รีวิว "Sony Xperia 10 VI" รุ่นเล็กที่ใช้งานง่ายกว่าเดิม สเปกใหม่กว่าเดิม
Sony Xperia 10 Series เป็นมือถือหนึ่งที่พัฒนามาเรื่อยๆ และล่าสุดมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่อาจจะไม่ได้ใช้งานง่ายมากนัก ในงบอยู่ประมาณ หมื่นกลาง สำหรับรอบนี้เรามาดูกันว่า Xperia 10 VI ใหม่ล่าสุดนี้มันจะน่าสนใจแค่ไหน รีวิวจาก Sanook Hitech จะพาคุณมาพบกับการเจาะลึกกับมือถือรุ่นนี้กัน
สเปก Sony Xperia 10 VI
- ขนาด : 155 x 68 x 8.3 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 165 กรัม
- หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว OLED ความละเอียด Full HD+ Refresh Rate 60 Hz อัตราส่วน 21:9
- กระจก Gorilla Glass Victus
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- บอดี้ด้านหลังเป็นแบบพลาสติก และเป็นแบบรีไซเคิล
- ขุมพลัง Snapdragon 6 Gen 1
- RAM 8GB
- เพิ่มความจำผ่าน MicroSD ได้
- ความจำภายใน 128GB
- การเชื่อมต่อ : 5G, Wi-Fi AC, Bluetooth 5.2
- ลำโพงคู่บน / ล่าง
- พอร์ต : USB-C + ช่องเสียบหูฟัง
- กล้องของ Xperia 10 VI มีดังนี้
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล + PDAF + OIS รองรับการซูม 2x In Sensor Zoom
- กล้องมุมกว้าง 16 มิลลิเมตร ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K
- แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 30W
- กันน้ำ IP68
- ได้ใช้ Android 14 อัปเดตทั้งหมด 3 ปี และ Patch ความปลอดภัย 4 ปี
- สีสัน ดำ, ฟ้า
ดีไซน์ของ Sony Xperia 10 VI
บอกตรงๆ ว่า หน้าตาของ Sony Xperia 10 VI จะคล้ายกับรุ่นหลักๆ ของ Sony Xperia 10 แทบจะทุกรุ่นโดยมาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้วอัตราส่วน 21:9 แบบ Cinema View เว้นกรอบด้านบนมีกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลมาให้ โดยรุ่นนี้ได้ลำโพงคู่แล้ว ทั้งด้านบนและล่าง แต่ความดังยังให้นำหนักทางด้านล่างมากกว่า
รอบตัวเครื่องบางเฉียบที่ 8.3 มิลลิเมตร มีครบทั้งฝั่งซ้ายมีช่องใส่ซิมการ์ดที่สามารถพลิกมาใส่ SIM 2 หรือ MicroSD
อีกฝั่งมีปุ่ม Power ที่เป็นได้ทั้งปุ่มสแกนลายนิ้วมือ และปุ่มเพิ่ม / ลดระดับเสียง
ส่วนบนมีช่องเสียบหูฟัง และไมโครโฟน
ส่วนล่างมี USB-C และไมโครโฟนหลัก
ด้านหลังมาแบบทรงเรียบ พร้อมกับ NFC แต่ไม่ได้รองรับระบบชาร์จ ผิวเป็นแบบด้านแต่ก็กลัวจะเป็นรอยง่าย ประเทศไทยขายแค่สีฟ้า และสีดำ ตรงกล้องออกแบบใหม่เหมือนกับ Xperia 5 V โดยกล้องคู่เหมือนเดิม และ LED Flash
น้ำหนัก / การจับถือ
ด้วยจุดเด่นของ Xperia 10 VI คือน้ำหนักเบามากเพียง 165 กรัมเท่านั้น กลายเป็นอีกมือถือที่โดดเด่นในเรื่องการจับถือ แต่ด้วยความที่ทรงยาวเหมือนกับรีโมทก็อาจจะต้องวัดดวงกันว่ามันเหมาะกับคุณไหม เพราะตำแหน่งการพิมพ์ข้อความ มันจะแคบและกดยากในบางจังหวะ แต่พอแนวนอนดูหนังกลับกลายเป็นสนุกไปเลย
การแสดงผลภาพ / เสียง
การแสดงผลหน้าจอ OLED ของมือถือตัวนี้ก็ยังทำได้ดีคมชัดและสามารถปรับโหมดการแสดงผลหน้าจอได้ 2 รูปแบบ จะเลือกว่าสีสดมากหรือสีปานกลางก็ทำได้ แต่คอเกมอาจจะยังไม่ถูกใจสิ่งนี้ ถ้าจะบอกว่าหน้าจอยังมี Refresh Rate แค่ 60 FPS
ส่วนระบบเสียงรุ่นนี้ถือว่าดังเพราะมีลำโพงด้านหน้าทำให้ไม่มีอะไรบังได้ง่ายและยังรองรับเทคโนโลยีของ Sony มาแบบครบ ยกเว้น Hi-Res ที่ยังไม่รองรับ
ประสิทธิภาพ / การเชื่อมต่อ / การใช้พลังงาน
เรื่องดีที่ Sony Xperia 10 VI อีกจุดคือการเปลี่ยนขุมพลังมาใช้ Snapdragon 6 Gen 1 ที่ใหม่และทันสมัยช่วยให้ประสิทธิภาพและการเล่นเกมของมือถือรุ่นนี้กลับทำได้ดีขึ้นแบบชัดเจน การจัดการความร้อนด้วย CPU ที่ไม่ได้เป็นรุ่นใหญ่เน้นการใช้งานทั่วไป ช่วยทำให้การเล่นเกมนั้นเพลิดเพลินอยู่ครับ
การเชื่อมต่อมาครบทั้ง 5G, Wi-Fi AC, Bluetooth 5.2 และ การใช้นำทางรุ่นนี้บอกพิกัดได้ตรง
และแบตเตอรี่กับขนาด 5000 mAh ด้วยขุมพลังที่ไม่ได้เน้นการกินไฟมากนักทำให้สามารถลากใช้งานได้สบายๆ ผมสามารถใช้มือถือรุ่นนี้ได้นานสุด 2 วันแบบไม่ต้องชาร์จ และยังมีโหมด Stamina Mode ปรับการใช้งาน ระบบดูแลแบตเตอรี่มาครบ แต่ถ้าเป็นการใช้งานหนักพบว่า จาก 100 – 19% ก็ยังใช้เวลา 12:49 ชั่วโมง
ระบบการชาร์จไฟรองรับแบบสายเท่านั้น กำลัง 30W สามารถหา Adapter แบบทั่วไปใช้ได้เลย
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายใน / ฟีเจอร์กล้อง
Sony Xperia 10 VI มาพร้อมกับ Android 14 แต่ไม่ได้มีการปรับแต่งมากมายนัก แต่สามารถใช้งานที่ปรับแต่งเพื่อให้แยกออกเป็นของตัวเอง ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็เน้นการใช้งานทั่วไปเท่านั้น ทั้งหมดสามารถดาวน์โหลดผ่าน Google Play Store เพิ่มลูกเล่นได้
ส่วนโหมดของกล้องใน Sony Xperia 10 VI มีแค่โหมดเดียวทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายมากขึ้นด้วยกันครับ
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
(กล้องหน้า)
(กล้องหลัง)
มีต่อใน Gallery
สรุปหลังลอง Sony Xperia 10 VI มาสักพักหนึ่ง
Sony Xperia 10 VI ถือว่าเป็นมือถือรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ Android 14 และยังสามารถอัปเดตได้ 2 ปี พร้อมกับลูกเล่นเรียบง่าย และเน้นคนที่รักกับแบรนด์นี้ และต้องการมือถือที่ใช้คำว่า ไม่ต้องติดตั้งอะไรเยอะ เน้นความลื่นไหล และถ้าคนที่ชอบมือถือ Sony และไปเล่นที่หน้าร้านก็สามารถเลือกได้ครับ
แต่ราคาของเครื่องเมื่อเปิดตัวอยู่ที่ 16,990 บาท อาจจะสูงไปหน่อยและช่วง Pre-Order จะมีราคาถูกกว่าเพียง 13,990 บาท ทำให้น่าซื้อมากขึ้น นั่นเอง
อัลบั้มภาพ 21 ภาพ