จอลดแสงสะท้อนกับการติดฟิล์มลดแสง ต่างกันอย่างไร?
แสงสะท้อนจากหน้าจอจัดเป็นภัยร้ายเงียบต่อสายตา เพราะหากดวงตาของคุณทำการจดจ้องกับหน้าจอที่มีทั้งแสงสะท้อนและแสงสีฟ้าโดยไม่มีตัวกรองคัดแสงใด ๆ อาจส่งผลให้ดวงตาของคุณมีภาวะอาการตาล้า ตามัว ปวดตา รวมทั้งใช้ประสาทตาในการทำงานมากกว่าปกติ โดยเฉพาะการมองหน้าจอที่เห็นได้ชัดเจน
ในกรณีที่ความสว่างจากภายนอกรบกวนมากๆ เช่น อาคารที่มีไฟรอบด้านจะมีปัญหาเรื่องไฟสะท้อนบนจอทำให้มองภาพได้ยาก อย่างสถานการณ์ที่มักกวนใจเมื่อเราต้องการสแกน QR Code แต่ไม่สามารถสแกนติดด้วยหน้าจอที่มีพื้นผิวสะท้อนแสงมากเกินไป ทำให้คุณต้องเสียเวลาปรับย้ายตำแหน่งไปมาเพื่อลดแสงสะท้อนที่พุ่งเข้าหน้าจอ
จากปัญหาดังกล่าวหัวเว่ยได้พัฒนาเทคโนโลยีที่สร้างปรากฏการณ์ด้วยหน้าจอเทคโนโลยี PaperMatte Display ที่สามารถลดแสงสะท้อน ถนอมดวงตาของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าหน้าจอทั่วไปรวมถึงหน้าจอแล็ปท็อป วันนี้จะมาเผยเบื้องหลังการผลิตหน้าจอ กระบวนการ R&D ที่ทำให้เกิดเป็นหน้าจอ PaperMatte Display
เบื้องหลังการผลิต กว่าจะมาเป็น PaperMatte Display
หน้าจอ PaperMatte Display นั้นใช้เทคโนโลยี Nano-Level Anti-glare Etching Technology การกัดกระจกในระดับนาโนเพื่อป้องกันการสะท้อนของแสง ซึ่งจะทำให้ผิวกระจกมีโครงสร้างพื้นผิวที่ละเอียดสะท้อนการกระจายตัวให้นุ่มนวลขึ้นได้ ขจัดแสงรบกวนจากภายนอกได้ถึง 97% และใช้งานแท็บเล็ตได้อย่างสบายตาแม้ใช้ติดต่อกันหลายชั่วโมง กระบวนการกัดกระจกในระดับนาโนยังทำให้พื้นผิวหน้าจอเขียนง่าย ไม่ลื่น ซึ่งไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพการเขียนเท่านั้น แต่ยังให้ประสบการณ์การใช้งานที่คล้ายคลึงกับการเขียนบนกระดาษจริง
ด้วยความพิถีพิถันอย่างยิ่งในการออกแบบหน้าจอแท็บเล็ตโดยนวัตกรรม Nano-Level Anti-glare Etching Technology หัวเว่ยได้ใช้กระบวนการจับคู่ที่แม่นยำระดับพิกเซลบนแท็บเล็ต เพื่อจับคู่พื้นผิวระดับนาโนหลายร้อยล้านรายการพร้อมการกระจายพิกเซล นอกจากนี้มุมของแต่ละโครงสร้างยังได้รับการปรับอย่างพิถีพิถันเพื่อป้องกันไม่ให้แสงสะท้อนเข้าตา การออกแบบที่ซับซ้อนนี้ทำให้หน้าจอมีคุณสมบัติป้องกันแสงสะท้อน รับประกันว่าจะได้ภาพที่คมชัด สว่าง และสม่ำเสมอ
ต่างจากหน้าจอทั่วไปและการติดฟิล์มอย่างไร
PaperMatte Display ใช้เทคโนโลยีกัดกระจกในระดับนาโนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นผิวหลายร้อยล้านชั้นบนพื้นผิวของกระจกในการ ในขณะที่หน้าจอ Matte screen ทั่วไปใช้กระบวนการเป่าด้วยทราย และฟิล์มทั่วไปส่วนมากใช้กระบวนกาผลิตแบบสเปรย์พ่น กระบวนการผลิตส่งผลให้ความหนาแน่นของโครงสร้องพื้นผิวกระจกแตกต่างกัน โดยหน้าจอแบบ PaperMatte Display ผ่านกระบวนการโครงสร้างเล็ก ๆ กว่าหลายร้อยล้านชิ้นก่อตัวขึ้นบนพื้นผิวกระจก ซึ่งแปลงการสะท้อนแบบสเปกตรัมที่รุนแรงเป็นแสงสะท้อนแบบกระจายอย่างนุ่มนวล เพื่อลดการรบกวนของแสงจากภายนอกและแสงสะท้อน
ในขณะที่หรือฟิล์มด้านจะมีความหนาแน่นของพื้นผิวในการป้องกันแสงสะท้อนที่น้อยกว่า อีกทั้งค่าความขุ่นของฟิล์มที่มาเกินไปจะมีผลให้การแสดงภาพผิดเพี้ยนเกิดเป็นเม็ด ๆ ที่หน้าจอ และอายุการใช้งานที่ไม่ยาวนานคุณภาพฟิล์มเสื่อมสภาพได้ง่าย และเมื่อใช้งานกลางแจ้งหรือที่มีแสงจ้าจะไม่สามารถป้องกันการแสงสะท้อนบนจอรวมทั้งลดความคมชัดของสีทำให้ทัศนวิสัยในการมองลดลง ดังนั้นการติดฟิล์มด้านจึงมักเหมาะกับการใช้เพื่อป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือและคราบมันบนจอมากกว่า
นอกจากนี้ HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edtion รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับอัลกอริธึมสีเฉพาะของหัวเว่ยในโหมด E-Book ที่เปิดใช้งานสี การแสดงสีหลายพันสีด้วยความแม่นยำอย่างพิถีพิถัน พร้อมการจับคู่ตั้งแต่ช่วงสีที่แสดง (RGB) ไปจนถึงช่วงสีการวาดภาพ (CMYK) เพื่อสร้างมุมมองสีที่มีชีวิตชีวา รวมทั้งเทคโนโลยีที่จะช่วยลดอัตราการกะพริบของหน้าจอได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland Flicker-Free Certification
โดยคุณสามารถพบได้เทคโนโลยีนี้ได้ใน HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edtion ที่เปิดตัว ในราคา 14,990 บาท พร้อมรับฟรี ปากกา HUAWEI-M Pencil รุ่นที่ 2 มูลค่า 4,490 บาท เคสคีย์บอร์ด HUAWEI Smart Keyboard มูลค่า 4,990 บาท กล่องเก็บของแบบพับได้ มูลค่า 1,990 บาท และบริการตรวจวัดสายตาฟรีที่ THE NEXT มูลค่า 300 บาท นอกจากนี้สำหรับลูกค้า HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edtion สามารถสั่งซื้อกรอบแว่นตาพร้อมเลนส์สายตามัลติโค้ตในราคาเพียง 3,990 บาท และอัปเกรดเลนส์ป้องกันแสงสีฟ้าในราคาเดิม จำนวน 100 สิทธิ์ โปรโมชันตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2567 - 25 เมษายน 2567 เป็นเจ้าของได้ที่ HUAWEI Experience Store ตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Lazada และ Shopee