รีวิว Nokia 7360
สัดส่วนภายนอก
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้เห็นเจ้า ลามูร์ (หากสะกดผิดต้องขออภัย) ก็มีความประทับใจแฟชั่นโฟนชุดใหม่ที่โนเกียส่งออกมาประเดิมตลาดปี 2549 แล้ว เนื่องจากดีไซน์ที่เปี่ยมไปด้วยความแปลกสะดุดตา ยากที่รุ่นไหนจะมาเลียนแบบได้ มาในชุดนี้มีโทนสีหลักอยู่สองสีด้วยคือเหลืองทองและน้ำตาลเข้ม โดยเราจะมาเจาะจงกันที่ 7360 กันก่อนที่จะเกินเลยไปกับเจ้าสองตัวที่เหลือดีกว่า
รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่มีราคาถูกที่สุด แม้ฟังก์ชั่นที่ได้ลองเล่นจะด้อยกว่า ทว่าไม่ต้องห่วงเรื่องการออกแบบเลย เท่าที่ดูจะมีพลาสติกชั้นดีทั้งแบบเงาเหมือนโลหะและแบบด้าน วัสดุคล้ายหนัง และผ้าที่หนีบเอาไว้ข้างเครื่องมีตราเฉพาะที่บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ การประกอบถือว่าเกินมาตรฐานเดิมที่โนเกียเคยทำเอาไว้ในหลายรุ่น ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าส่วนไหนจะหลุดออกมาก๊อกแก๊กได้ ส่วนเรื่องลวดลายก็งามตาแบบหรูหราอลังการ ลายดอกไม้และใบไม้ร้อยเรียงคล้องเข้ากับตัวเครื่องโดยรอบ ทำให้ผู้ที่ได้สัมผัสมิอาจถอนใจออกมาได้โดยง่ายดาย
อย่างไรก็ดี วัสดุที่เป็นสีขาวครีมบนตัวเครื่องเมื่อลูบดูแล้วจะพบว่ามันออกจะสากๆ ตรงนี้เองทำให้เป็นรอยดำได้ง่าย ที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็พวกไส้ดินสอหรือหมึกปากกาที่อย่าเอาไปโดนเชียว มีหวังลบไม่ออกแน่
ชำแหละเครื่องใน
อย่างที่บอกเอาไว้แต่ต้นว่า 7360 จะเน้นหนักไปในเรื่องการขายดีไซน์มากกว่า เนื่องจากดูแล้วโดดเด่นกว่าเครื่องใน แต่เท่าที่มีก็ไม่ได้ขี้เหร่จนเกินไป มีการรวบรวมเอาฟังก์ชั่นที่ตามเทรนด์มาหมดแล้ว หายห่วงได้เลยสำหรับคนที่กำลังจะซื้อ ส่วนแรกอยากพูดถึงเรื่องหน้าจอกันหน่อย รุ่นนี้จะมีคมละเอียดเพิ่มมาจาก 7260 เป็น 128 x 160 พิกเซล หรือขนาดเดียวกับ 7270 ตัวเก่านั่นแหละ เท่าที่มองผ่านแว่นสองตาของกระผมเห็นได้ว่ามีความทัดเทียมกันมาก แถมเมนูด้านในจะมาในรูปแบบใหม่แล้ว ถ้าเคยลองเล่น 6111 มาก็นั่นแหละ ใช่เลย
เสียงเรียกเข้ามีการพัฒนาเพิ่มเติมให้ดีกว่ารุ่นเดิมเช่นกัน เราสามารถใช้ไฟล์เอ็มพีสามมาตั้งเป็นริงโทนได้แล้ว แต่เสียงค่อนข้างจะอู้อี้และก็ติดแหลมจัด ถ้าลองชั่งน้ำหนักด้านคุณภาพเสียงและการได้ยิน ผมให้คะแนนส่วนหลังนี่เต็มไปเลย เพราะเสียงมันเสียดหูดีมาก ไม่ว่าเสียงรอบข้างจะดังขนาดไหน รับรองว่าคุณจะไม่มีทางพลาดรับสายแน่นอน
อย่าลืมว่ารุ่นนี้มีกล้องติดมาให้ด้วย แม้จะเป็นเพียงความละเอียด 3 แสนพิกเซล แต่ก็ยังดีกว่าไม่มี ผมมีโอกาสได้โหลดภาพลงคอมเพื่อดูคุณภาพมาเหมือนกัน น่าจะได้ระดับปานกลาง ถ้าใช้แสงช่วยเยอะๆ ก็พอจะดูได้ในระดับหนึ่ง สำหรับลูกเล่นนั้นมีติดมาให้ไม่มาก อย่างเช่น การถ่ายต่อเนื่อง การตั้งเวลาถ่าย หรือการถ่ายวิดีโอแบบสั้นๆ ก็พอโอเค
ด้านการฟังเพลงนั้นมีวิทยุเอฟเอ็มมารองรับ พร้อมการบันทึกช่องสถานีเพื่อเอาไว้ฟังโดยไม่ต้องไล่ทีละคลื่นเหมือนวิทยุโบราณ
ด้านขวาของตัวเครื่องเราจะเห็นช่องอินฟราเรดเป็นสีดำทึบอยู่ ก็คงไม่ต้องบอกว่าเอาไว้ทำอะไร นั่นเป็นทางเลือกในการเชื่อมต่อเพื่อรับส่งไฟล์ นอกจากนี้ 7360 ยังมีการใช้งานเอดจ์ระดับ 6 ติดมาด้วย
ความเร็วในการถ่ายข้อมูลกับเครือข่ายจึงเร็วกว่าจีพีอาร์เอสระดับ 10 พอสมควร ส่วนเบราเซอร์ที่เอาไว้เล่นอินเตอร์เน็ตเป็นแว็ป 2.0 ครับ
กูรูฟันธง
ยอมรับว่าผมเองเกือบห้ามใจไม่อยู่สอยเจ้านี่มาใช้แล้ว เพราะมันสวยงามจนสะกิดโดนต่อมกิเลสของผมให้ทำงานขึ้าอีกครั้ง ยังดีที่ปิดเอาไว้ทันไม่งั้นมีเสียเงินแน่งานนี้ แต่ความอยากมันยังคงไม่จบ เพราะว่า 7370 ก็มาจอคอหอยมาให้พรีวิวกันแล้ว สำหรับแฟชั่นโฟนชุดใหม่นี้ต้องยอมรับว่าโดดเด่นในเรื่องการออกแบบและการประกอบว่ายอดเยี่ยมเหลือหลาย ฟังก์ชั่นขอให้มองข้ามไปนิดนึง เนื่องจากยังไงมันก็ยึดแน่นกับคำว่า การออกแบบ อยู่อย่างเหนียวแน่น จะไปหวังให้เครื่องในหวานอร่อยคงจะดูเกินไปมั้ง
ข้อดี
การดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และการประกอบที่แข็งแรงและมั่นคง
ใช้ไฟล์เอ็มพีสามเป็นเสียงเรียกเข้าได้
กล้องดิจิตอล 3 แสนพิกเซล
มีวิทยุเอฟเอ็มในตัว
รองรับเอดจ์ระดับ 6
มีอินฟราเรดเพื่อรับส่งไฟล์
ข้อเสีย
วัสดุตรงที่เป็นสีขาวน่าจะเลอะได้ง่าย (เฉพาะตัวเครื่องสีทอง)
จอแสดงผลยังไม่ละเอียดคมชัด
เสียงจากลำโพงออกจะอู้อี้ไปนิดแต่ก็ดังชัดเจน
เมนูยังมีอาการหนืดอยู่นิดหน่อย
หน่วยความจำในเครื่องมีน้อยเกินไป
ราคาจำหน่าย 9,600 บาท
++ รายละเอียดคุณสมบัติของ Nokia 7360
สนับสนุนเนื้อหาโดย