Apple เล็งนำเข้า iPhone จากอินเดียมากขึ้น หลังเจอศึกภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ

จากรายงานของ The Wall Street Journal ระบุว่า Apple เตรียมปรับกลยุทธ์เพื่อลดผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กำลังประกาศใช้ในเดือนนี้ โดย Apple จะนำเข้า iPhone ไปยังสหรัฐฯ จากประเทศอินเดียมากขึ้น
เนื่องจากภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียอยู่ที่ 26% ซึ่งถือว่าน้อยกว่าภาษีนำเข้าจากจีนที่ 54%, เวียดนาม 46% และไทย 36% ทำให้การนำเข้าจากอินเดียส่งผลกระทบต่อกำไรของ Apple น้อยกว่า
อย่างไรก็ตาม Apple ไม่ได้วางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานครั้งใหญ่ เนื่องจากสถานการณ์ภาษี "มีความไม่แน่นอนมากเกินไป" การนำเข้า iPhone จากอินเดียมากขึ้น จะช่วยชดเชยต้นทุนจากภาษีในจีน และ Apple มองว่านี่เป็นทางออกระยะสั้นในขณะที่พยายามโน้มน้าวให้ทรัมป์ยกเว้นภาษีสำหรับอุปกรณ์ของตน
ซึ่ง Tim Cook ซีอีโอของ Apple เคยประสบความสำเร็จในการได้รับการยกเว้นภาษีในช่วงแรกของการดำรงตำแหน่งของทรัมป์ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะยากกว่า
Apple ได้พยายามเพิ่มกำลังการผลิตในอินเดียมาหลายปีแล้ว และปีนี้คาดว่าจะผลิต iPhone ในอินเดียได้ถึง 25 ล้านเครื่อง การเปลี่ยนเส้นทาง iPhone ที่ผลิตในอินเดียไปยังตลาดสหรัฐฯ จะช่วยให้ Apple ตอบสนองความต้องการ iPhone ในสหรัฐฯ ได้ประมาณ 50% ในปี 2025
ขณะที่ทรัมป์ตั้งภาษีสินค้าจากจีนไว้ที่ 54% เขายังกล่าวอีกว่าอาจจะเพิ่มภาษีหากจีนไม่ยกเลิกภาษีตอบโต้ 34% ที่ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
รายงานจาก The Wall Street Journal เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่าภาษีปัจจุบันต่อสินค้าจากจีนอาจเพิ่มต้นทุนชิ้นส่วน iPhone ของ Apple อย่างมาก ตัวอย่างเช่น iPhone 16 Pro ที่มีต้นทุน 580 ดอลลาร์ในปัจจุบัน อาจมีต้นทุนเพิ่มขึ้นเป็น 850 ดอลลาร์หากรวมภาษี
ทรัมป์กำลังผลักดันให้บริษัทอย่าง Apple ผลิตอุปกรณ์ของตนในสหรัฐฯ แต่สิ่งนี้ไม่สามารถทำได้จริง เนื่องจาก Apple จ่ายภาษีถูกกว่าการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่ไม่มีแรงงานที่มีทักษะเพียงพอสำหรับการผลิตขั้นสูงที่ Apple ต้องการ
ก่อนหน้านี้ Apple ได้ประกาศแผนการลงทุน 5 แสนล้านดอลลาร์ในการผลิตในสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างเซิร์ฟเวอร์ Apple Intelligence และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีความต้องการต่ำกว่า
Apple อาจใช้กลยุทธ์อื่นๆ เพื่อรับมือกับภาษี เช่น การกดดันซัพพลายเออร์ให้ลดราคา และแบกรับต้นทุนบางส่วน แต่มีความเป็นไปได้สูงที่ Apple จะขึ้นราคาในอนาคตอันใกล้นี้
แผนภาษีของทรัมป์ส่งผลให้หุ้นร่วงลงอย่างมากในช่วงสามวันที่ผ่านมา โดยหุ้น Apple ร่วงลงเกือบ 20% นับตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา