สรุป WWDC 2024 เปิดใหม่หมด พร้อม AI สไตล์ Apple ที่คุณต้องรู้

สรุป WWDC 2024 เปิดใหม่หมด พร้อม AI สไตล์ Apple ที่คุณต้องรู้

สรุป WWDC 2024 เปิดใหม่หมด พร้อม AI สไตล์ Apple ที่คุณต้องรู้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Apple ได้จัดงานพบปะนักพัฒนาอย่างงาน WWDC 2024 ในรอบนี้มีอะไรที่เปลี่ยนใหม่บ้าง รอบนี้มีการแบ่งเพื่อให้คุณรู้ช่วงว่าแต่ละช่วงเปิดตรงไหน สำหรับรอบนี้เรามาสรุปกันทั้งหมด ระบบปฏิบัติการต่างๆ ดังนี้

สรุปไฮไลต์ Apple "WWDC 2024" มีอะไรใหม่บ้าง

  1. iOS 18
  2. iPadOS 18
  3. MacOS Sequoia
  4. WatchOS 11
  5. VisionOS 2
  6. Audio&Home
  7. Apple Intelligence

batch_img_0029

1. iOS 18

สำหรับบทความนี้เราเริ่มต้นกับ iOS 18 ใหม่ล่าสุดโดยมาพร้อมกับลูกเล่นครบใครรออะไรอยู่เรามาดูกันดีกว่า

  1. การปรับแต่งหน้าจอโฮมและล็อค

    • วางแอปและวิดเจ็ตที่หน้าจอโฮมได้อย่างอิสระ
    • ปรับแต่งปุ่มด้านล่างของหน้าจอล็อคได้
    • เข้าถึงและปรับแต่งส่วนควบคุมในศูนย์ควบคุมได้มากขึ้น
  2. แอปรูปภาพ

    • มุมมองใหม่ที่รวมเป็นหนึ่งเดียว
    • คอลเลกชั่นใหม่ๆ เพื่อการเข้าถึงรูปโปรดได้สะดวก
  3. แอปเมล

    • การคัดแยกอีเมลเป็นหมวดหมู่โดยใช้ระบบอัจฉริยะ
    • มุมมอง Digest ใหม่รวมอีเมลทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
  4. ข้อความผ่านดาวเทียม

    • สื่อสารผ่านดาวเทียมเมื่อไม่มีการเชื่อมต่อระบบเซลลูลาร์หรือ Wi-Fi
  5. Apple Intelligence

    • รวมเอาขุมพลังของโมเดลเจเนอเรทีฟกับบริบทเฉพาะตัวบุคคล
    • ขยายความสามารถในการเข้าใจและสร้างภาษาและรูปภาพ
  6. Siri and AI Integration

    • พูดคุยกับ Siri ได้ธรรมชาติมากขึ้น
    • ผนวกรวม ChatGPT เพื่อช่วยในการเขียนและการสื่อสาร
  7. Safari

    • เพิ่มฟีเจอร์ Highlights และ Reader ใหม่
    • ใช้การเรียนรู้ของระบบแสดงข้อมูลสำคัญของเว็บเพจ
  8. แอปรหัสผ่าน

    • ช่วยจัดการและเตือนเกี่ยวกับรหัสผ่านที่ไม่ปลอดภัย
  9. ความเป็นส่วนตัว

    • ล็อคและซ่อนแอปเพื่อป้องกันการแสดงข้อมูลที่ไม่ต้องการ
    • ควบคุมการแชร์ผู้ติดต่อและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมได้ดีขึ้น
  10. ฟีเจอร์อื่นๆ

    • โหมดเกมเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่น
    • SharePlay ให้การควบคุมเพลงจากหลายอุปกรณ์
    • แอปสุขภาพและแอปปฏิทินเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการจัดการชีวิตประจำวัน

และสามารถดาวน์โหลดในเรื่องเวอร์ชั่นนักพัฒนาสามารถทำได้ และเวอร์ชั่นจริงในปลายปีนี้

batch_img_0045

2. iPadOS 18

iPadOS 18 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่มากมายเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งาน iPad ให้ดียิ่งขึ้น ดังนี้:

  1. แอปเครื่องคิดเลขและ Math Notes:

    • แอปเครื่องคิดเลขใหม่พร้อม Math Notes สำหรับการแก้โจทย์ทางคณิตศาสตร์
    • ฟีเจอร์การเขียนกราฟด้วยการเขียนหรือพิมพ์สมการแล้วใส่กราฟเมื่อต้องการ
  2. Smart Script ในแอปโน้ต:

    • ปรับปรุงการเขียนด้วยลายมือโดย Apple Pencil
    • ลดความหวัดและปรับข้อความให้ตรง
    • สามารถเว้นวรรค ขีดฆ่า และคัดลอกข้อความพิมพ์มาวางเป็นลายมือของตัวเองได้
  3. การปรับแต่งหน้าจอโฮมและศูนย์ควบคุม:

    • วางไอคอนแอปและวิดเจ็ตได้อย่างอิสระ
    • ปรับลุคและปรับแต่งไอคอนและวิดเจ็ตให้มีรูปลักษณ์ที่ต้องการ
    • ศูนย์ควบคุมออกแบบใหม่เพื่อการเข้าถึงง่ายขึ้นและปรับแต่งได้มากขึ้น
  4. Tab Bar ใหม่:

    • Tab Bar ที่ลอยอยู่เหนือคอนเทนต์แอปช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสข้อมูลสำคัญได้ง่ายขึ้น
  5. แอปรูปภาพดีไซน์ใหม่:

    • ออกแบบเพื่อใช้พื้นที่จอภาพใหญ่ของ iPad ให้มีประสิทธิภาพ
    • มุมมองใหม่เพื่อการเข้าถึงรูปภาพที่ง่ายและรวดเร็วขึ้น
  6. แอปข้อความที่อัปเดต:

    • ฟีเจอร์ใหม่ในการจัดรูปแบบข้อความและเอฟเฟกต์เคลื่อนไหว
    • Tapback ที่ออกแบบใหม่และสามารถตั้งเวลาส่งข้อความได้
  7. Safari:

    • เบราว์เซอร์ที่เร็วขึ้นพร้อมฟีเจอร์ Highlights และ Reader ที่ออกแบบใหม่เพื่อการอ่านง่ายขึ้น
  8. Apple Intelligence:

    • ระบบ AI ที่ช่วยปรับปรุงการเขียน การสื่อสาร และการสร้างภาพ
    • ฟีเจอร์ Image Playground และเครื่องมือ Clean Up สำหรับการแก้ไขภาพ
  9. Siri และ AI Integration:

    • การพูดคุยกับ Siri ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วยการพิมพ์หรือเสียง
    • การรวม ChatGPT กับ Siri และ Writing Tools ทั่วทั้งระบบ
  10. การควบคุมความเป็นส่วนตัว:

    • ล็อคและซ่อนแอปเพื่อป้องกันข้อมูลส่วนตัว
    • ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลของแอปอย่างละเอียด
  11. แอปรหัสผ่าน:

    • เข้าถึงข้อมูลประจำตัวได้ง่ายและปลอดภัยในที่เดียว
  12. Apple Maps:

    • เส้นทางเดินเขาหลายพันเส้นทางในอุทยานแห่งชาติทั่วสหรัฐอเมริกา
    • สร้างและบันทึกเส้นทางเดินเขาได้แบบออฟไลน์
  13. คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึง:

    • Eye Tracking และ Vocal Shortcuts สำหรับการควบคุม iPad

สำหรับบทความที่เกี่ยวข้อง 

batch_img_0053

3. MacOS Sequoia

มาฝั่ง macOS บ้างมาพร้อมกับสเปกที่มาแบบครบครันเลยครับ เห็นแบบนี้เราได้สรุปฟีเจอร์ต่างๆ ดังนี้

  1. การสะท้อนหน้าจอ iPhone:

    • ใช้งาน iPhone บน Mac ได้โดยตรง รวมถึงการเข้าถึงแอปและการแจ้งเตือน
  2. การอัปเดต Safari:

    • ฟีเจอร์ Highlights ช่วยให้ค้นพบข้อมูลบนเว็บเพจได้ง่ายขึ้น
    • มุมมอง Reader ที่ออกแบบใหม่เพื่อการอ่านที่ไม่มีสิ่งรบกวน
  3. การเล่นเกม:

    • รองรับเกมชั้นนำใหม่ๆ เช่น Assassin's Creed Shadows, RESIDENT EVIL 7 biohazard, World of Warcraft: The War Within
    • ระบบเสียงตามตำแหน่งและการปรับปรุงประสบการณ์การเล่นเกม
  4. Apple Intelligence:

    • ระบบ AI ที่รวมขุมพลังของโมเดลเจเนอเรทีฟ เพื่อส่งมอบข้อมูลที่เป็นประโยชน์
    • การปรับปรุงการเขียน การสร้างสรรค์ภาพ และ Siri
  5. การจัดเรียงหน้าต่าง:

    • เลย์เอาท์หน้าต่างที่เร็วและง่ายขึ้น ช่วยให้จัดระเบียบหน้าต่างได้ง่าย
  6. การประชุมวิดีโอ:

    • คุณสมบัติ Presenter Preview สำหรับการเตรียมพร้อมก่อนการแชร์หน้าจอ
    • ฉากหลังแบบไดนามิกสำหรับการประชุมใน FaceTime หรือแอปอื่นๆ
  7. แอปรหัสผ่าน:

    • จัดการรหัสผ่าน พาสคีย์ และข้อมูลสำคัญได้ง่ายและปลอดภัยจากที่เดียว
  8. ฟีเจอร์ในการทำงาน:

    • เครื่องคิดเลขใหม่พร้อมประวัติการคำนวณ
    • แอปโน้ตที่ฉลาดขึ้นสามารถถอดเสียงจากข้อความเสียงและคำนวณสมการได้อัตโนมัติ
  9. การอัปเดตแอปข้อความและแอปสุขภาพ:

    • เอฟเฟ็กต์ข้อความใหม่, Tapback สำหรับอิโมจิและสติกเกอร์
    • รองรับเส้นทางเดินเขาหลายพันเส้นทางในอุทยานแห่งชาติ
  10. ฟีเจอร์เสริมอื่นๆ:

    • Apple Maps ปรับปรุงเส้นทางเดินเขาและการสำรวจใหม่
    • การจัดระเบียบรูปภาพอัตโนมัติ และการค้นหาภาพที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
    • แอปปฏิทินที่ผสานการทำงานร่วมกับแอปเตือนความจำ

ฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้ macOS Sequoia มีการปรับปรุงที่น่าตื่นเต้นและสามารถยกระดับประสบการณ์การทำงานและการใช้ชีวิตด้วย Mac และมีบทความที่เกี่ยวข้องมีดังนี้

batch_img_0036

4. WatchOS 11

มาถึงอุปกรณ์ Apple Watch รุ่นใหม่ล่าสุดกับ watchOS11 ใหม่จะมีลูกเล่นต่างๆ ดังนี้

  1. แอป Vitals (สุขภาพ) ใหม่:

    • แสดงตัวชี้วัดสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพแบบรวดเร็ว
    • สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ผู้ใช้ทราบสถานะสุขภาพประจำวันและรับการแจ้งเตือนเมื่อมีตัวชี้วัดที่อยู่นอกเกณฑ์ปกติ
  2. การสนับสนุนในช่วงตั้งครรภ์:

    • แอปสุขภาพบน iPhone, iPad และ Apple Watch จะแสดงการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตในระหว่างตั้งครรภ์
    • แจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาตรวจสุขภาพจิตประจำเดือน
  3. ข้อมูลเกี่ยวกับ Training Load:

    • วัดความเข้มข้นและระยะเวลาในการออกกำลังกายเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการฝึกซ้อม
    • Effort Rating ให้ผู้ใช้ติดตามความยากของการออกกำลังกาย
  4. การปรับแต่งวงแหวนกิจกรรมและแอปฟิตเนส:

    • ผู้ใช้สามารถหยุดวงแหวนชั่วคราวและปรับแต่งเป้าหมายวงแหวนกิจกรรมได้ตามวันในสัปดาห์
    • แอปฟิตเนสบน iPhone ให้ปรับแต่งแถบสรุปการออกกำลังกาย
  5. วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะและหน้าปัดรูปภาพ:

    • วิดเจ็ตใหม่ๆ เช่น Shazam, รูปภาพ, และระยะทาง
    • หน้าปัดรูปภาพที่แนะนำรูปภาพสวยๆ ด้วยระบบการเรียนรู้ของเครื่อง
  6. คุณสมบัติเช็คอินและแอปแปลภาษา:

    • คุณสมบัติเช็คอินสำหรับการติดตามความปลอดภัยระหว่างออกกำลังกาย
    • แอปแปลภาษาใช้งานได้บน Apple Watch สำหรับการแปลภาษาทันที
  7. การตอบสนองด้วยคำสั่งนิ้ว "แตะสองครั้ง":

    • ใช้สำหรับเลื่อนดูแอปต่างๆ เช่น ข้อความ ปฏิทิน หรือสภาพอากาศ
  8. แอปออกกำลังกาย:

    • รองรับกีฬาประเภทต่างๆ เช่น ฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล ฮอกกี้ วิ่ง ปั่นจักรยาน สกี และอื่นๆ
    • การออกกำลังกายที่กำหนดเองสามารถใช้กับการว่ายน้ำในสระ
  9. Apple Maps:

    • เส้นทางเดินป่าในอุทยานแห่งชาติทุกแห่งในสหรัฐอเมริกา สามารถใช้งานแบบออฟไลน์ได้
    • คำแนะนำเลี้ยวต่อเลี้ยวแม้ไม่มี iPhone อยู่ใกล้
  10. การแจ้งเตือนโดยสรุป:

    • รับการแจ้งเตือนจาก iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มายัง Apple Watch
  11. การออกตั๋วที่ดียิ่งขึ้น:

    • การออกตั๋วแสดงข้อมูลสำคัญบนแอปกระเป๋าสตางค์ Apple
    • กิจกรรมสดสามารถดูรายละเอียดได้บนวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ
  12. Tap to Cash:

    • ส่งและรับ Apple Cash ได้ง่ายๆ ผ่าน Apple Watch

batch_img_0009

5. VisionOS 2

สำหรับ visionOS 2 ซึ่งเป็นอัปเดตใหญ่สำหรับ Apple Vision Pro ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้และนักพัฒนา:

ฟีเจอร์หลักของ visionOS 2:

  1. สร้างสรรค์และแชร์รูปภาพเชิงมิติพื้นที่:

    • สร้างรูปภาพเชิงมิติพื้นที่จากภาพในคลัง
    • แปลงภาพ 2D เป็นภาพเชิงมิติพื้นที่
    • แชร์รูปภาพเชิงมิติพื้นที่ผ่าน SharePlay และดูด้วย Persona เชิงมิติพื้นที่
  2. การบันทึกและตัดต่อวิดีโอเชิงมิติพื้นที่:

    • บันทึกวิดีโอเชิงมิติพื้นที่ด้วย Apple Vision Pro และ iPhone 15 Pro
    • ตัดต่อใน Final Cut Pro และแชร์วิดีโอผ่านแอป Vimeo
  3. คำสั่งมือและคุณสมบัติด้านการทำงาน:

    • คำสั่งมือแบบใหม่สำหรับการเข้าถึงฟังก์ชันสำคัญ เช่น มุมมองบ้านและศูนย์ควบคุม
    • จอภาพเสมือน Mac ที่มีความละเอียดและขนาดใหญ่ขึ้น
    • รองรับเมาส์ และแสดง Magic Keyboard ในสภาพแวดล้อมสมจริง
  4. การปรับปรุงสำหรับ Vision Pro:

    • ปรับแต่งมุมมองบ้านได้เอง
    • รองรับโหมดเดินทางด้วยรถไฟ
    • เพิ่มผู้ใช้ทั่วไปและบันทึกข้อมูลดวงตาและมือได้นาน 30 วัน
  5. เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา:

    • API และเฟรมเวิร์กใหม่ เช่น TabletopKit และ HealthKit
    • แอป The Museum That Never Was ใช้ API ด้านปริมาตรใหม่
    • แอป Haunted Chess ใช้ TabletopKit เพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนจริง
  6. Apple Immersive Video:

    • วิดีโอ 8K แบบ 3D มุมมอง 180 องศา และระบบเสียงตามตำแหน่ง
    • ภาพยนตร์และซีรีส์ใหม่ในแอป Apple TV เช่น Adventure และ Alicia Keys: Rehearsal Room
    • Blackmagic Design เตรียมเปิดตัวระบบกล้องและซอฟต์แวร์โพสต์โปรดักชั่นที่รองรับ Apple Immersive Video

คุณสมบัติอื่นๆ:

  • Safari: รองรับการรับชมวิดีโอในสภาพแวดล้อมต่างๆ และการแตะดูภาพพาโนรามา
  • Apple TV: การดูแบบหลายมุมมองเพื่อการรับชมกีฬาหลายสตรีมพร้อมกัน
  • แอปทำสมาธิ: มีความสามารถ "Follow Your Breathing" เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สงบและมีสมาธิ
  • คำบรรยายสดทั่วทั้งระบบ: ช่วยผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยิน
  • AirPlay: ใช้ดูคอนเทนต์บน Vision Pro จาก iPhone, iPad หรือ Mac

visionOS 2 จึงเป็นการยกระดับทั้งการใช้งานและประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น โดยมีฟีเจอร์และเครื่องมือใหม่ๆ สำหรับนักพัฒนาที่สามารถสร้างแอปเชิงมิติพื้นที่ที่สมบูรณ์และน่าทึ่งยิ่งกว่าเดิม

batch_img_0030

6. Audio&Home

นอกจากนี้ยังมีการออกแบบเพื่อให้ระบบการทำงานของระบบภาพและเสียงได้ โดย Apple TV จะเพิ่มฟีเจอร์ในเรื่องการแสดงผลภาพที่โดดเด่นและเพิ่ม Screen Saver ใหม่ และนอกจากนี้ยังมีหูฟัง AirPods Pro ที่จะได้ฟีเจอร์ตัดเสียง หรือ Voice Isolation นั่นเอง

batch_img_0068

7. Apple Intelligence

ปิดท้ายกับเรื่อง AI ของ Apple ที่มีชื่อว่า Apple Intelligence ซึ่งเป็นระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลที่รวมขุมพลังของโมเดลเจเนอเรทีฟเข้ากับบริบทเฉพาะตัวบุคคลเพื่อให้การใช้งาน iPhone, iPad และ Mac เป็นประสบการณ์ที่มีความเป็นส่วนตัวและประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยระบบนี้ผสานรวมอยู่ใน iOS 18, iPadOS 18 และ macOS Sequoia

ฟีเจอร์หลัก:

  1. การทำความเข้าใจและสร้างภาษา

    • Writing Tools: ปรับสำนวนการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปข้อความได้ในแอปเมล, โน้ต, Pages และแอปอื่นๆ
    • Priority Messages: แสดงอีเมลด่วน และสรุปเนื้อหาโดยไม่ต้องเปิดอีเมล
    • Priority Notification: การแจ้งเตือนที่สำคัญจะปรากฏอยู่ด้านบน
  2. Image Playground

    • สร้างภาพเก๋ๆ ได้ด้วยสไตล์ต่างๆ ได้แก่ Animation, Illustration หรือ Sketch
    • ใช้งานได้ในแอปข้อความ, โน้ต, Keynote, Freeform และ Pages
  3. Genmoji

    • สร้างอิโมจิที่ไม่ซ้ำใครตามคำอธิบาย หรือรูปภาพของบุคคล
  4. ฟีเจอร์ในแอปรูปภาพ

    • การค้นหาด้วยคำบรรยายธรรมชาติ
    • เครื่องมือ Clean Up ลบวัตถุรบกวนสายตาในวิดีโอ
    • สร้างเรื่องราวของภาพโดย Apple Intelligence
  5. การพัฒนาของ Siri

    • Siri ผสานรวมกับ Apple Intelligence เพื่อความเข้าใจและเตรียมพร้อมมากขึ้น
    • สามารถพิมพ์โต้ตอบและสลับระหว่างข้อความและเสียงพูดได้
    • Siri สามารถทำสิ่งใหม่ๆ หลายร้อยอย่างในแอปของ Apple และบริษัทอื่น
  6. มาตรฐานใหม่ของความเป็นส่วนตัวใน AI

    • Private Cloud Compute: ขยายขอบเขตการประมวลผลโดยยังคงความเป็นส่วนตัว
    • การใช้เทคโนโลยีเข้ารหัสในการประมวลผล
  7. การรวม ChatGPT

    • Siri ผสานรวม ChatGPT เพื่อช่วยในเรื่องต่างๆ
    • สามารถใช้ ChatGPT ใน Writing Tools ของ Apple

ความพร้อมใช้งาน:

  • Apple Intelligence ใช้งานได้ฟรี เปิดใช้งานในรุ่นเบต้าใน iOS 18, iPadOS 18 และ macOS Sequoia
  • จะพร้อมให้บริการบน iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max และอุปกรณ์ที่ใช้ชิป M1 หรือใหม่กว่า
  • บางฟีเจอร์และภาษาจะทยอยเปิดให้บริการในปีต่อมาด้วย

ปิดท้ายกับข่าวดีว่า Apple เผยวันกำหนดในการดาวน์โหลด Public Beta แล้วในเดือนกรกฎาคมนี้ 

อัลบั้มภาพ 54 ภาพ

อัลบั้มภาพ 54 ภาพ ของ สรุป WWDC 2024 เปิดใหม่หมด พร้อม AI สไตล์ Apple ที่คุณต้องรู้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook