ลองใช้ "OPPO Reno 11F 5G" พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ AI Eraser ลบวัตถุส่วนเกินออกได้
OPPO Reno 11F 5G เป็นอีกรุ่นที่ตอนพรีวิวพูดเลยว่าน่าสนใจสุดในกลุ่ม OPPO Reno 11 Series กับราคาหมื่นต้นแต่ได้ของแทบจะเหมือนกับ Reno 11 รอบนี้เลยหยิบมาทดลองเล่นกันและมีอะไรเล่าสนุกๆ กับรุ่นนี้ (บอกก่อนภาพ Capture ผลการทดสอบอาจจะไม่เยอะเท่ารีวิวอื่นๆ ที่ผ่านมา) กับการลองฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดกับ AI Eraser จะเป็นอย่างไร Sanook Hitech พาคุณมาสัมผัสกันครับ
รายละเอียดสเปกของ OPPO Reno 11F 5G
สเปก |
OPPO Reno 11F 5G |
ขนาดเครื่อง |
161.1 x 74.7 x 7.5 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก |
177 กรัม |
มาตรฐานกันน้ำ |
IP65 |
ขนาดหน้าจอ |
จอโค้งขนาด 6.7 นิ้ว LTPO AMOLED ความละเอียด 2412x1080 พิกเซล Refresh Rate 120Hz HDR |
CPU |
MediaTek Dimensity 7050 Octa Core |
GPU |
Mali-G68 MC4 |
กล้องหน้า |
ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล วิดีโอ 1080p@30fps |
กล้องหลัง |
ตัวหลัก : 64 MP รูรับแสง F/1.7 พร้อมกับระบบ PDAF กล้องมุมกว้าง 8 MP มุมกว้าง 112 องศา กล้อง Macro 2 MP LED Flash ถ่ายวิดีโอ 4K@30fps, 1080p@30/60fps, gyro-EIS |
RAM |
8GB |
หน่วยความจำ |
256GB + MicroSD |
การเชื่อมต่อ |
4G/5G, Wi-Fi 6 Dual Band (2.4GHz, 5GHz), Bluetooth 5.2, GPS |
ระบบเสียง |
ไมโครโฟนด้านล่างคู่ + ลำโพงเฉพาะด้านล่าง |
พอร์ต |
USB-C |
ระบบปฏิบัติการ |
Android 14 + ColorOS 14.1 |
ระบบความปลอดภัย |
สแกนใบหน้า / ระบบสแกนนิ้วในหน้าจอ |
แบตเตอรี่ |
5000 mAh |
ระบบชาร์จไฟ |
ชาร์จไฟสาย 67W (SuperVOOC) |
สีสัน |
Palm Green, Ocean Blue, Coral Purple |
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ OPPO Reno 11F 5G
จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว AMOLED สีจอถือว่าสวยมาพร้อมกับความละเอียด FHD+ (2412x1080 พิกเซล) Refresh Rate 120Hz ถือว่าเด็ดอยู่และมาพร้อมกับความลื่นไหลและการแสดงผลที่ดีโดยเฉพาะจากที่ลองใช้เวลาเล่นเกมที่จะบอกในส่วนต่อไป ด้านบนมีกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล และ ปุ่มควบคุมที่อยู่ด้านล่าง
รอบตัวเครื่องเป็นสีเขียวแบบด้าน หรือ Matte Finish จับได้ง่าย ฝั่งซ้ายมีช่องใส่ซิมการ์ด และ MicroSD แต่ว่าต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะมันเป็นแบบ Hybrid อีกฝั่งเป็นปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงและปุ่ม Power
ด้านบนรุ่นนี้มีไมโครโฟนมาให้เท่านั้น ด้านล่างมีไมโครโฟนหลัก, USB-C และ ลำโพง ซึ่งปรับได้สูงสุด 300% แต่ไม่ได้เป็น Dual Speaker
ด้านหลังจะเหมือนด้านข้างแต่สำหรับสีเขียว ที่มีชื่อไทยว่า "เขียวเหนียวทรัพย์" ก็จะมีความดำและสะท้อนแสงได้ในตัวให้สีสันเขียวและดำสลับกัน มีกล้องมุมซ้ายและโลโก้ OPPO น้ำหนักตัวเครื่อง 199 กรัมจับแล้วไม่รู้สึกหนักเท่าไหร่
ประสิทธิภาพเป็นอย่างไร
แม้ว่าขุพลังอาจจะไม่ได้ใหม่มาก แต่ว่าการทำงานของเครื่องถือว่าลื่นโดยเฉพาะการเล่นเกมที่สามารถปรับประสิทธิภาพสูงได้บางเกม แต่บางเกมขอแนะนำว่าอย่าเพิ่ง เอาแค่กลางก็พอ ถ้าอยากได้ Refresh Rate สูงๆ นะครับ การเชื่อมต่อแม่นยำ เพราะรองรับ 5G, Wi-Fi6 และใช้นำทางได้ดี อ้อลืมบอก รุ่นนี้กันน้ำ IP65 เป็นรองแค่ Galaxy A35 เท่านั้น
ส่วนแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ทั้งวันถ้าไม่ได้ใช้โหดอะไรมากมาย จากการทดสอบโดยทีม Sanook Hitech รุ่นนี้สามารถใข้งานแบบ On Screen Time เฉลี่ย 5:46 ชั่วโมง แต่แบตเตอรี่แทบจะหมดตอนเวลา 4 - 5 ทุ่ม แต่ก็ชาร์จกลับมาไวกับกำลัง 67W แต่ต้องใช้ติดกล่องเท่านั้น
ฟีเจอร์โดดเด่นของ OPPO Reno 11F 5G
สำหรับ OPPO Reno 11 F จะมาพร้อมกับ Android 14 + ColorOS 14 มาตั้งแต่เปิดกล่องและได้รับการอัปเกรดหลายเรื่องแต่ภาพรวมคือใช้งานง่ายใช้คล่องมือและสามารถเปิด 2 หน้าจอได้ในบาง Application พร้อมกับระบบสแกนนิ้วมือในหน้าจอแล้วและมีสแกนใบหน้าเพื่อความปลอดภัยและใช้สำหรับพื้นที่ๆ 2 ได้เช่นกัน แต่การอัปเดตใหม่ล่าสุดจะมีฟีเจอร์ AI
วิธีใช้งาน AI Eraser บน OPPO Reno 11 Series
- เข้าไปที่รูปภาพ (Gallery)
- กดแก้ไข (Edit)
- กด AI Eraser (ยางลบ AI)
- วางวัตถุที่ต้องการ (เลือกได้ทั้ง แบบวงกลมหรือ ขีดก็ได้)
- จากนั้นเครื่องจะลบวัตถุออกและแทนด้วยสิ่งที่ใกล้เคียง
ทั้งนี้ ยางลบ AI มีหน้าตาเป็นอย่างไร? คุณที่กำลังเฉลิมฉลองเทศกาลโฮลีและถ่ายรูปเซลฟี่ที่เต็มไปด้วยสีสันกับเพื่อนๆ ทว่ามีมอเตอร์ไซค์เป็น photobombs ด้านหลังของรูปคุณ เพียงแค่วาดวงกลมรอบจักรยานยนต์ด้วยยางลบ AI จากนั้น AI ก็จะประมวลผลและลบมันออกได้อย่างชาญฉลาด โดยสร้างพี้นที่เพื่อเติมเต็มพื้นหลังได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้คือองค์ประกอบภาพที่สมบูรณ์แบบตรงกับความต้องการของคุณทุกประการ
สำหรับฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้กับมือถือ OPPO Reno 11 ทั้ง Reno 11F 5G, OPPO Reno 11 และ OPPO Reno 11 Pro 5G ทั้งนี้รุ่นอื่นๆ จะได้อัปเดตตามมาในภายหลัง
ภาพตัวอย่างจาก OPPO Reno 11F 5G
โดยรวมแล้ว OPPO Reno 11F 5G เป็นอย่างไร
สำหรับ OPPO Reno 11F 5G ถือว่าเป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่ออกแบบเรียบง่ายและไม่มีส่วนโค้ง เน้นความตรงอย่างเดียวทำให้จับต้องได้ง่ายมาก กับราคาตอนนี้อยู่ที่ 10,990 บาท ถือว่าไม่แพง แถมมีให้เลือก 3 สีเช่นเดียวกันเลยครับ ถือว่าเป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่่น่าจับตามองอยู่ครับ แต่คู่แข่งเขาเยอะ ยังไงก็ทำการบ้านหน่อยว่า ตัวไหนจะใช้สำหรับคุณที่สุด
จุดเด่น
- ตัวเครื่องเหลี่ยมจับได้ง่าย
- ให้สเปกความจำเยอะกว่าชาวบ้าน
- สีสันให้เลือกเยอะมาก
- แบตเตอรี่ค่อนข้างอึด
- มีลูกเล่นฉลาดอย่าง AI Eraser
- อุปกรณ์เสริมในกล่องครบแทบไม่ต้องหาอะไรเพิ่ม
ข้อสังเกต
- ความแรงอาจจะไม่มากเท่าชาวบ้านเขา
- ชาร์จไฟเร็วต้องใช้อุปกรณ์ติดกล่องชาร์จเท่านั้น
- สี Matte แม้ทนแต่ต้องระวัง
- ลำโพงมีเฉพาะด้านล่าง
อัลบั้มภาพ 22 ภาพ