT 6T 5G ราคา 18,999 บาท
อีกรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ล่าสุดพร้อมกับหน้าจอสว่างสุดที่ 6,000 nits และยังมาพร้อมกับขุมพลังใหม่ล่าสุด Snapdragon 7+ Gen 3 ใหม่เช่นเดียวกับ ดีไซน์เหมือนตัวท็อปของตระกูลนี้แต่ราคาเขาถูกกว่า ก็น่าสนใจสำหรับสายชอบความแรง
สเปก realme GT 6T
- หน้าจอ ขนาด 6.78 นิ้ว AMOLED ความละเอียด 1264 x 2780 ความสว่าง 1000 - 6000 nits Refresh 120 Hz
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 7+ Gen 3
- หน่วยความจำ RAM 12GB / ความจำ 256GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 + realme UI 5.0
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 2 ตัว
- กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/1.8 PDAF
- กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล
- วิดีโอถ่ายได้ที่ 4K@30/60fps, 1080p@30/60/120fps
- LED Flash
- กล้องหน้า 32 MP
- แบตเตอรี่ความจุ 5500mAh
- รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 120W Super VOOC
4. Xiaomi 14T (15,990 - 17,990 บาท)
อีกมือถือรุ่นใหม่ที่ชวนลองเพราะรอบนี้แค่ตัวเล็กยังได้กล้องสเปกเหมือนกับรุ่นใหญ่เว้นแต่เซ็นเซอร์คนละตัว แต่ที่เหลือก็ออกแบบได้ดูแกรนด์สมกับความเป็น Xiaomi และนอกจากนี้ยังได้เลนส์ Leica ในราคาประหยัดที่พูดเลยว่าไม่ควรพลาดสำหรับคนที่ต้องการมือถืองบไม่แพง
สเปค Xiaomi 13T Pro / 13T
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราการรีเฟรช 144Hz
- ชิปประมวลผล: MediaTek Dimensity 8300 Ultra
- หน่วยความจำ: RAM 12GB, ROM 256/512GB
- ระบบปฏิบัติการ: Xiaomi Hyper OS พื้นฐาน Android 14
- กล้องหลัง: กล้อง 3 ตัว ครอบคลุมระยะ 15-100 มม., กล้องหลัก 50MP f/1.7 พร้อมเลนส์ Summilux และเซ็นเซอร์ Sony IMX906, กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP 15 มม.
- กล้องหน้า: ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- แบตเตอรี่: ความจุ 5,000 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟสูงสุด 67W
5. Samsung Galaxy S23 FE (128GB) ราคา 19,990 บาท
รุ่นใหม่ของ Samsung ในงบไม่เกิน 20,000 บาท คงหนีไม่พ้น Galaxy S23 FE ตัวนี้เรียกว่าตัวตึงเพราะได้ขุมพลัง Exynos 2200 แม้ว่าจะเจอเรื่องร้อนแต่มีระบบระบายความร้อนที่ดีหน้าจอกำลังดีบอดี้โลหะ งานประกอบเนียบ ถ้าใครอยากได้เครื่องเล็กแต่ทรงพลัง ตัวนี้ยังน่าคบอยู่
สเปค Samsung Galaxy S23 FE
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราการรีเฟรช 120Hz
- ชิปประมวลผล: Exynos 2200
- หน่วยความจำ: RAM 8GB, ROM 128GB
- ระบบปฏิบัติการ: Android 14 + One UI 6.1
- กล้องหลัง:
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 OIS
- กล้องมุมกว้างพิเศษความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า: ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- แบตเตอรี่: ความจุ 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W รับระบบ Wireless Charging
6. iPhone 11 ราคาเริ่มต้น 16,900 บาท
สำหรับคนที่อยากได้ iPhone เริ่มต้นและยังอัปเดตได้ นี่เป็นทางเลือกที่คุณหาได้ในราคาไม่แพงนัก นอกจาก iPhone SE 5G ใหม่ ซึ่งรุ่นนี้ได้เทคโนโลยีที่ใหม่กว่าแน่นอน หาดีๆ ได้มือ 1 ราคา 16,xxx บาทนะครับ
สเปค iPhone 11
- หน้าจอ: Liquid Retina HD Display ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 828 x 1792 พิกเซล
- ชิปประมวลผล: A13 Bionic
- หน่วยความจำ: RAM 4GB, ROM 64/128/256GB
- ระบบปฏิบัติการ: iOS 15
- กล้องหลัง:
- กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- กล้องมุมกว้างพิเศษความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้า: ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- แบตเตอรี่: ความจุ 3,110 mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W
7. vivo V50 5G ราคา 17,999 บาท
หากเป็นค่าย vivo ก็จะหนีไม่พ้นกับ V50 5G ในความจำ 512GB ที่เรียกว่าได้สเปกที่โดดเด่นและยังมาพร้อมกับกล้องคุณภาพสูงอยู่ ซึ่งเป็นรองจาก V40 Pro เล็กน้อยแต่ราคาถูกกว่า ทำให้เป็นอีกทางเลือกที่ดี
สเปค vivo V40 ถฌ
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราการรีเฟรช 120Hz
- ชิปประมวลผล: Snapdragon 7 Gen 3
- หน่วยความจำ: RAM 12GB, ROM 512GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 15 + FunTouch OS 15
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลักความละเอียด50 ล้านพิกเซล F/1.75 + OIS
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (Ultra Wide)
- LED Flash + Aura Lighting
- เคลือบด้วย ZEISS
- กล้องหน้า:32 ล้านพิกเซล (f2.45)
- แบตเตอรี: 6,000 mAh + Fast Charge 90W
8. Nubia Flip 5G
สำหรับคนที่อยากได้ความต่างด้านรูปทรงในงบไม่เกิน 2 หมื่นบาท Nubia กด็ได้นำเสนอมือถือพับได้ที่เผยโฉมกันไปแล้ว จุดเด่นคือขุมพลัง Snapdragon 7 Gen 1 ที่แรงอยู่กล้องที่คมชัดกับความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เก๋เพราะดีไซน์ตัวกลฃ้องที่โดดเด่นผมว่ารุ่นนี้เป็นอีกทางเลือกที่ยังน่าใช้อยู่ครับ
สเปก Nubia Flip 5G
- หน้าจอด้านในขนาด 6.9 นิ้ว AMOLED ″ 2790 x 1188 พิกเซล Refresh Rate 120Hz
- หน้าจอด้านนอก 1.43 นิ้ว OLED ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล
- ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 7 Gen 1 | GPU Adreno 644
- RAM 8GB / 256GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 13 + MyOS
- กล้องหลังมีทั้งหมด 2 ตัวคือ
- กล้องหลัก 50 MP PDAF
- กล้องตัวที่ 2 Depth Sensor 2 MP
- LED Flash
- วิดีโอ 4K@30fps, 1080p
- กล้องหน้า 16 MP
- แบตเตอรี่ 4300 mAh ชาร์จไฟ 33W
9. HONOR 200 Pro 5G ราคา 19,990 บาท
เรียกว่ามาที่หลังปังกว่าตั้งแต่ขุมพลังที่เรียกว่าแรงจัดจ้านกับ Snapdragon 8s Gen 3 และมาพร้อมกับกล้องที่เจ๋งถ่ายจบทุกงาน น้ำหนักเครื่องเบาและชาร์จไฟเร็ว ดีไซน์สวยจบในตัวเดียวในราคา 19,990 บาท
สเปก HONOR 200 Pro 5G
- หน้าจอ ขนาด 6.7 นิ้ว OLED 1 พันล้านสี ความละเอียด 1200x2664 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz ความสว่าง 4000 nits
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8s Gen 3
- RAM 12GB
- ความจำภายใน 512GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 + Magic OS 8.0
- กล้องดิจิทัลด้านหน้า
- ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล
- กล้องวัดความลึก 2 ล้านพิกเซล
- วิดีโอ : 4K@30fps, 1080p@30fps
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 2 ตัว
- กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/1.9 PDAF ใช้เซนเซอร์แบบ H9000
- กล้อง Telephoto 50 MP + PDAF, OIS รองรับการซูม 2.5x
- กล้องมุมกว้าง 12 MP + AF
- วิดีโอถ่ายได้ที่ 4K@30fps, 1080p@30/60fps
- LED Flash
- แบตเตอรี่ 5000 mAh ระบบชาร์จไฟแบบสาย 100W และแบบไร้สาย 66W
10. POCO F6 Pro (RAM 16GB / 1TB) ราคา 19,990 บาท
อีกมือถือที่เน้นเล่นเกมใหม่และสเปกโดดเด่นในเรื่องการเชื่อมต่อที่เรียกว่าโดดเด่นเกินราคาเพราะได้ทั้ง Wi-Fi 7 หน้าจอลื่นจัดๆ ในราคาไม่ถึง 2 หมื่น กลายเป็นอีกรุ่นที่คุ้มค่าไปเลยครับ
สเปก POCO F6 Pro
- หน้าจอ : จอโค้งขนาด 6.67 นิ้ว LTPO AMOLED ความละเอียด 1440x3200 พิกเซล Refresh Rate 120Hz ความสว่าง 1,200 - 4,000 nits +, HDR 10+ กระจก Corning Gorilla Glass Victus
- ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- RAM 16GB
- ความจำภาย 1TB
- กล้องหน้า : ความละเอียด 16 MP + 1080p@30/60fps
- กล้องหลัง
-
ตัวหลัก : 50 MP F/1.6 พร้อมกับระบบ PDAF + OIS
-
กล้องมุมกว้าง 8 MP
-
กล้อง Macro 2 MP
-
LED Flash
-
ถ่ายวิดีโอ 8K 24 FPS 4K@24/30/60/120fps, 1080p@30/60/120/240/fps, gyro-EIS
-
- การเชื่อมต่อ : 4G, 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3, GPS
- ระบบเสียง ไมโครโฟนด้านล่างคู่ + ลำโพงคู่แบบ Stereo
- แบตเตอรี่ 5000 mAh ระบบชาร์จไฟ 120W แบบสาย
11. Infinix ZERO Flip
รุ่นแรกกับ Infinix Flip 5G ใหม่ที่เปิดตัวในราคา 19,990 บาท จุดเด่นของรุ่นนี้หน้าจอใหญ่มากโดยด้านหน้าจอที่ใหญ่ระบบชาร์จไฟ 70W และยังมีแบตเตอรี่ 4720 mAh ถือว่าแรงอยู่ และหน้าจอมาแบบเต็มทั้ง 3.64 นิ้ว และ ด้านในขนาด 6.7 นิ้ว ได้ RAM 16GB / 512GB แถมอัปเกรดได้ถึง Android 16
สเปก Infinix ZERO Flip
- หน้าจอด้านในขนาด 6.9 นิ้ว AMOLED ″ 2790 x 1188 พิกเซล Refresh Rate 120Hz
- หน้าจอด้านนอก 3.64 นิ้ว OLED ความละเอียด 1056 x 1066 พิกเซล
- ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 8020 | GPU Mali-G77 MC9
- ความจำ RAM 8GB (VRAM 8GB) | 512GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 + XOS
- กล้องหลังมีทั้งหมด 2 ตัวคือ
- กล้องหลัก 50 MP PDAF
- กล้องตัวที่ 50 MP Ultra Wide
- LED Flash
- วิดีโอ 4K@30fps, 1080p
- กล้องหน้า 50 MP
- แบตเตอรี่ 4720 mAh ชาร์จไฟ 70W
สำหรับครั้งหน้าจะเป็นมือถือกลุ่มไหนอย่าลืมกลับมาติดตามกันอีกในโอกาสถัดไปครับ
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ