eSIM คืออะไร? ทำไมถึงดีกว่าซิมการ์ดแบบเดิม พร้อมวิธีใช้งานง่ายๆ
เรื่องหนึ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นโดยเป็นกระแสของ iPhone นั่นคือการทำ eSIM หรือ ซิมฝั่งในเครื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีถ้าเราไม่จำเป็นต้องใช้ซิมจริงในการใส่เครื่องแค่สแกน QR Code ก็จบ แต่จริงๆ มันมีเรื่องที่ดีและไม่ดีในเวลาเดียวกับ Sanook Hitech จะมาตอบชัดๆ กับเรื่องนี้กันและสรุปว่า eSIM ดีกว่าซิมธรรมดา จริงไหม? หรือใช้แบบเดิมดีกว่า
eSIM คืออะไร ?
eSIM หรือ embedded SIM คือซิมการ์ดขนาดเล็กเพียง 5 ตารางมิลลิเมตร ซึ่งจะถูกฝังอยู่ภายในอุปกรณ์ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตในโรงงาน ทำให้ไม่สามารถถอดออกจากตัวอุปกรณ์ได้ แต่จะสามารถเชื่อมต่อข้อมูลใน eSIM โดยผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สาย เพื่อเปิดใช้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ตามปกติเช่นเดียวกับ Nano SIM หรือ SIM Card แบบอื่น
ข้อดีข้อ eSIM
- หมดข้อกังวลเรื่องซิมพังซิมหายเพราะฝั่งในเครื่อง
- สามารถเปลี่ยนผู้ให้บริการหรือเบอร์ได้โดยไม่ต้องถอดใส่ซิม
- ฝั่งได้มากกว่า 1 เบอร์ เพิ่มความสะดวกในกลุ่มคนที่อยากแบ่งซิมไว้ทำอะไร
- รองรับเทคโนโลยีในอนาคตแน่นอน
- สามารถเอาช่องซิมว่างใส่ซิมต่างประเทศ หรือ ซิมโรมิ่งได้
- รองรับกับอุปกรณ์ Internet Of Things ในบ้างคุณได้
ข้อสังเกตของ eSIM
- มือถือที่รองรับ eSIM จะต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ๆ ทำให้ต้องซื้อเครื่องใหม่
- ความยุ่งยากของการตั้งค่าในตอนแรก มีการซับซ้อนกว่า
- จำเป็นที่เราต้องเข้าไปที่ศูนย์บิรการเพื่อจัดการอะไรต่างๆ
- ไม่สามารถถอดได้หากมือถือมีปัญหา
- บางรูปแบบของโปรโมชั่นอาจจะไม่เหมาะกับ eSIM เช่นการใช้งานแบบผูก หลายเบอร์ หรือ หลายซิม
- หาซื้อยาก(ไม่สิ) หาซื้อไม่ได้เลยต้องมีซิมปกติ แล้วถึงจะทำได้
eSIM ใช้ได้กี่เบอร์
มือถือ 1 เครื่องสามารถรองรับ eSIM ได้ถึง 5-8 เลขหมาย แต่ผู้ใช้ต้องเลือกสลับใช้งานทีละเลขหมายตามความต้องการ
ขั้นตอนการใช้ eSIM
- ตรวจสอบว่าโทรศัพท์ของคุณรองรับ eSIM ได้ไหม
- ติดต่อผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อขอรับ eSIM
- ผู้ให้บริการจะส่ง QR Code หรือ ลิงก์มาให้คุณสแกน
- สแกน QR Code หรือคลิกลิงก์เพื่อดาวน์โหลด eSIM ลงในเครื่อง
- ทำตามคำแนะนำที่ขึ้นบนหน้าจอ แล้วเปิดใช้งาน eSIM ได้ทันที
อย่างไรก็ตา eSIM ก็จะเหมาะกับคนที่ต้องการเปลี่ยนมือถือใหม่และใช้ไปนานๆ เพราะความยุ่งยากต่อการเปลี่ยนอาจจะทำให้หลายคนหันไปใช้ซิมแบบปกติ ซึ่งอาจจะมีอายุการใช้งานหรือต้องเปลี่ยนเมื่อเทคโนโลยีเครือข่ายเปลี่ยนได้ ดังนั้นเราควรพิจารณาให้ดีว่า สุดท้ายแล้วซิมการ์ดเราควรจะทำแบบไหนจะเหมาะกับคุณมากกว่ากัน