เหตุผลที่มือถือดับก่อนที่แบตฯ จะเหลือ 0%

เหตุผลที่มือถือดับก่อนที่แบตฯ จะเหลือ 0%

เหตุผลที่มือถือดับก่อนที่แบตฯ จะเหลือ 0%
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายคนคงเคยเจอเหตุการณ์ มือถือดับเอง ทั้งๆ ที่แบตเตอรี่ยังเหลืออยู่ ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมไม่รอให้แบตฯ หมด 0% ก่อนถึงจะดับ? จริงๆ แล้ว เบื้องหลังการดับของมือถือ มีปัจจัยซ่อนอยู่อีกมากมาย ไม่ใช่แค่แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงอย่างเดียว!

1. กลไกปกป้องตัวเองของโทรศัพท์

โทรศัพท์มือถือยุคใหม่ มาพร้อมระบบป้องกันอัจฉริยะ เปรียบเสมือน "เซฟตี้คัท" เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด (ราวๆ 2-5%) ระบบจะสั่งปิดเครื่องทันที เพื่อป้องกันความเสียหายจากการใช้แบตฯ จนหมดเกลี้ยง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่ออายุการใช้งานในระยะยาว

2. อุณหภูมิสูงเกิน

การใช้งานหนักๆ เล่นเกม ดูหนัง หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัด ล้วนทำให้โทรศัพท์มีอุณหภูมิสูงขึ้น เมื่อถึงจุดวิกฤต ระบบจะตัดการทำงาน ปิดเครื่องเองโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชิ้นส่วนภายใน

batch_20241107_213512

3. ซอฟต์แวร์มีปัญหา

บางครั้ง ซอฟต์แวร์ หรือแอปพลิเคชันเกิดข้อผิดพลาด ก็ทำให้มือถือดับเองได้ เช่น แอปฯ เกิดบั๊ก ระบบปฏิบัติการขัดข้อง หรือมีไวรัส

4. แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ

แบตเตอรี่ก็เหมือนชิ้นส่วนอื่นๆ มีอายุการใช้งานจำกัด เมื่อเสื่อมสภาพ ความจุในการเก็บไฟจะลดลง ส่งผลให้โทรศัพท์ดับเร็ว แม้เปอร์เซ็นต์แบตฯ ที่แสดงจะยังไม่ถึง 0% ก็ตาม

ข้อควรรู้: การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงบ่อยๆ เป็น "ภัยเงียบ" ที่ทำร้ายแบตเตอรี่ ทำให้เสื่อมเร็ว ดังนั้น ควรชาร์จแบตฯ ก่อนหมด และหลีกเลี่ยงการใช้งานขณะแบตฯ ใกล้หมดจะดีที่สุดและควรสังเกตสิ่งเหล่านี้ไปด้วยนั่นคือ

  • หากมือถือดับเองบ่อยๆ ทั้งที่แบตฯ ยังเหลือเยอะ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าแบตเตอรี่เสื่อม ควรนำไปตรวจเช็ค
  • ควรอัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เพื่อป้องกันข้อผิดพลาด และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
  • หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ร้อนจัด หรือใช้งานหนักต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook