รีวิว Samsung Galaxy Buds3 และ Galaxy Buds3 Pro ดีไซน์ใหม่หมด เสียงโดดเด่นกว่าเดิม
Samsung Galaxy Buds เป็นหูฟังไร้สายอีกรุ่นที่เปิดตัวในรอบนี้หลังจากพัฒนามานาน และมีให้เลือกทั้งรุ่นปกติและรุ่น Pro มารอบนี้กับ Galaxy Buds3 ที่มีให้เลือกทั้งรุ่น Buds3 และ Buds3 Pro มันต่างกันยังไงและเลือกรุ่นไหนดี เรามาหาคำตอบกันครับ
สเปกของ Samsung Galaxy Buds3 และ Galaxy Buds3 Pro
ชื่อรุ่น |
Samsung Galaxy Buds3 |
Samsung Galaxy Buds3 Pro |
ขนาดหูฟัง |
18.1 x 20.4 x 31.9 มิลลิเมตร |
18.1 x 19.8 x 33.2 มิลลิเมตร |
ขนาดกล่อง |
58.9 x 48.7 x 24.4 มิลลิเมตร |
58.9 x 48.7 x 24.4 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก |
4.7 กรัม สำหรับหูฟัง | 46.5 กรัม สำหรับกล่อง |
5.4 กรัมต่อข้าง | 46.5 กรัม |
การเชื่อมต่อ |
Bluetooth 5.4 Samsung Seamless Codec SSC UHQ AAC SBC |
Bluetooth 5.4 Samsung Seamless Codec SSC UHQ AAC SBC |
ฟีเจอร์ Galaxy AI |
Adaptive ANC, Interpreter และ Apps Personalized Your Style |
Adaptive ANC, Adaptive Noise Control, Interpreter, Siren detection, Voice detection และ Apps Personalized Your Style |
กันน้ำ / กันฝุ่น |
IP57 |
IP57 |
ขนาด Driver |
11 mm dynamic driver |
10.5mm Dynamic + 6.1mm Planar |
เซ็นเซอร์ |
3 microphones Touch and press Accelerometer Voice pick up (VPU) |
3 microphones |
แบตเตอรี่ |
ความจุของแบตเตอรี่ หูฟัง: 48 mAh กล่องชาร์จ: 515 mAh |
ความจุของแบตเตอรี่ หูฟัง: 48 mAh กล่องชาร์จ: 515 mAh |
สีสัน |
ขาว และ เทา |
ขาว และ เทา |
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Samsung Galaxy Buds3 Series
กล่องของ Samsung Galaxy Buds3 Series ทั้งหมดหน้าตาเหมือนกัน โดยฝั่งด้านของตัวกล่องเก็บด้านบนจะโปร่งใสด้วยกัน และ ด้านหน้าจะมีไฟบอกสถานะ ด้านหลังรองรับระบบ Wireless Charge ใต้กล่องจะมีปุ่มสำหรับ Pairing และ ช่องเสียบ USB-C โดยรุ่นนี้ไม่ว่าจะเป็นรุ่นปกติหรือรุ่น Pro จะสีให้เลือก 2 สีคือ สีขาว และ สีเงิน Sliver
แต่พอเปิดฝาออกมาจะพบกับไฟเรืองแสงที่ก้านหูฟังทำให้สามารถแยกออกได้ได้เช่นเดียวกัน
การสวมใส่ Samsung Galaxy Buds3 / Buds3 Pro
ต้องบอกว่าถ้าเป็น Samsung Galaxy Buds3 รุ่นใหม่ที่มีให้เลือกทั้งหมด 2 รูปแบบคือรุ่นแบบแรกเป็นแบบ Open-Ear ที่ใส่สบายมากขึ้นและมีเซ็นเซอร์ในตัวพร้อมกับไมโครโฟนทั้งหมด 3 จุด
ส่วน Samsung Galaxy Buds3 Pro จะมาพร้อมกับรูปทรงแบบ In-Ear ที่ใส่แล้วจะให้ใส่แล้วจะให้ความรู้สึกที่กระชับมากกว่า
นอกจากนี้ที่ก้านหูฟังด้านหลังนั้นจะมีเซ็นเซอร์สำหรับสั่งงานได้แก่
- ปัดขึ้น - ลง เพื่อใช้ในการเพิ่มลดเสียง
- แตะครั้งเดียวเพื่อหยุด – เล่นเพลง หรือรับสาย
- แตะ 2 ครั้งเป็นเปลี่ยนเพลงไปข้างหน้า
- แตะ 3 ครั้งเปลี่ยนเพลงย้อนกลับ
- แตะแล้วค้างไว้ สามารถตั้งค่าอื่นๆ เช่นการเปิดระบบตัดเสียงรบกวน หรือ วางสาย
คุณภาพเสียงของ Samsung Galaxy Buds3 / Buds3 Pro
สำหรับคุณภาพเสียงของ Samsung Galaxy Buds3 ให้เสียงที่โดดเด่นแม้ว่าจะเป็น Open FIT ก็ตาม เสียงถือว่าเก็บรายละเอียดได้และยังสามารถลดเสียงรบกวนได้ดีระดับหนึ่ง
แต่สำหรับ Samsung Galaxy Buds3 Pro มีการออกแบบให้เป็นแบบ In-Ear ช่วยทำให้เสียงที่เสียงจะดีกว่าและทำให้คุณใส่แน่นกว่าและใช้ออกกำลังกายได้ดี
ฟีเจอร์ใน Samsung Galaxy Wear Apps
Samsung Galaxy Buds3 สามารถตั้งค่าควบคุมหูฟังผ่าน Samsung Galaxy Wear โดยให้คุณปรับเสียงได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นเลือกระบบเสียงที่สามารถปรับได้, ดูแบตเตอรี่, ตั้งค่าปุ่ม, คู่มือ และการอัปเดต Firmware ให้ใช้งานได้ดีมากขึ้น และรองรับกับการทำงาน Galaxy AI อย่าง Interpretor เป็นต้น
อายุการใช้งาน
สำหรับแบเตอตรี่ของ Samsung Galaxy Buds3 และ Buds3 Pro ทำได้อยู่ที่ 5 ชั่วโมงต่อข้างและสามารถใช้งานรวมกับกล่องได้ที่ 24 ชั่วโมง ถือว่าเยอะพอสมควร ดังนั้นถ้าใครอยากได้หูฟังแบตฯอึด รุ่นนี้ถือว่าเลือกได้อยู่เพราะให้ที่เก็บพลังงานเยอะเหมือนกันนะครับ
สรุปหลังทดลองฟัง Samsung Galaxy Buds3 / Buds3 Pro
โดยรวมแล้วหูฟังของ Samsung Galaxy Buds3 และ Galaxy Buds3 Pro เป็นหูฟังที่ครบเครื่องและเน้นเรื่องความคุ้มค่าและใส่สบายและยังมาพร้อมกับการปรับปรุงจากรุ่นเดิมแบบใหม่หมด เพื่อให้เสียงดีขึ้นและขนาดที่ใส่สะดวกกว่าเดิม แม้รูปทรงอาจจะยังไม่เป็นตัวเองสักเท่าไหร่ก็ตาม แต่ภาพรวมแล้วถือว่าเป็นการพัฒนาที่ดี
ราคาเปิดตัว
- Samsung Galaxy Buds 3 = 5,490 บาท
- Samsung Gaalxy Buds3 Pro = 7,490 บาท
Samsung Galaxy Buds3 / Buds3 Pro เหมาะกับใคร
สุดท้ายครับกับการบอกว่าหูฟังรุ่นนี้เหมาะกับใคร ต้องบอกแบบชัดเจนไปเลยว่าถ้าคุณเน้นการใส่สบายและใช้คล่องๆ Galaxy Buds3 ตอบโจทย์กว่า แต่ถ้าเป็น Galaxy Buds3 Pro จะเน้นเรื่องคุณภาพเสียงเป็นหลักเพราะใช้งานได้ยาวเน้นกระชับกว่า นี่เป็นอีกทางเลือกที่น่าใช้ครับ
อัลบั้มภาพ 22 ภาพ