สรุป WWDC 2024 เปิดใหม่หมด พร้อม AI สไตล์ Apple ที่คุณต้องรู้
Apple ได้จัดงานพบปะนักพัฒนาอย่างงาน WWDC 2024 ในรอบนี้มีอะไรที่เปลี่ยนใหม่บ้าง รอบนี้มีการแบ่งเพื่อให้คุณรู้ช่วงว่าแต่ละช่วงเปิดตรงไหน สำหรับรอบนี้เรามาสรุปกันทั้งหมด ระบบปฏิบัติการต่างๆ ดังนี้
สรุปไฮไลต์ Apple "WWDC 2024" มีอะไรใหม่บ้าง
1. iOS 18
สำหรับบทความนี้เราเริ่มต้นกับ iOS 18 ใหม่ล่าสุดโดยมาพร้อมกับลูกเล่นครบใครรออะไรอยู่เรามาดูกันดีกว่า
-
การปรับแต่งหน้าจอโฮมและล็อค
- วางแอปและวิดเจ็ตที่หน้าจอโฮมได้อย่างอิสระ
- ปรับแต่งปุ่มด้านล่างของหน้าจอล็อคได้
- เข้าถึงและปรับแต่งส่วนควบคุมในศูนย์ควบคุมได้มากขึ้น
-
แอปรูปภาพ
- มุมมองใหม่ที่รวมเป็นหนึ่งเดียว
- คอลเลกชั่นใหม่ๆ เพื่อการเข้าถึงรูปโปรดได้สะดวก
-
แอปเมล
- การคัดแยกอีเมลเป็นหมวดหมู่โดยใช้ระบบอัจฉริยะ
- มุมมอง Digest ใหม่รวมอีเมลทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
-
ข้อความผ่านดาวเทียม
- สื่อสารผ่านดาวเทียมเมื่อไม่มีการเชื่อมต่อระบบเซลลูลาร์หรือ Wi-Fi
-
Apple Intelligence
- รวมเอาขุมพลังของโมเดลเจเนอเรทีฟกับบริบทเฉพาะตัวบุคคล
- ขยายความสามารถในการเข้าใจและสร้างภาษาและรูปภาพ
-
Siri and AI Integration
- พูดคุยกับ Siri ได้ธรรมชาติมากขึ้น
- ผนวกรวม ChatGPT เพื่อช่วยในการเขียนและการสื่อสาร
-
Safari
- เพิ่มฟีเจอร์ Highlights และ Reader ใหม่
- ใช้การเรียนรู้ของระบบแสดงข้อมูลสำคัญของเว็บเพจ
-
แอปรหัสผ่าน
- ช่วยจัดการและเตือนเกี่ยวกับรหัสผ่านที่ไม่ปลอดภัย
-
ความเป็นส่วนตัว
- ล็อคและซ่อนแอปเพื่อป้องกันการแสดงข้อมูลที่ไม่ต้องการ
- ควบคุมการแชร์ผู้ติดต่อและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมได้ดีขึ้น
-
ฟีเจอร์อื่นๆ
- โหมดเกมเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่น
- SharePlay ให้การควบคุมเพลงจากหลายอุปกรณ์
- แอปสุขภาพและแอปปฏิทินเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการจัดการชีวิตประจำวัน
และสามารถดาวน์โหลดในเรื่องเวอร์ชั่นนักพัฒนาสามารถทำได้ และเวอร์ชั่นจริงในปลายปีนี้
2. iPadOS 18
iPadOS 18 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่มากมายเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งาน iPad ให้ดียิ่งขึ้น ดังนี้:
-
แอปเครื่องคิดเลขและ Math Notes:
- แอปเครื่องคิดเลขใหม่พร้อม Math Notes สำหรับการแก้โจทย์ทางคณิตศาสตร์
- ฟีเจอร์การเขียนกราฟด้วยการเขียนหรือพิมพ์สมการแล้วใส่กราฟเมื่อต้องการ
-
Smart Script ในแอปโน้ต:
- ปรับปรุงการเขียนด้วยลายมือโดย Apple Pencil
- ลดความหวัดและปรับข้อความให้ตรง
- สามารถเว้นวรรค ขีดฆ่า และคัดลอกข้อความพิมพ์มาวางเป็นลายมือของตัวเองได้
-
การปรับแต่งหน้าจอโฮมและศูนย์ควบคุม:
- วางไอคอนแอปและวิดเจ็ตได้อย่างอิสระ
- ปรับลุคและปรับแต่งไอคอนและวิดเจ็ตให้มีรูปลักษณ์ที่ต้องการ
- ศูนย์ควบคุมออกแบบใหม่เพื่อการเข้าถึงง่ายขึ้นและปรับแต่งได้มากขึ้น
-
Tab Bar ใหม่:
- Tab Bar ที่ลอยอยู่เหนือคอนเทนต์แอปช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสข้อมูลสำคัญได้ง่ายขึ้น
-
แอปรูปภาพดีไซน์ใหม่:
- ออกแบบเพื่อใช้พื้นที่จอภาพใหญ่ของ iPad ให้มีประสิทธิภาพ
- มุมมองใหม่เพื่อการเข้าถึงรูปภาพที่ง่ายและรวดเร็วขึ้น
-
แอปข้อความที่อัปเดต:
- ฟีเจอร์ใหม่ในการจัดรูปแบบข้อความและเอฟเฟกต์เคลื่อนไหว
- Tapback ที่ออกแบบใหม่และสามารถตั้งเวลาส่งข้อความได้
-
Safari:
- เบราว์เซอร์ที่เร็วขึ้นพร้อมฟีเจอร์ Highlights และ Reader ที่ออกแบบใหม่เพื่อการอ่านง่ายขึ้น
-
Apple Intelligence:
- ระบบ AI ที่ช่วยปรับปรุงการเขียน การสื่อสาร และการสร้างภาพ
- ฟีเจอร์ Image Playground และเครื่องมือ Clean Up สำหรับการแก้ไขภาพ
-
Siri และ AI Integration:
- การพูดคุยกับ Siri ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วยการพิมพ์หรือเสียง
- การรวม ChatGPT กับ Siri และ Writing Tools ทั่วทั้งระบบ
-
การควบคุมความเป็นส่วนตัว:
- ล็อคและซ่อนแอปเพื่อป้องกันข้อมูลส่วนตัว
- ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลของแอปอย่างละเอียด
-
แอปรหัสผ่าน:
- เข้าถึงข้อมูลประจำตัวได้ง่ายและปลอดภัยในที่เดียว
-
Apple Maps:
- เส้นทางเดินเขาหลายพันเส้นทางในอุทยานแห่งชาติทั่วสหรัฐอเมริกา
- สร้างและบันทึกเส้นทางเดินเขาได้แบบออฟไลน์
-
คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึง:
- Eye Tracking และ Vocal Shortcuts สำหรับการควบคุม iPad
สำหรับบทความที่เกี่ยวข้อง
- เปิดรายชื่อ iPhone-iPad ที่รองรับ iOS 18 - iPadOS 18 รุ่นไหนได้ไปต่อ
- เปิดตัว iOS 18 ทำให้ iPhone เป็นส่วนตัว และฉลาดยิ่งกว่าที่เคย
3. MacOS Sequoia
มาฝั่ง macOS บ้างมาพร้อมกับสเปกที่มาแบบครบครันเลยครับ เห็นแบบนี้เราได้สรุปฟีเจอร์ต่างๆ ดังนี้
-
การสะท้อนหน้าจอ iPhone:
- ใช้งาน iPhone บน Mac ได้โดยตรง รวมถึงการเข้าถึงแอปและการแจ้งเตือน
-
การอัปเดต Safari:
- ฟีเจอร์ Highlights ช่วยให้ค้นพบข้อมูลบนเว็บเพจได้ง่ายขึ้น
- มุมมอง Reader ที่ออกแบบใหม่เพื่อการอ่านที่ไม่มีสิ่งรบกวน
-
การเล่นเกม:
- รองรับเกมชั้นนำใหม่ๆ เช่น Assassin's Creed Shadows, RESIDENT EVIL 7 biohazard, World of Warcraft: The War Within
- ระบบเสียงตามตำแหน่งและการปรับปรุงประสบการณ์การเล่นเกม
-
Apple Intelligence:
- ระบบ AI ที่รวมขุมพลังของโมเดลเจเนอเรทีฟ เพื่อส่งมอบข้อมูลที่เป็นประโยชน์
- การปรับปรุงการเขียน การสร้างสรรค์ภาพ และ Siri
-
การจัดเรียงหน้าต่าง:
- เลย์เอาท์หน้าต่างที่เร็วและง่ายขึ้น ช่วยให้จัดระเบียบหน้าต่างได้ง่าย
-
การประชุมวิดีโอ:
- คุณสมบัติ Presenter Preview สำหรับการเตรียมพร้อมก่อนการแชร์หน้าจอ
- ฉากหลังแบบไดนามิกสำหรับการประชุมใน FaceTime หรือแอปอื่นๆ
-
แอปรหัสผ่าน:
- จัดการรหัสผ่าน พาสคีย์ และข้อมูลสำคัญได้ง่ายและปลอดภัยจากที่เดียว
-
ฟีเจอร์ในการทำงาน:
- เครื่องคิดเลขใหม่พร้อมประวัติการคำนวณ
- แอปโน้ตที่ฉลาดขึ้นสามารถถอดเสียงจากข้อความเสียงและคำนวณสมการได้อัตโนมัติ
-
การอัปเดตแอปข้อความและแอปสุขภาพ:
- เอฟเฟ็กต์ข้อความใหม่, Tapback สำหรับอิโมจิและสติกเกอร์
- รองรับเส้นทางเดินเขาหลายพันเส้นทางในอุทยานแห่งชาติ
-
ฟีเจอร์เสริมอื่นๆ:
- Apple Maps ปรับปรุงเส้นทางเดินเขาและการสำรวจใหม่
- การจัดระเบียบรูปภาพอัตโนมัติ และการค้นหาภาพที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
- แอปปฏิทินที่ผสานการทำงานร่วมกับแอปเตือนความจำ
ฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้ macOS Sequoia มีการปรับปรุงที่น่าตื่นเต้นและสามารถยกระดับประสบการณ์การทำงานและการใช้ชีวิตด้วย Mac และมีบทความที่เกี่ยวข้องมีดังนี้
4. WatchOS 11
มาถึงอุปกรณ์ Apple Watch รุ่นใหม่ล่าสุดกับ watchOS11 ใหม่จะมีลูกเล่นต่างๆ ดังนี้
-
แอป Vitals (สุขภาพ) ใหม่:
- แสดงตัวชี้วัดสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพแบบรวดเร็ว
- สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ผู้ใช้ทราบสถานะสุขภาพประจำวันและรับการแจ้งเตือนเมื่อมีตัวชี้วัดที่อยู่นอกเกณฑ์ปกติ
-
การสนับสนุนในช่วงตั้งครรภ์:
- แอปสุขภาพบน iPhone, iPad และ Apple Watch จะแสดงการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตในระหว่างตั้งครรภ์
- แจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาตรวจสุขภาพจิตประจำเดือน
-
ข้อมูลเกี่ยวกับ Training Load:
- วัดความเข้มข้นและระยะเวลาในการออกกำลังกายเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการฝึกซ้อม
- Effort Rating ให้ผู้ใช้ติดตามความยากของการออกกำลังกาย
-
การปรับแต่งวงแหวนกิจกรรมและแอปฟิตเนส:
- ผู้ใช้สามารถหยุดวงแหวนชั่วคราวและปรับแต่งเป้าหมายวงแหวนกิจกรรมได้ตามวันในสัปดาห์
- แอปฟิตเนสบน iPhone ให้ปรับแต่งแถบสรุปการออกกำลังกาย
-
วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะและหน้าปัดรูปภาพ:
- วิดเจ็ตใหม่ๆ เช่น Shazam, รูปภาพ, และระยะทาง
- หน้าปัดรูปภาพที่แนะนำรูปภาพสวยๆ ด้วยระบบการเรียนรู้ของเครื่อง
-
คุณสมบัติเช็คอินและแอปแปลภาษา:
- คุณสมบัติเช็คอินสำหรับการติดตามความปลอดภัยระหว่างออกกำลังกาย
- แอปแปลภาษาใช้งานได้บน Apple Watch สำหรับการแปลภาษาทันที
-
การตอบสนองด้วยคำสั่งนิ้ว "แตะสองครั้ง":
- ใช้สำหรับเลื่อนดูแอปต่างๆ เช่น ข้อความ ปฏิทิน หรือสภาพอากาศ
-
แอปออกกำลังกาย:
- รองรับกีฬาประเภทต่างๆ เช่น ฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล ฮอกกี้ วิ่ง ปั่นจักรยาน สกี และอื่นๆ
- การออกกำลังกายที่กำหนดเองสามารถใช้กับการว่ายน้ำในสระ
-
Apple Maps:
- เส้นทางเดินป่าในอุทยานแห่งชาติทุกแห่งในสหรัฐอเมริกา สามารถใช้งานแบบออฟไลน์ได้
- คำแนะนำเลี้ยวต่อเลี้ยวแม้ไม่มี iPhone อยู่ใกล้
-
การแจ้งเตือนโดยสรุป:
- รับการแจ้งเตือนจาก iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มายัง Apple Watch
-
การออกตั๋วที่ดียิ่งขึ้น:
- การออกตั๋วแสดงข้อมูลสำคัญบนแอปกระเป๋าสตางค์ Apple
- กิจกรรมสดสามารถดูรายละเอียดได้บนวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ
-
Tap to Cash:
- ส่งและรับ Apple Cash ได้ง่ายๆ ผ่าน Apple Watch
5. VisionOS 2
สำหรับ visionOS 2 ซึ่งเป็นอัปเดตใหญ่สำหรับ Apple Vision Pro ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้และนักพัฒนา:
ฟีเจอร์หลักของ visionOS 2:
-
สร้างสรรค์และแชร์รูปภาพเชิงมิติพื้นที่:
- สร้างรูปภาพเชิงมิติพื้นที่จากภาพในคลัง
- แปลงภาพ 2D เป็นภาพเชิงมิติพื้นที่
- แชร์รูปภาพเชิงมิติพื้นที่ผ่าน SharePlay และดูด้วย Persona เชิงมิติพื้นที่
-
การบันทึกและตัดต่อวิดีโอเชิงมิติพื้นที่:
- บันทึกวิดีโอเชิงมิติพื้นที่ด้วย Apple Vision Pro และ iPhone 15 Pro
- ตัดต่อใน Final Cut Pro และแชร์วิดีโอผ่านแอป Vimeo
-
คำสั่งมือและคุณสมบัติด้านการทำงาน:
- คำสั่งมือแบบใหม่สำหรับการเข้าถึงฟังก์ชันสำคัญ เช่น มุมมองบ้านและศูนย์ควบคุม
- จอภาพเสมือน Mac ที่มีความละเอียดและขนาดใหญ่ขึ้น
- รองรับเมาส์ และแสดง Magic Keyboard ในสภาพแวดล้อมสมจริง
-
การปรับปรุงสำหรับ Vision Pro:
- ปรับแต่งมุมมองบ้านได้เอง
- รองรับโหมดเดินทางด้วยรถไฟ
- เพิ่มผู้ใช้ทั่วไปและบันทึกข้อมูลดวงตาและมือได้นาน 30 วัน
-
เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา:
- API และเฟรมเวิร์กใหม่ เช่น TabletopKit และ HealthKit
- แอป The Museum That Never Was ใช้ API ด้านปริมาตรใหม่
- แอป Haunted Chess ใช้ TabletopKit เพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนจริง
-
Apple Immersive Video:
- วิดีโอ 8K แบบ 3D มุมมอง 180 องศา และระบบเสียงตามตำแหน่ง
- ภาพยนตร์และซีรีส์ใหม่ในแอป Apple TV เช่น Adventure และ Alicia Keys: Rehearsal Room
- Blackmagic Design เตรียมเปิดตัวระบบกล้องและซอฟต์แวร์โพสต์โปรดักชั่นที่รองรับ Apple Immersive Video
คุณสมบัติอื่นๆ:
- Safari: รองรับการรับชมวิดีโอในสภาพแวดล้อมต่างๆ และการแตะดูภาพพาโนรามา
- Apple TV: การดูแบบหลายมุมมองเพื่อการรับชมกีฬาหลายสตรีมพร้อมกัน
- แอปทำสมาธิ: มีความสามารถ "Follow Your Breathing" เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สงบและมีสมาธิ
- คำบรรยายสดทั่วทั้งระบบ: ช่วยผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยิน
- AirPlay: ใช้ดูคอนเทนต์บน Vision Pro จาก iPhone, iPad หรือ Mac
visionOS 2 จึงเป็นการยกระดับทั้งการใช้งานและประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น โดยมีฟีเจอร์และเครื่องมือใหม่ๆ สำหรับนักพัฒนาที่สามารถสร้างแอปเชิงมิติพื้นที่ที่สมบูรณ์และน่าทึ่งยิ่งกว่าเดิม
6. Audio&Home
นอกจากนี้ยังมีการออกแบบเพื่อให้ระบบการทำงานของระบบภาพและเสียงได้ โดย Apple TV จะเพิ่มฟีเจอร์ในเรื่องการแสดงผลภาพที่โดดเด่นและเพิ่ม Screen Saver ใหม่ และนอกจากนี้ยังมีหูฟัง AirPods Pro ที่จะได้ฟีเจอร์ตัดเสียง หรือ Voice Isolation นั่นเอง
7. Apple Intelligence
ปิดท้ายกับเรื่อง AI ของ Apple ที่มีชื่อว่า Apple Intelligence ซึ่งเป็นระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลที่รวมขุมพลังของโมเดลเจเนอเรทีฟเข้ากับบริบทเฉพาะตัวบุคคลเพื่อให้การใช้งาน iPhone, iPad และ Mac เป็นประสบการณ์ที่มีความเป็นส่วนตัวและประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยระบบนี้ผสานรวมอยู่ใน iOS 18, iPadOS 18 และ macOS Sequoia
ฟีเจอร์หลัก:
-
การทำความเข้าใจและสร้างภาษา
- Writing Tools: ปรับสำนวนการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปข้อความได้ในแอปเมล, โน้ต, Pages และแอปอื่นๆ
- Priority Messages: แสดงอีเมลด่วน และสรุปเนื้อหาโดยไม่ต้องเปิดอีเมล
- Priority Notification: การแจ้งเตือนที่สำคัญจะปรากฏอยู่ด้านบน
-
Image Playground
- สร้างภาพเก๋ๆ ได้ด้วยสไตล์ต่างๆ ได้แก่ Animation, Illustration หรือ Sketch
- ใช้งานได้ในแอปข้อความ, โน้ต, Keynote, Freeform และ Pages
-
Genmoji
- สร้างอิโมจิที่ไม่ซ้ำใครตามคำอธิบาย หรือรูปภาพของบุคคล
-
ฟีเจอร์ในแอปรูปภาพ
- การค้นหาด้วยคำบรรยายธรรมชาติ
- เครื่องมือ Clean Up ลบวัตถุรบกวนสายตาในวิดีโอ
- สร้างเรื่องราวของภาพโดย Apple Intelligence
-
การพัฒนาของ Siri
- Siri ผสานรวมกับ Apple Intelligence เพื่อความเข้าใจและเตรียมพร้อมมากขึ้น
- สามารถพิมพ์โต้ตอบและสลับระหว่างข้อความและเสียงพูดได้
- Siri สามารถทำสิ่งใหม่ๆ หลายร้อยอย่างในแอปของ Apple และบริษัทอื่น
-
มาตรฐานใหม่ของความเป็นส่วนตัวใน AI
- Private Cloud Compute: ขยายขอบเขตการประมวลผลโดยยังคงความเป็นส่วนตัว
- การใช้เทคโนโลยีเข้ารหัสในการประมวลผล
-
การรวม ChatGPT
- Siri ผสานรวม ChatGPT เพื่อช่วยในเรื่องต่างๆ
- สามารถใช้ ChatGPT ใน Writing Tools ของ Apple
ความพร้อมใช้งาน:
- Apple Intelligence ใช้งานได้ฟรี เปิดใช้งานในรุ่นเบต้าใน iOS 18, iPadOS 18 และ macOS Sequoia
- จะพร้อมให้บริการบน iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max และอุปกรณ์ที่ใช้ชิป M1 หรือใหม่กว่า
- บางฟีเจอร์และภาษาจะทยอยเปิดให้บริการในปีต่อมาด้วย
ปิดท้ายกับข่าวดีว่า Apple เผยวันกำหนดในการดาวน์โหลด Public Beta แล้วในเดือนกรกฎาคมนี้
อัลบั้มภาพ 54 ภาพ