รวมวิธีกู้ชีพมือถือหลังตกน้ำในยุคปี 2023 ที่ควรทำ ก่อนมือถือพังจริง
เรื่องหนึ่งที่คนกังวลที่สุดเวลาใช้มือถือเวลาไปเที่ยวคือ ถ้าเกิดอยู่ดีๆ มือถือสุดรัก โดนน้ำไม่จะเป็นเพราะ ตกน้ำ, น้ำสาดหรือ ทำน้ำหก เราจะมีวิธี กู้ชีพ มือถือเล่านี้อย่างไร Sanook Hitech มีคำตอบครับ
ก่อนอื่นต้องมาแยกก่อนว่าถ้าเป็นน้ำจืดและน้ำเค็มต้องทำอย่างไรกันก่อน
กรณีน้ำจืด หรือ น้ำทั่วไป
- รีบนำโทรศัพท์ออกจากน้ำทันที ห้ามเปิดหรือปิดเครื่องเด็ดขาด
- ใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้งภายนอกเครื่อง
- ถอดแบตเตอรี่และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ (หากถอดได้)
- นำโทรศัพท์เข้าตัวดูดความชื้นหากไม่มีสามารถใช้ข้าวสาร โดยการนำมือถือแช่ในถังข้าวสารเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
- หลังจากแช่ในตัวดูดความชื้น หรือ แช่ข้าวสารแล้ว ให้นำโทรศัพท์ออกมาเช็ดให้แห้งอีกครั้ง
หลังจากนั้นเมื่อหากตัวเครื่องยังปรากฏว่ามีคราบน้ำ ให้นำมือถือไปวางในที่ได้รับความร้อนเล็กน้อยเพื่อให้ละอองน้ำหายไป แต่ถ้าแนะนำให้ดีหลังจากยกออกมาแล้ว ควรจะนำมือถือไปซ่อมที่ร้าน หรือ ศูนย์บริการทันที และอย่าเพิ่งเสียบชาร์จไฟเด็ดขาด
กรณีที่เป็นน้ำทะเล หรือ น้ำเค็ม
สำหรับในกรณีของน้ำทะเล หรือน้ำเค็มนั้น มันจะมีความซับซ้อนต่างกัน เพราะถ้าไม่รีบทำอะไร น้ำทะเล หรือ น้ำเค็มเหล่านี้อาจจะกัดกร่อนแผนวงจรได้ วิธีการจัดการมีดังนี้
- กรณีที่เป็นมือถือกันน้ำ ควรจะล้างในน้ำจืดแบบเบาๆ เพราะซีลของเครื่องอาจจะไม่ถูกับความเค็มได้
- กรณีที่ไม่ใช่มือถือกันน้ำควรจะซับน้ำออกทั้งหมดโดยจะใช้ไม้แคะหูที่มีขนาดเล็กค่อยๆ แหย่ลงไป หรือ ใช้ไดรเป่าผม ปรับอุณหภูมิให้เย็นเพื่อไล่น้ำ
- ถอดช่องใส่ซิมการ์ดออก
- ทิ้งไว้ 1 – 2 ชั่วโมง ห้ามชาร์จไฟ หากเป็นไปได้ใช้ตัวดูดความชื้น หรือแช่ถังข้าวสารเพื่อไล่ความชื้นออก
- ให้แน่ใจว่าแห้ง ควรจะนำมือถือเครื่องนั้นเข้าร้านหรือศูนย์บริการ เพื่อตรวจสอบว่า เครื่องยังคงทำงานได้อยู่หรือไม่ อย่าเพิ่งทำอะไรเองเพราะอาจจะทำให้คุณต้องเปลี่ยนมือถือใหม่ก็ได้
เพียงเท่านี้คุณก็สามารถกู้ชีพมือถือจากการตกน้ำได้แล้ว แต่ถ้าเกิดความผิดปกติอะไร และถ้าเครื่องเปิดติดแล้ว ควรสำรองข้อมูลทันที ก่อนที่จะไม่มีโอกาสนั้นอีกครับ
ซื้อขายสมาร์ทโฟนมือสอง ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ คลิก ENNXO