รีวิว "HUAWEI FreeClip" หูฟังทรงใส่ง่ายไม่ปวดหู เสียงดี วิ่งปลอดภัย
ก่อนหน้านี้ HUAWEI ได้เปิดตัว Gadget ใหม่ทั้งหมด 2 รุ่นในต่างประเทศ นั่นคือ Huawei MatePad Pro 13.2 นิ้ว แต่รอบนี้เราจะมาพูดถึงหูฟังที่เปิดตัวในเวลาเดียวกัน นั่นคือ HUAWEI FreeClip หูฟังที่เน้นความอิสระในการใส่ โดยมีการออกแบบเป็นแบบ C-Bright Design พลดเสียงรบกวนระหว่างฟังเพลง และการโทร รวมถึงใช้งานได้นานสุด 36 ชั่วโมง
มันดีจริงไหม เรามาดูกับรีวิวจากการทดลองจริงจาก Sanook Hitech กันครับ
รายละเอียดสเปกของ HUAWEI FreeClip
- ขนาดหูฟัง: 26.70 มม. (สูง) × 22 มม. (กว้าง) × 25.3 มม. (ลึก)
- ขนาดกล่องชาร์จ: 59.7 มม. (สูง) × 51.95 มม. (กว้าง) × 27.35 มม. (ลึก)
- ตัวหูฟังหนักข้างละ 5.6 กรัม
- กล่องชาร์จ: 45.5 กรัม
- ขนาดของ Driver : 10.8 มิลลิเมตร
- เซนเซอร์: VPU sensor/IMU sensor/Hall sensor/CAP sensor
- ฟีเจอร์พิเศษ
- ใส่สลับข้างซ้ายขวาได้
- ระบบบไมโครโฟนอัจฉริยะพร้อมกับ ระบบ DNN Algorithm
- Auto Stop เมื่อถอดหูฟังออก
- ความจุของแบตเตอรี่ หูฟัง: 55 mAh
- กล่องชาร์จ: 520 mAh
- การชาร์จแบบมีสาย: USB-C, ไร้สาย: สูงสุด 2 วัตต์
- กันฝุ่นและน้ำระดับ IP54 ที่หูฟัง
- สีสัน : ม่วง, ดำ
แกะกล่อง HUAWEI FreeClip ประกอบด้วย
- กล่องเคส HUAWEI FreeClip
- สายชาร์จไฟ USB-C To USB-C
- คู่มือ / ใบรับประกัน
รูปลักษณ์หน้าตาของหูฟัง HUAWEI FreeClip
ดีไซน์จะบอกว่าค้าเคยก็ว่าได้เพราะกล่องหูฟังเดี๋ยวนี้ก็จะเป็นทรงที่อสมมาตรกันหมด โดนรอบนี้ถ้าดูดีๆ ดีไชน์เกือบเป็นทรงสามเหลี่ยม ด้านหน้ามีโลโก้ HUAWEI พร้อมกับไฟสถานะชาร์จไฟ และ Pairing
ด้านล่างจะมีช่องเสียบ USB-C สำหรับชาร์จไฟ ข้างขวา จะมีปุ่ม Pairing การทำงานคือ เปิดฝาแล้วกดค้างไว้ จากนั้นขึ้นไฟสีขาว ด้านล่างมีแค่บานพับ การเปิดถือว่ากว้างพอที่จะดึงหูฟังออกมาได้ง่าย และเป็นแท่นชาร์จไฟไร้สายด้วย
มาดูที่ตัวหูฟังบ้าง
หูฟังของ HUAWEI FreeClip จะมีการออกแบบ C-Bright Comfort Been รูปทรงเหมือนตัว C สำคัญ 3 ส่วนคือ ด้านหน้าสุดคือลำโพง, ก้านตรงกลางที่สามารถแตะสั่งงานได้ และด้านหลังเป็นที่อยู่ของแบตเตอรี่และ ไมโครโฟนคู่ทางด้านหลัง น้ำหนักหูฟังเบามาก เพียง 5.6 กรัมเท่านั้น
การสวมใส่เราต้องเอาด้านกลมเข้าไปที่หู และ ด้านเหลี่ยมไว้ด้านหลังหู ก้านตรงกลางถ้าอยู่กลางหูพอดี = หูฟังจะอยู่ตำแหน่งที่พอดีและเสียงจะชัดเจนที่สุด ถ้าเสียงไม่ชัดเจน หรือมีย่านไหนตกไป แสดงว่า ใส่ไม่ถูกครับ
และไม่ต้องกังวลว่าจะใส่สลับด้านกันเพราะ HUAWEI เขาคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว เพราะคุณสามารถสลับหูฟังทั้ง 2 ข้างใส่สลับได้ทั้งหมดเลยครับ
การสั่งงานของหูฟัง HUAWEI FreeClip
หูฟัง HUAWEI FreeClip มีก้านที่สามารถแตะสั่งงาน โดยจะต้องแตะทั้งหมด 2, 3 ครั้งเพื่อสั่งงานโดยสามารถทำงานได้ตั้งแต่
- แตะ 2 ครั้งสามารถหยุดเพลง, หรือเล่นเพลงได้, รับสาย, วางสาย
- แตะ 3 ครั้ง เปลี่ยน Track เพลง
ทั้งนี้คุณสามารถตั้งค่าให้ปุ่มต่างๆ สามารถเปลี่ยนไปตามที่เราต้องการ โดยใช้ Application HUAWEI AI Life โดยสามารถติดตั้งได้ทั้ง Android และ iOS
คุณภาพเสียงของ HUAWEI FreeClip
ต้องบอกก่อนว่าหูฟังรุ่นนี้จะมาพร้อมกับดีไซน์ลำโพงที่ไม่ได้เป็นแบบเสียบเข้าไปในหู (In-Ear) และไม่ได้วางหู (EarBuds) Huawei เรียกว่า เป็นแบบ Open Ear ให้ความสบายก็จริง เสียงถือว่าออกมาดีเลยกับ Driver ขนาด 10.8 มิลลิเมตร และยังปรับแต่งเสียงได้ทั้งหมด 4 รูปแบบ ให้เสียงที่กลางๆ ถ้าชอบเครื่องดนตรี และฟังเพลงกำลังดี ผมว่ามันกลมกล่อม แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบเบสหนักๆ อาจจะต้องบอกว่ายังไม่ใช่หูฟังที่เหมาะกับคุณ
แต่ว่าถ้าฟังในสถานที่ข้างนอก อาจจะต้องทำใจหน่อยเพราะเสียงรบกวนเข้ามา แต่ไม่ได้เยอะมากนัก เพราะเราแค่เปิดเสียงเร่งสู้ได้ และยังมีฟีเจอร์ เพิ่มเสียงการฟังให้ดังกว่าปกติได้เช่นเดียวกัน แต่โหมดนี้ไม่แนะนำให้เปิดค้างไว้นานๆ เพราะอาจจะทำให้สุขภาพหูเสียได้เพราะ เสียงมันดังกว่าปกติเยอะมาก
ทั้งนี้ต้องบอกก่อนหูฟังรุ่นนี้ถูกดออกแบบให้เสียงออกมามีการเก็บให้คุณเพลิดเพลินในการฟังเพลงเท่านั้น โดยรอบข้างจะไม่ได้ยินว่าคุณฟังเพลงอะไร หรือคุยกับคนเป็อย่างไนผ่านเทคโนโลยี Reverse Sound Waves System
คุณภาพไมโครโฟนของ HUAWEI FreeClip
HUAWEI ติดตั้งไมโครโฟนของ FreeClip ทั้งหมด 6 ตัวด้วยกัน ประกอบด้วย
- Windproof Mic ช่วยเก็บรายละเอียดของเสียบรอบข้าง และเสียงลม
- Talk Mic จับเสียพูดของ
- VPU Mic ช่วยประมวลผลเสียงทั้งหมด
ทั้งหมดทำงานผ่าน Deep Naural Network Algorithm ที่จัดการเสียงรบกวนอีกด้าน ผลคือเสียงดังก็เก็บรายละเอียดพูดของเราได้ดี และไม่จำเป็นต้องเพิ่มเสียงพูดระหว่างคุยเลย ถือว่าเป็นหูฟังอีกรุ่นที่สเปกจัดเต็มอยู่ครับ
การเชื่อมต่อของหูฟังรุ่นนี้
นอกจากหูฟังจะเชื่อมต่อได้มีประสิทธิภาพแล้ว HUAWEI FreeBuds สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกับ 2 อุปกรณ์ หรือ Dual-Device Connection ที่สามารถต่อระหว่าง Smart Watch, Smart Phone หรือ Tablet ได้ด้วยในเวลาเดียวกัน สามารถควบคุมผ่าน HUAWEI AI Life
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
HUAWEI FreeClip สามารถใช้งานได้นานสูดที่ 36 ชั่วโมงเมื่อรวมกับที่กล่อง และสามารถชาร์จไฟครั้งหนึ่งใช้งานได้ 8 ชั่วโมง ทั้งนี้ถ้าจำเป็นต้องการชาร์จไฟด่วน โดยการวางที่กล่องเพียง 10 นาที สามารถใช้งานได้ 3 ชั่วโมง
ส่วนระบบชาร์จจะรองรับที่ USB-C และระบบชาร์จไฟไร้สายในตัว
สรุปหลังจากที่ได้ทดลองใช้งาน HUAWEI FreeClip สักพักหนึ่ง
มาถึงบทสรุปกันแล้วครับ สำหรับ HUAWEI FreeClip หูฟังไร้สายทรงตัว C ที่มีประสิทธิภาพสูงในเรื่องการฟังเพลง แม้ว่าอาจจะไม่มีฟีเจอร์อย่าง ANC แต่มันคือหูฟังที่ตอบโจทย์ดีที่สุดสำหรับคนที่อยากได้ความสบายขั้นสุดของหูฟังตัวหนึ่งที่จะมีให้แล้ว
ราคาอย่างเป็นทางการของ HUAWEI FreeClip
สำหรับราคาของ HUAWEI FreeClip จะอยู่ที่ 6,490 บาท ถือว่าไม่ได้แพงเลยครับ ถ้าใครชอบหูฟังแบบ Open Ear เสียงที่อยู่กลางๆ เน้นเบสและไม่อยากได้แบบใส่ในหูรุ่นนี้ใช้เลย แถมยังมีแคมเปญต่างๆ เช่น
โปรโมชั่นเปิดตัว HUAWEI FreeClip
รับฟรี HUAWEI Band 8 มูลค่า 1,499 บาท กระเป๋าหูฟัง มูลค่า 599 บาท จำกัด 50 สิทธิ์แรกเฉพาะช่องทางออนไลน์ บริการดูแลหูฟัง HUAWEI Loss Care มูลค่า 499 บาท (1 ข้าง 1ปี ในราค่าส่วนลด 50%) เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 ทางหน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมทั้งช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ HUAWEI Store ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแพลตฟอร์ม Lazada และ Shopee
นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์หัวเว่ยยังเข้าร่วมโครงการ “Easy E-Receipt 2024” ช้อปสูงสุด 50,000 บาท รับคืนสูงสุด 17,500 บาท
สำหรับลูกค้าที่ซื้อ HUAWEI FreeClip ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ