อุตสาหกรรมเทคโนโลยีในยุโรปผนึกกำลัง เรียกร้อง EU เร่งเครื่องลดพึ่งพา Big Tech ต่างชาติ
Thailand Web Stat

อุตสาหกรรมเทคโนโลยีในยุโรปผนึกกำลัง เรียกร้อง EU เร่งเครื่องลดพึ่งพา Big Tech ต่างชาติ

อุตสาหกรรมเทคโนโลยีในยุโรปผนึกกำลัง เรียกร้อง EU เร่งเครื่องลดพึ่งพา Big Tech ต่างชาติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของยุโรปกว่า 80 แห่ง (เป็นตัวแทนราว 100 องค์กร) ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธานคณะกรรมาธิการยุโรปและหัวหน้าฝ่ายดิจิทัล เรียกร้องให้สหภาพยุโรป (EU) ดำเนิน "มาตรการขั้นเด็ดขาด"

เพื่อลดการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานและบริการดิจิทัลจากต่างชาติ โดยมุ่งหวังที่จะเสริมสร้างเศรษฐกิจ ความแข็งแกร่ง และความมั่นคงของภูมิภาค ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ผันผวน

เนื้อหาในจดหมายระบุว่า EU ควรปรับแนวทางการสนับสนุน โดยเน้นส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีทางเลือกที่พัฒนาในยุโรปเอง ซึ่งมีศักยภาพทางการค้าสูง ตั้งแต่แอปพลิเคชัน แพลตฟอร์ม โมเดล AI ไปจนถึงชิป คอมพิวเตอร์ พื้นที่จัดเก็บข้อมูล และการเชื่อมต่อ

บริษัทต่างๆ ในหลากหลายภาคส่วน เช่น คลาวด์ โทรคมนาคม การป้องกันประเทศ รวมถึงสมาคมธุรกิจและสตาร์ทอัพระดับภูมิภาค ได้ร่วมลงนามในจดหมายฉบับนี้ โดยเสนอให้ EU เปลี่ยนกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีไปสู่ "สถานะกึ่งสงคราม" และมุ่งมั่นที่จะสนับสนุน "โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีอำนาจอธิปไตย"

แผนดังกล่าวผลักดันให้ลดการพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่จากต่างชาติ (Big Tech) โดยส่งเสริมการพัฒนาสิ่งที่เรียกว่า "Euro stack" อย่างจริงจัง ข้อเสนอนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มีรากฐานมาจากเอกสาร "Euro Stack" ที่เผยแพร่เมื่อเดือนมกราคม ซึ่งให้รายละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์นี้

นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยในวงกว้างในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา เกี่ยวกับโอกาสที่ยุโรปจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่แน่นอนนี้ เพื่อผลักดันให้ EU นำกลยุทธ์อุตสาหกรรมดิจิทัลที่เน้นการสนับสนุนนวัตกรรมในท้องถิ่นมาใช้

การเรียกร้องให้ "ยุโรปต้องมาก่อน" ในด้านเทคโนโลยี ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทต่างๆ เช่น Airbus, OVHCloud และ Proton เกิดขึ้นหลังจากการประชุมความมั่นคงมิวนิก ซึ่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อยุโรป ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของระเบียบโลก และสิ่งที่สหรัฐฯ อาจทำภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์

ความกังวลหลักคือโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่สำคัญ ซึ่งเป็นเจ้าของและดำเนินการโดยบริษัทในสหรัฐฯ อาจไม่น่าไว้วางใจสำหรับยุโรป หากคำสั่งประธานาธิบดีสามารถบังคับให้บริษัทสหรัฐฯ หยุดให้บริการหรือตัดขาดห่วงโซ่อุปทานได้โดยง่าย

Wolfgang Oels ผู้บริหารระดับสูงของ Ecosia กล่าวว่า "ลองจินตนาการถึงยุโรปที่ไม่มีการค้นหาทางอินเทอร์เน็ต อีเมล หรือซอฟต์แวร์สำนักงาน มันจะหมายถึงการล่มสลายอย่างสมบูรณ์ของสังคมของเรา... สิ่งที่คล้ายกันเพิ่งเกิดขึ้นกับยูเครน" เขายังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ยุโรปต้องมีอำนาจอธิปไตยในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ รวมถึงด้านดิจิทัล

ท่าทีล่าสุดของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่งาน AI Action summit ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายของยุโรปว่าเป็นอุปสรรคต่อนวัตกรรมและอำนาจของเทคโนโลยีสหรัฐฯ ยิ่งตอกย้ำความตั้งใจของสหรัฐฯ ในการครองความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลในยุค AI

อย่างไรก็ตาม จดหมายจากภาคอุตสาหกรรมไม่ได้ตอบสนองต่อภัยคุกคามภายนอกเท่านั้น แต่ยังอ้างอิงถึงรายงาน Draghi ปี 2024 เกี่ยวกับความสามารถในการแข่งขันของ EU ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวของภูมิภาค แต่ยังไม่มีมาตรการที่เป็นรูปธรรมมากนัก

กลุ่มพันธมิตรนี้เสนอแนวทางการแก้ไข พร้อมเตือนถึงความเสี่ยงหาก EU ยังคงดำเนินการในลักษณะเดิม โดยระบุว่าหากไม่มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อส่งเสริมความต้องการเทคโนโลยีที่ผลิตในยุโรป มีความเสี่ยงที่บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ จะเข้าครอบครองโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่สำคัญ เช่น คลาวด์คอมพิวติ้ง อย่างสมบูรณ์ และยุโรปจะสูญเสียโอกาสในการเติบโตของนวัตกรรมดิจิทัลและผลิตภาพ

ข้อเสนอหลักคือการให้ EU สนับสนุนการจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ให้บริการในยุโรป (Buy European) เพื่อกระตุ้นความต้องการและปลดล็อกการลงทุน นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้ส่งเสริมความร่วมมือและการรวมกลุ่มระหว่างผู้ให้บริการเทคโนโลยีในยุโรป เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับบริษัทต่างชาติ

ผู้สนับสนุนแนวคิดนี้มองว่า ในโลกที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับ "อเมริกาต้องมาก่อน" การที่ยุโรปยังคงความเป็นกลางในการลงทุนทรัพยากรนั้นดูเหมือนจะเป็นแนวคิดที่ล้าสมัย และยุโรปจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการสนับสนุนเทคโนโลยีของตนเอง เพื่อความมั่นคงและอนาคตของภูมิภาค

ผลกระทบหากเรื่องนี้เป็นจริง

ผลกระทบที่อาจเป็นไปในทางที่ดีสำหรับประเทศไทย

  • โอกาสในการเรียนรู้และร่วมมือ: หาก EU ประสบความสำเร็จในการสร้างระบบนิเวศเทคโนโลยีของตนเอง จะเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับประเทศไทยในการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศ และอาจมีโอกาสในการร่วมมือหรือแลกเปลี่ยนความรู้กับบริษัทเทคโนโลยีในยุโรปในอนาคต
  • แรงกดดันต่อ Big Tech: การที่ EU พยายามลดอิทธิพลของ Big Tech อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทเหล่านี้ทั่วโลก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความสมดุลมากขึ้นในตลาดดิจิทัล และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นรายอื่น รวมถึงบริษัทไทย มีพื้นที่มากขึ้นในการแข่งขัน
  • ส่งเสริมความหลากหลายของผู้ให้บริการ: หากยุโรปลดการพึ่งพา Big Tech ของสหรัฐฯ ได้สำเร็จ จะเป็นการส่งสัญญาณถึงความสำคัญของการมีผู้ให้บริการเทคโนโลยีที่หลากหลาย ซึ่งอาจเป็นแรงบันดาลใจให้ประเทศไทยพิจารณาการกระจายความเสี่ยงและสนับสนุนผู้ให้บริการเทคโนโลยีในประเทศหรือภูมิภาคอื่น ๆ นอกเหนือจากผู้เล่นหลักจากสหรัฐฯ และจีน

ผลกระทบที่อาจเป็นไปในทางที่ไม่ดีสำหรับประเทศไทย

  • ข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยี: หาก EU มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาในยุโรปเป็นหลัก อาจทำให้บริษัทหรือผู้บริโภคในประเทศไทยมีทางเลือกในการเข้าถึงเทคโนโลยีบางอย่างลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเทคโนโลยีเหล่านั้นเป็นที่นิยมและใช้งานอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
  • ต้นทุนที่อาจสูงขึ้น: การเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีทางเลือก (หากมีผลกระทบต่อการเข้าถึงเทคโนโลยีปัจจุบัน) อาจมีต้นทุนที่สูงขึ้นสำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทย ทั้งในด้านการปรับตัว การเรียนรู้ และค่าใช้จ่ายในการใช้งาน
  • ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้า: หากมาตรการของ EU ถูกมองว่าเป็นการกีดกันทางการค้า อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่าง EU กับประเทศอื่น ๆ รวมถึงประเทศไทยได้
  • การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในตลาดอื่น: หากบริษัทเทคโนโลยีจากยุโรปได้รับการสนับสนุนให้เติบโตในภูมิภาคของตนเอง อาจทำให้บริษัทเหล่านี้กลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งขึ้นในตลาดอื่น ๆ รวมถึงตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประเทศไทยก็เป็นส่วนหนึ่ง

อย่างไรีก็ตาม ข่าวนี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในภูมิทัศน์เทคโนโลยีโลก การที่ยุโรปพยายามสร้างความแข็งแกร่งให้กับเทคโนโลยีของตนเองอาจนำมาซึ่งโอกาสและความท้าทายสำหรับประเทศไทย การติดตามความเคลื่อนไหวนี้อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้