iOS 18.2 มาแล้ว! อัดแน่นฟีเจอร์ใหม่จาก Apple Intelligence เพียบ!

iOS 18.2 อัปเดตครั้งใหญ่ครั้งที่สองของ iOS 18 มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมายจาก Apple Intelligence ไม่ว่าจะเป็น Image Playground, Genmoji รวมถึงการผสาน ChatGPT เข้ากับ Siri และการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ เรามาดูว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง

วิธีการอัปเดต iOS 18.2

สำหรับคนที่ใช้งาน iPhone หรือ iPad อยู่สามารถเข้าไปอัปเดตที่ Setting (ตั้งค่า) > General (การตั้งค่าทั่วไป) > Software Update (ซอฟต์แวร์ อัปเดต)

iOS 18.2 มีอะไรใหม่

Apple Intelligence

• Image Playground: สร้างรูปภาพสไตล์ต่างๆ ได้ตามใจ ทั้งจากข้อความหรือรูปภาพของคุณและเพื่อนๆ ใช้งานได้ทั้งในแอป Image Playground และ Messages
• Image Wand: เพิ่มรูปภาพลงในโน้ต โดย iPad สามารถใช้ Apple Pencil สร้างภาพร่างคร่าวๆ แล้วให้ Image Wand แปลงเป็นภาพที่สวยงามได้
• Genmoji: สร้างอิโมจิของคุณเองในแบบที่ไม่เหมือนใคร คล้ายกับ Image Playground แต่มีขนาดเล็กเท่าอิโมจิ ผู้ใช้ iOS 18.1 สามารถดู Genmoji ได้ แต่จะสร้างได้เฉพาะใน iOS 18.2 เท่านั้น
• Siri + ChatGPT: Siri สามารถส่งคำขอไปยัง ChatGPT ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชี ChatGPT และสามารถเลือกเปิด/ปิดฟีเจอร์นี้ได้ตามต้องการ ChatGPT มีข้อมูลที่ทันสมัยกว่า Siri และยังสามารถสร้างรูปภาพและข้อความได้อีกด้วย
• Visual Intelligence: iPhone 16 สามารถระบุวัตถุและสถานที่รอบตัวคุณได้ เพียงกดปุ่มควบคุมกล้องค้างไว้ จากนั้นเล็ง iPhone ไปที่วัตถุหรือสถานที่นั้นๆ คุณก็สามารถดูข้อมูลต่างๆ เช่น เวลาทำการ รีวิวร้านอาหาร คัดลอกข้อความ อ่านออกเสียงข้อความ ค้นหาข้อมูลใน Google หรือถามคำถามเกี่ยวกับวัตถุนั้นๆ กับ ChatGPT ได้
• Writing Tools: ฟีเจอร์ Rewrite Writing Tools ไม่จำกัดแค่ 3 สไตล์อีกต่อไป คุณสามารถกำหนดโทนหรือเนื้อหาที่ต้องการได้ เช่น เพิ่มคำที่น่าสนใจ หรือเปลี่ยนอีเมลเป็นบทกวี
• รองรับภาษาเพิ่มเติม: Apple Intelligence รองรับภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ และสหราชอาณาจักร นอกเหนือจากภาษาอังกฤษแบบสหรัฐอเมริกา

 

iOS 18.2 ฟีเจอร์ใหม่ อื่นๆ

อย่างที่บอกครับว่า Apple Intelligence จะใช้ได้แค่ภาษาอังกฤษแบบ อเมริกัน ก่อน แต่ฟีเจอร์อื่นๆ ก็มีการเพิ่มเติมดังนี้

• Camera Control: iPhone 16 มีตัวเลือกในการล็อคค่าแสงและโฟกัสอัตโนมัติ รวมถึงปรับความเร็วในการดับเบิลคลิก และยังรองรับ Visual Intelligence อีกด้วย
• แอป Mail: มีหมวดหมู่ใหม่ๆ สำหรับแยกอีเมลสำคัญ ข้อเสนอพิเศษ จดหมายข่าว อีเมลธุรกรรม และอื่นๆ โดยใช้ Apple Intelligence ช่วยจัดหมวดหมู่
• แอป Photos: ปรับปรุงเครื่องเล่นวิดีโอให้เต็มหน้าจอมากขึ้น สามารถเลื่อนดูวิดีโอแบบเฟรมต่อเฟรม และปิดการเล่นวิดีโอแบบวนซ้ำอัตโนมัติได้
• Safari: มีตัวเลือก "คำเตือนการเชื่อมต่อที่ไม่ปลอดภัย" แจ้งเตือนเมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ที่ไม่มีใบรับรอง SSL ที่ถูกต้อง และมีส่วนใหม่สำหรับจัดการข้อมูลและประวัติเว็บไซต์
• Voice Memos: สามารถบันทึกเสียงแบบสองแทร็กซ้อนกันได้ พร้อมตัวเลือกในการแยกเลเยอร์และแก้ไขการมิกซ์เลเยอร์
• Find My: มีตัวเลือกใหม่ "แชร์ตำแหน่งของรายการ" เพื่อช่วยคุณค้นหาสิ่งของที่สูญหาย โดยสร้างลิงก์ที่อนุญาตให้ผู้อื่นดูตำแหน่งของรายการที่สูญหายได้
• Apple Music: รองรับการค้นหาด้วยภาษาธรรมชาติ เช่น "เพลงเกี่ยวกับแมว" "เพลงเศร้ายุค 80" "เพลงเกี่ยวกับอาหาร"
• Apple TV: ค้นหาคอนเทนต์ด้วยภาษาธรรมชาติ เช่น "ภาพยนตร์เกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ" "ภาพยนตร์ที่มีแมว"
• Podcasts: สามารถเพิ่มหมวดหมู่โปรด และดูหมวดหมู่ในคลังเพื่อนำทางไปยังรายการและตอนต่างๆ ได้
• Apple News+: สมาชิก Apple News+ ในสหรัฐอเมริกา สามารถเล่นเกม Sudoku ปริศนาอักษรไขว้ และเกมอื่นๆ ได้
• Stocks: แสดงราคาหุ้นก่อนเปิดตลาด สำหรับ NASDAQ และ NYSE
• AirPods Pro: เพิ่มการทดสอบการได้ยิน และขยายฟีเจอร์เครื่องช่วยฟังไปยังประเทศต่างๆ

และอื่นๆ อีกมากมาย:

• EU App Changes: ผู้ใช้ในสหภาพยุโรป สามารถลบแอปหลักๆ เช่น App Store, Safari, Messages, Camera และ Photos ได้
• Default Apps: มีส่วน "แอปเริ่มต้น" สำหรับจัดการแอปเริ่มต้นของ iPhone
• Volume Limit: จำกัดระดับเสียงสูงสุดของลำโพง iPhone
• Control Center: เพิ่มตัวเลือกเข้าถึง "พิมพ์ข้อความถึง Siri" และปรับไอคอน Adaptive Audio

การแก้ไขข้อบกพร่อง

นอกจากการเพิ่มลูกเล่นและการปรับปรุงรายละเอียดต่างๆ แล้วยังมาพร้อมกับการแก้บั๊กหรือข้อบกพร่องเช่น

• แก้ไขปัญหาภาพถ่ายที่ถ่ายไม่ปรากฏในกริด "รูปภาพทั้งหมด" ทันที
• แก้ไขปัญหาภาพถ่ายโหมดกลางคืนที่ดูด้อยคุณภาพลงเมื่อถ่ายภาพแบบเปิดรับแสงนาน