รวมมือถือราคาไม่เกิน 20,000 บาท ปี 2025 รุ่นไหนน่าซื้อเก่งทุกด้าน
Thailand Web Stat

รวมมือถือราคาไม่เกิน 20,000 บาท ปี 2025 รุ่นไหนน่าซื้อเก่งทุกด้าน

รวมมือถือราคาไม่เกิน 20,000 บาท ปี 2025 รุ่นไหนน่าซื้อเก่งทุกด้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับใครที่กำลังมองหา มือถือราคาไม่เกิน 20,000 บาท บอกเลยว่ามีตัวเลือกน่าสนใจมากมาย แต่ละรุ่นมาพร้อมจุดเด่นที่แตกต่างกันไป

กลับมาพบกับรวมมือถือจากทีม Sanook Hitech อีกครั้ง รอบนี้ใครมองหามือถืองบไม่เกิน 20,000 บาทในปี 2025 ที่น่าสนใจในปีนี้จะมีรุ่นไหนติดโผบ้างเรามาดูกันครับ

แนะนำมือถืองบไม่เกิน 20,000 บาท ประจำปี 2025

1. Nothing Phone (3a) Pro

มือถือใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวและกำลังจะวางจำหน่ายอีกไม่นานหลังจากนี้ พร้อมกับความจำ RAM 12GB / 256GB แตกต่างในเรื่องการออกแบบที่ฉีกทุกอย่าง แถมเป็นมือถือรุ่นแรกที่ซูมไกลได้จริงของ Nothing เพราะใส่ Periscope Lens ในราคา 17,499 บาท แต่ว่าขาย 1 เมษายน นี้

สเปกของ Nothing Phone (3a) Pro

  • หน้าจอ 6.77 นิ้ว ใช้หน้าจอ AMOLED สีสัน ความละเอียดหน้าจอ FHD+, Refresh Rate 120Hz ความสว่าง 1200 nits
  • ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3
  • ความจำ RAM 8GB -  128GB / RAM 12GB - 256GB
  • การเชื่อมต่อ : 5G, Wi-Fi 6e, Bluetooth 5.3, GPS
  • กล้องหลัง 50 (หลัก) + 50 (Periscope Telephoto) + 8 (Ultra Wide) ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
  • แบตเตอรี่ 5000 mAh ระบบชาร์จไฟ 50W
  • ระบบปฏิบัติการ Nothing OS 3.1 + Android 15

2. OPPO Reno 13 5G ราคาเริ่มต้น 17,990 บาท

เปิดตัวใหม่ล่าสุดแม้อาจจะเป็นมือถือที่มีรอยบาปเพราะ Apps ที่ติดมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่น้องก็เาอออกไปแล้วรอบนี้เลบยจะมาพูดถึงให้กำลังใจสักหน่อยกับ OPPO Reno 13 จุดเด่นของเขาคือดีไซน์ยกมากจากรุ่นพี่อย่าง Find X8 Series เบาสบาย กล้องดี กันน้ำและยังได้ขุมพลังที่เรียกว่าแรงจาก MediaTek แม้จะไม่ได้เป็นรุ่นท็อปแต่เล่นเกมได้แน่นอน ถ้าคุณไม่ได้สนใจ Telephone เหมือนกับรุ่น Pro ผมว่าแค่นี้พอแล้วสำหรับใครหลายคน ราคาอาจจะต้องยอมรับเมื่อเทียบกับกลุ่มนี้ สูงแต่ก็แลกกับคุณภาพโดยรวมที่ทีมให้ว่ามันคือตัวตึกมือถืองบไม่เกิน 20,000 ในปี 2025 

สเปก OPPO Reno 12 5G

  • หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด 1256 x 2760 พิกเซล อัตราการรีเฟรช 120Hz
  • ชิปประมวลผล: Dimensity 8350
  • หน่วยความจำ: RAM 12GB, ROM 256GB / 512GB
  • ระบบปฏิบัติการ: ColorOS 15 based on Android 15
  • กล้องหลัง:
    • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.8 พร้อมกับระบบ Auto Focus และ OIS 
    • กล้องมุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
    • กล้อง Depth Sensor
    • รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K@30fps, 1080p@30/60/120/480fps, 720p@960fp
    • LED Flash
  • กล้องหน้า: ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล
  • แบตเตอรี่: 5600 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 80W

3. realme GT 6T 5G ราคา 18,999 บาท

อีกรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ล่าสุดพร้อมกับหน้าจอสว่างสุดที่ 6,000 nits และยังมาพร้อมกับขุมพลังใหม่ล่าสุด Snapdragon 7+ Gen 3 ใหม่เช่นเดียวกับ ดีไซน์เหมือนตัวท็อปของตระกูลนี้แต่ราคาเขาถูกกว่า ก็น่าสนใจสำหรับสายชอบความแรง

สเปก realme GT 6T

  • หน้าจอ ขนาด 6.78 นิ้ว AMOLED ความละเอียด 1264 x 2780 ความสว่าง 1000 - 6000 nits Refresh 120 Hz
  • ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm  Snapdragon 7+ Gen 3
  • หน่วยความจำ RAM 12GB / ความจำ 256GB
  • ระบบปฏิบัติการ Android 14 + realme UI 5.0
  • กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 2 ตัว
    • กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/1.8 PDAF 
    • กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล
    • วิดีโอถ่ายได้ที่ 4K@30/60fps, 1080p@30/60/120fps
    • LED Flash 
  • กล้องหน้า 32 MP
  • แบตเตอรี่ความจุ 5500mAh 
  • รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 120W Super VOOC

4. Xiaomi 14T (15,990 - 17,990 บาท)

อีกมือถือรุ่นใหม่ที่ชวนลองเพราะรอบนี้แค่ตัวเล็กยังได้กล้องสเปกเหมือนกับรุ่นใหญ่เว้นแต่เซ็นเซอร์คนละตัว แต่ที่เหลือก็ออกแบบได้ดูแกรนด์สมกับความเป็น Xiaomi และนอกจากนี้ยังได้เลนส์ Leica ในราคาประหยัดที่พูดเลยว่าไม่ควรพลาดสำหรับคนที่ต้องการมือถืองบไม่แพง

สเปค Xiaomi 13T Pro / 13T 

  • หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราการรีเฟรช 144Hz
  • ชิปประมวลผล: MediaTek Dimensity 8300 Ultra
  • หน่วยความจำ: RAM 12GB, ROM 256/512GB
  • ระบบปฏิบัติการ: Xiaomi Hyper OS พื้นฐาน Android 14
  • กล้องหลัง: กล้อง 3 ตัว ครอบคลุมระยะ 15-100 มม., กล้องหลัก 50MP f/1.7 พร้อมเลนส์ Summilux และเซ็นเซอร์ Sony IMX906, กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP 15 มม.
  • กล้องหน้า: ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • แบตเตอรี่: ความจุ 5,000 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟสูงสุด 67W

 

5. Samsung Galaxy S23 FE (128GB) ราคา 19,990 บาท

รุ่นใหม่ของ Samsung ในงบไม่เกิน 20,000 บาท คงหนีไม่พ้น Galaxy S23 FE ตัวนี้เรียกว่าตัวตึงเพราะได้ขุมพลัง Exynos 2200 แม้ว่าจะเจอเรื่องร้อนแต่มีระบบระบายความร้อนที่ดีหน้าจอกำลังดีบอดี้โลหะ งานประกอบเนียบ ถ้าใครอยากได้เครื่องเล็กแต่ทรงพลัง ตัวนี้ยังน่าคบอยู่

สเปค Samsung Galaxy S23 FE 

  • หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราการรีเฟรช 120Hz
  • ชิปประมวลผล: Exynos 2200
  • หน่วยความจำ: RAM 8GB, ROM 128GB
  • ระบบปฏิบัติการ: Android 14 + One UI 6.1
  • กล้องหลัง:
    • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 OIS
    • กล้องมุมกว้างพิเศษความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 
  • กล้องหน้า: ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • แบตเตอรี่: ความจุ 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W รับระบบ Wireless Charging

6. iPhone 11 ราคาเริ่มต้น 16,900 บาท

สำหรับคนที่อยากได้ iPhone เริ่มต้นและยังอัปเดตได้ นี่เป็นทางเลือกที่คุณหาได้ในราคาไม่แพงนัก นอกจาก iPhone SE 5G ใหม่ ซึ่งรุ่นนี้ได้เทคโนโลยีที่ใหม่กว่าแน่นอน หาดีๆ ได้มือ 1 ราคา 16,xxx บาทนะครับ

สเปค iPhone 11 

  • หน้าจอ: Liquid Retina HD Display ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 828 x 1792 พิกเซล
  • ชิปประมวลผล: A13 Bionic
  • หน่วยความจำ: RAM 4GB, ROM 64/128/256GB
  • ระบบปฏิบัติการ: iOS 15
  • กล้องหลัง:
    • กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
    • กล้องมุมกว้างพิเศษความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้า: ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • แบตเตอรี่: ความจุ 3,110 mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W

7. vivo V50 5G ราคา 17,999 บาท 

หากเป็นค่าย vivo ก็จะหนีไม่พ้นกับ V50 5G ในความจำ 512GB ที่เรียกว่าได้สเปกที่โดดเด่นและยังมาพร้อมกับกล้องคุณภาพสูงอยู่ ซึ่งเป็นรองจาก V40 Pro เล็กน้อยแต่ราคาถูกกว่า ทำให้เป็นอีกทางเลือกที่ดี

สเปค vivo V40 ถฌ

  • หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราการรีเฟรช 120Hz
  • ชิปประมวลผล: Snapdragon 7 Gen 3
  • หน่วยความจำ: RAM 12GB, ROM 512GB
  • ระบบปฏิบัติการ Android 15 + FunTouch OS 15
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    • กล้องหลักความละเอียด50 ล้านพิกเซล F/1.75 + OIS 
    • กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (Ultra Wide)
    • LED Flash + Aura Lighting
    • เคลือบด้วย ZEISS 
  • กล้องหน้า:32 ล้านพิกเซล (f2.45)
  • แบตเตอรี: 6,000 mAh + Fast Charge 90W  

 

8. Nubia Flip 5G

สำหรับคนที่อยากได้ความต่างด้านรูปทรงในงบไม่เกิน 2 หมื่นบาท Nubia กด็ได้นำเสนอมือถือพับได้ที่เผยโฉมกันไปแล้ว จุดเด่นคือขุมพลัง Snapdragon 7 Gen 1 ที่แรงอยู่กล้องที่คมชัดกับความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เก๋เพราะดีไซน์ตัวกลฃ้องที่โดดเด่นผมว่ารุ่นนี้เป็นอีกทางเลือกที่ยังน่าใช้อยู่ครับ

สเปก Nubia Flip 5G 

  • หน้าจอด้านในขนาด 6.9 นิ้ว AMOLED ″ 2790 x 1188 พิกเซล  Refresh Rate 120Hz 
  • หน้าจอด้านนอก 1.43 นิ้ว OLED ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล
  • ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 7 Gen 1 | GPU Adreno 644
  • RAM 8GB / 256GB
  • ระบบปฏิบัติการ Android 13 + MyOS
  • กล้องหลังมีทั้งหมด 2 ตัวคือ
    • กล้องหลัก 50 MP PDAF
    • กล้องตัวที่ 2 Depth Sensor 2 MP
    • LED Flash
    • วิดีโอ 4K@30fps, 1080p
  • กล้องหน้า 16 MP
  • แบตเตอรี่ 4300 mAh ชาร์จไฟ 33W

9. HONOR 200 Pro 5G ราคา 19,990 บาท

เรียกว่ามาที่หลังปังกว่าตั้งแต่ขุมพลังที่เรียกว่าแรงจัดจ้านกับ Snapdragon 8s Gen 3 และมาพร้อมกับกล้องที่เจ๋งถ่ายจบทุกงาน น้ำหนักเครื่องเบาและชาร์จไฟเร็ว ดีไซน์สวยจบในตัวเดียวในราคา 19,990 บาท

สเปก HONOR 200 Pro 5G

  • หน้าจอ ขนาด 6.7 นิ้ว OLED 1 พันล้านสี ความละเอียด 1200x2664 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz ความสว่าง 4000 nits
  • ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8s Gen 3 
  • RAM 12GB 
  • ความจำภายใน 512GB
  • ระบบปฏิบัติการ Android 14 + Magic OS 8.0
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้า 
    • ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล 
    • กล้องวัดความลึก 2 ล้านพิกเซล
    • วิดีโอ : 4K@30fps, 1080p@30fps
  • กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 2 ตัว
    • กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/1.9 PDAF ใช้เซนเซอร์แบบ H9000  
    • กล้อง Telephoto 50 MP + PDAF, OIS รองรับการซูม 2.5x 
    • กล้องมุมกว้าง 12 MP + AF
    • วิดีโอถ่ายได้ที่ 4K@30fps, 1080p@30/60fps
    • LED Flash 
  • แบตเตอรี่ 5000 mAh ระบบชาร์จไฟแบบสาย 100W และแบบไร้สาย 66W

10. POCO F6 Pro (RAM 16GB / 1TB) ราคา 19,990 บาท

อีกมือถือที่เน้นเล่นเกมใหม่และสเปกโดดเด่นในเรื่องการเชื่อมต่อที่เรียกว่าโดดเด่นเกินราคาเพราะได้ทั้ง Wi-Fi 7 หน้าจอลื่นจัดๆ ในราคาไม่ถึง 2 หมื่น กลายเป็นอีกรุ่นที่คุ้มค่าไปเลยครับ

สเปก POCO F6 Pro

  • หน้าจอ : จอโค้งขนาด 6.67 นิ้ว LTPO AMOLED  ความละเอียด 1440x3200 พิกเซล Refresh Rate 120Hz ความสว่าง 1,200 - 4,000 nits +, HDR 10+ กระจก Corning Gorilla Glass Victus
  • ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
  • RAM 16GB 
  • ความจำภาย 1TB 
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 16 MP + 1080p@30/60fps
  • กล้องหลัง 
    • ตัวหลัก : 50 MP F/1.6 พร้อมกับระบบ PDAF + OIS

    • กล้องมุมกว้าง 8 MP

    • กล้อง Macro 2 MP

    • LED Flash

    • ถ่ายวิดีโอ 8K 24 FPS 4K@24/30/60/120fps, 1080p@30/60/120/240/fps, gyro-EIS

  • การเชื่อมต่อ : 4G, 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3, GPS
  • ระบบเสียง ไมโครโฟนด้านล่างคู่ + ลำโพงคู่แบบ Stereo
  • แบตเตอรี่ 5000 mAh ระบบชาร์จไฟ 120W แบบสาย

 

11. Infinix ZERO Flip

รุ่นแรกกับ Infinix Flip 5G ใหม่ที่เปิดตัวในราคา 19,990 บาท จุดเด่นของรุ่นนี้หน้าจอใหญ่มากโดยด้านหน้าจอที่ใหญ่ระบบชาร์จไฟ 70W และยังมีแบตเตอรี่ 4720 mAh ถือว่าแรงอยู่ และหน้าจอมาแบบเต็มทั้ง 3.64 นิ้ว และ ด้านในขนาด 6.7 นิ้ว ได้ RAM 16GB / 512GB แถมอัปเกรดได้ถึง Android 16

สเปก Infinix ZERO Flip 

  • หน้าจอด้านในขนาด 6.9 นิ้ว AMOLED ″ 2790 x 1188 พิกเซล  Refresh Rate 120Hz 
  • หน้าจอด้านนอก 3.64 นิ้ว OLED ความละเอียด 1056 x 1066 พิกเซล
  • ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 8020 | GPU Mali-G77 MC9
  • ความจำ RAM 8GB (VRAM 8GB) | 512GB
  • ระบบปฏิบัติการ Android 14 + XOS
  • กล้องหลังมีทั้งหมด 2 ตัวคือ
    • กล้องหลัก 50 MP PDAF
    • กล้องตัวที่ 50 MP Ultra Wide
    • LED Flash
    • วิดีโอ 4K@30fps, 1080p
  • กล้องหน้า 50 MP
  • แบตเตอรี่ 4720 mAh ชาร์จไฟ 70W

สำหรับครั้งหน้าจะเป็นมือถือกลุ่มไหนอย่าลืมกลับมาติดตามกันอีกในโอกาสถัดไปครับ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ รวมมือถือราคาไม่เกิน 20,000 บาท ปี 2025 รุ่นไหนน่าซื้อเก่งทุกด้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้