Time ประกาศ Top 10 Gadgets of 2009

Time ประกาศ Top 10 Gadgets of 2009

Time ประกาศ Top 10 Gadgets of 2009
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

  1. Motorola Droid 

"DROID by Motorola" ที่มีคุณสมบัติตามที่คาดไว้ ทบทวนกันอีกทีคือ

    * เป็นโทรศัพท์ตัวแรกที่ใช้ Android 2.0
    * หน้าจอ 3.7" 480x854 WVGA พร้อมระบบสัมผัสแบบ capacitative พร้อมมีคีย์บอร์ดแบบ QWERTY
    * กล้อง 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส และแฟลชแบบ LED สองดวง สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 720x480 ที่ 24 เฟรมต่อวินาที
    * GPS (ใช้โปรแกรมนำทาง Google Maps Navigation)
    * WiFi, Bluetooth
    * หน่วยความจำ 16 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB
    * ขนาด 60x115.8x13.7 มม. น้ำหนัก 169 กรัม
    * แบตเตอรี่ 1400 mAh ใช้ได้นาน 11 วัน คุยได้ต่อเนื่องนาน 6.4 ชม.


จำหน่ายจริงวันที่ 6 พฤศจิกายน สนนราคา 199.99 ดอลลาร์สหรัฐหลังหักส่วนลด มาพร้อมสัญญา 2 ปี โดยมีเฉพาะเครือข่าย Verizon ซึ่งเป็นระบบ CDMA (ตัวเครื่องนั้นใช้ความถี่ 800/1900 EVDO rev.A) สำหรับระบบ GSM นั้นคงต้องดูรูปรอไปพลางๆ ก่อนนะครับ

 2. The Nook




 3. Dyson Air Multiplier


นวัต กรรมใหม่ล่าสุด ไม่รู้เดี๋ยวจะตกข่าว บริษัท Dyson ผู้ผลิตเครื่องดูดฝุ่น ได้สร้างมิติใหม่ของ พัดลมที่ไม่มีใบพัด! ให้ลมที่สมูทและแรงกว่าแบบเก่า โดยหลักการการทำงานคือใช้แรงลมดันมาจากในแกนวงแหวน ปล่อยออกมาแล้วมีลมจากภายนอกช่วยเพิ่มอีกที ทำให้สามารถประหยัดไฟฟ้าได้ถึง 98% ทำความสะอาดก็ง่ายไม่ต้องถอดมาเช็ดให้เหนื่อยอีก ดีไซน์รูปทรงวงกลมๆกลวงๆดูสวยและเรียบง่าย แต่ราคาไม่เรียบง่ายด้วย สุทธิราคา 300 ยูโร

 4. iPhone 3GS


กับ 10 ความสุดยอดที่คุณควรรู้ก่อนซื้อ :
ในที่สุด iPhone 3GS ก็เข้ามาสู่ประเทศไทยโดย TrueMove แล้ว รายละเอียดนั้นสามารถอ่านได้ที่นี่ TrueMove เปิดตัว iPhone 3GS นี่ก็นับเป็นรุ่นที่ 3 สำหรับ iPhone แล้วหลังจากเปิดตัว รุ่นแรกในปี 2007 โดยทาง Apple นั้นได้รับรองว่ารุ่นใหม่นั้นเร็วและทรงพลังกว่า iPhone 3G แน่นอน สิ่งที่เหมือนกันก็มีแค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย ดังนั้นเพื่อเป็นการ โหมกระแส iPhone 3GS เรามารู้จักกับ 10 สิ่งสุดยอดที่คุณควรจะรู้เอาไว้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อกันครับ

 1. มันเร็วขึ้น ทาง Apple นั้นได้ออกมาประกาศเอาไว้ว่ามันเร็วกว่า iPhone 3G ถึง หนึ่งเท่าตัวเลยทีเดียว ส่งผลให้การเรียกใช้งานโปรแกรมต่างๆ ตลอดไปจนถึงการปิดโปรแกรม นั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วไม่อืดอาด ให้เราต้องหงุดหงิด

 2. มีความจุที่เพิ่มขึ้น Apple นั้นจะขาย iPhone 3GS อยู่เพียงสองแบบก็คือแบบ 16GB และ 32GB ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยขายในความจุ 4GB, 8GB และ 16GB เท่านั้น

3. ถ่ายวิดีโอได้ โดยทั่วไปแล้วการที่เราจะทำการถ่ายวิดีโอนั้น เราจำเป็นที่จะต้องหาโปรแกรมเสริมเข้ามาช่วยเพื่อที่จะให้สามารถถ่ายวิดีโอ ได้ เพราะใน iPhone รุ่นก่อนหน้านี้ ไม่มีลูกเล่นนี้ติดมาให้ด้วย แต่ในรุ่นล่าสุดนี้ มันกลายเป็น ลูกเล่นใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้าไป ดังนั้นมันต้องเจ๋งแน่นอน

4. กล้องมีความละเอียดเพิ่มขึ้น ในรุ่นก่อนหน้านี้กล้องที่ติดมากับ iPhone นั้นจะมีความละเอียอดสุงสุดที่ 2 Mega Pixel เท่านั้น แถมยังไม่มีระบบ Auto Focus อีกต่างหาก  แต่ในรุ่น 3GS นี้ กล้องได้ถูกปรับปรุงให้มีความสามารถในการถ่ายภาพได้ถึง

3 Mega Pixel และที่สำคัญก็คือมี “ระบบ Auto Focus” มาให้อีกด้วย

5. ระบบสั่งงานด้วยเสียง (Voice Control) ระบบนี้เป็นสิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ใน iPhone 3GS ลองนึกดูนะครับ มันจะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถสั่งให้มัน เล่นเพลงได้ โดยแค่เรา พูดกรอกลงไปกับเครื่อง  ไม่ต้องกดปุ่มอะไร แค่พูดว่า “เปิดเพลง” ทำนองเนี้ย แจ่มมั้ยละ หรือจะเป็นการโทรออกโดยใช้เสียง นึกอยากจะโทรหาใครก็ แค่ ยก ขึ้นมาแล้วพูดว่า “น้องแนท” แค่นี้ มันก็จะโทรหาน้องแนทให้ ชีวิตเราง่ายขึ้นอีกตั้งเยอะเลยนะเนี้ย

 6. มีเข็มทิศให้ใช้ด้วย นี่คือระบบเข็มทิศแบบดิจิตอล ซึ่งเป็นลูกเล่นใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้ ซึ่งถ้าได้เอามาใช้ร่วมกับ Google Map ละก็มันจะช่วยให้คุณดูแผนที่ได้ง่ายขึ้นมากทีเดียว จะได้ไม่ต้องหลงทิศ อีกต่อไป

7. สามารถแชร์อินเตอร์เนทให้คอมพิวเตอร์ใช้งานได้ ระบบนี้เราจะเรียกมันว่า “Internet Tethering“  ซึ่งมันจะทำตัวมันเองให้ทำงานคล้าย Modem ซึ่งจะเชื่อมต่อผ่านสาย USB หรือจะเป็น Bluetooth ก็ได้ แค่นี้เราก็จะสามารถแชร์เนทไปให้ Mac หรือ PC ที่เราต้องการได้แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่ ท่านใช้งานอยู่ ว่ารับรองกับระบบนี้หรือไม่

8. ความสะดวกในการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ทาง Apple ได้เพิ่มฟังค์ชั่นที่จะช่วยให้เราใช้งานได้สะดวกขึ้น อาทิเช่น ระบบ VoiceOver ที่จะคอยอ่านข้อความที่อยู่บนจอภาพให้ออกมาเป็นเสียง หรือจะเป็นระบบ zoom  ที่ทำให้เรา zoom เข้าไปได้ถึง 5 ครั้ง และระบบปรับสภาพ contrast จออัตโนมัติในกรณีที่ต้องอ่านข้อความสีขาว บนพื้นสีดำ

9. ใช้งาน Nike+ iPod ได้ด้วย โดยก่อนหน้านี้ระบบนี้ได้ถูกนำเข้าไปใช้งานกับ iPod Nano ก่อนแล้ว โดยมันจะใช้งานร่วมกับรองเท้า Nike ที่สนับสนุนการทำงาน Nike+ ซึ่งจะส่งผ่านข้อมูลทาง Bluetooth  ทำให้เรารู้ว่าเราวิ่งได้ระยะทางแค่ไหน เสียพลังงานไปเท่าไหร่ แล้วมันจะตีออกมาเป็นสถิติให้

10. หูฟังแบบใหม่ โดยหูฟังแบบใหม่นี้จะมีปุ่มแบบ multi-button ซึ่งทำให้เราสามารถปรับเสียง ดัง-ค่อย ได้ ซึ่งหูฟังในรุ่นหน้านี้จะไม่สามารถทำได้

5. Canon EOS-1D Mark IV

 

ความฝันที่เห็นลาง ๆ มองแทบไม่เห็นมันเลยในอนาคตของผม อิอิมันอยู่สูงเกินเอื้อมครับ แคนนอนปล่อยให้ทางฝั่งนิคอนแซงหน้าไปไม่นานจาก D3s คราวนี้ก็ถึงคราวตัวใหม่ Canon EOS-1D Mark IV ที่จะวางขายในปลายปีนี้ความสารมารถเด่น ๆ ที่เพิ่มมา คือถ่ายภาพความละเอียด 16.1 พิกเซล ด้วยเซ็นเซอร์ APS-H, ISO 100 – 12,800 ขยายไดจนถึง 102,400 ออโตโฟกัส 45 ชุด เป็นแบบกากบาท 39 จุด ตั้งเองได้ ประมวลผลภาพ Digic IV คู่ ถ่ายวีดีโอ HD 1080p สามารถส่งไฟล์ ผ่านเน็ตเวิร์คไร้สาย 802.11a/b/g ได้

ราคาราว 167,xxx บาท

 6. Dell Adamo XPS

ในบรรดาโน้ตบุ๊ก (Notebook) ที่มีการกล่าวขวัญมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา เห็นจะหนีไม่พ้น Dell Adamo XPS โน้ตบุ๊ที่ได้ชื่อว่า มีดีไซน์ที่สวยงาม และบางเบาที่สุดอีกด้วย ล่าสุดโน้ตบุ๊กที่หลายคนใฝ่ฝันอยากได้เป็นเจ้าของ ก็ได้เวลาเปิดตัวสักที พร้อมสเป็กที่มีความชัดเจนสักที หลังจากที่มีการเดากันไปต่างๆ นาๆ มากมาย

Dell Adamo XPS มีความหนาแค่เพียง 0.4 นิ้ว เวลาเปิดฝาพับหน้าจอขึ้นมา คีย์บอร์ดจะถูกยกให้ลาดเอียงลงมา แทนการวางแบนราบเหมือนโน้ตบุ๊กทั่วไป ทั้งนี้หน้าจอขนาด 13.4 นิ้ว จะตั้งอยู่บนส่วนที่เป็นแบตเตอรี่ดังรูป Dell Adamo XPS จะไม่มีสวิทช์เลื่อน หรือกด เพื่อเปิดฝาพับหน้าจอ แต่จะใช้นิ้วรูดสัมผัสเบาๆ บริเวณด้านหน้า ความร้อนจะทำให้เซ็นเซอร์ปลดล็อค หน้าจอจะยกตัวขึ้นมาตั้งพร้อมๆ กับคีย์บอร์ดที่ถูกยกขึ้นให้ลาดเอียงอย่างช้าๆ โดยอัตโนมัติ น้ำหนักของตัวเครื่องอยู่ที่ 3 ปอนด์เท่านั้น มาดูสเป็กภายในกันบ้าง Dell Adamo XPS เลือกใช้โพรเซสเซอร์เป็น Intel ULV 1.4GHZ หน่วยความจำ DDR3 4GB และ SSD 128GB ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 7 64 บิต ประเด็นที่น่าแปลกใจก็คือ แม้จะใช้โพรเซสเซอร์ประหยัดพลังงาน แต่แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องแค่เพียง 2 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น สนนราคา 1,800 เหรียญฯ หรือประมาณ 60,000 บาท...อุ๊ปส์


7.  The FinePix REAL 3D W1 กล้อง 3 มิติ ตัวแรกของโลก

FinePix Real 3D W1 กล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ล่าสุดจากฟูจิฟิล์ม ที่สามารถถ่ายภาพสามมิติได้ ซึ่งมีกำหนดวางตลาดในญี่ปุ่นวันที่ 8 สิงหาคม ศกนี้  โดยจะมาพร้อมกับ FinePix Real 3D V1 กรอบรูปดิจิตอล 3 มิติที่มีขนาด 8 นิ้ว  สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 100,000 เยน (ประมาณ 36,000 บาท)  โห...ราคาแพงไม่เบาเลยนะเนี่ย!!!

สำหรับตัวกล้องจะมีโหมดในการถ่ายภาพ 3D ให้เลือก 2 โหมดด้วยกันคือ  3D double shooting และ 3D time-interval difference shooting โดย


โหมดแรกการสร้างภาพ 3 มิติ กล้องจะทำการถ่ายภาพที่สองหลังจากภาพแรก และรวมภาพทั้งสอง เพื่อสร้างเป็นภาพสามมิติจากภายในกล้อง "ผู้ใช้สามารถแก้ไขความลึกตึ้นของภาพสามมิติที่ถ่ายได้อีกด้วย อีกทั้งยังสามารถถ่ายภาพสามมิติได้จากภาพที่ซูมจากระยะไกล (long zoom telephoto) และภาพที่ถ่ายในระยะใกล้(macro shot) ซึ่งภาพถ่ายทั้งสองลักษณะนี้จะทำให้ได้ภาพสามมิติที่มีความชัดเจนของมิติใน การมองเห็นมากกว่าด้วย"

โหมดที่สอง 3D Interval Shooting จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพไม่พร้อมกัน เพื่อให้ได้มุมมองที่แตกต่างและต่อเนื่อง อย่างเช่น การถ่ายภาพในขณะที่ผุู้ถ่ายกำลังเคลื่อนที่เช่น อยู่ในรถไฟ หรือรถยนต์ ซึ่งภาพถ่ายสามมิติที่ได้จะมีลักษณะของมุมมองที่กว้างขึ้นตามช่วงเวลาของการ ถ่ายภาพ เช่น คุณสามารถมองเห็นภาพถ่ายของกำแพงโค้งจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งต่อ เนื่องภายในภาพถ่ายสามมิติเพียงภาพเดียว "ฟังก์ชัน Parallax Control จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งภาพ 3 มิติได้ทั้งระหว่างถ่ายวิดีโอ หรือขณะกำลังมองภาพผ่านมอนิเตอร์ LCD ด้วยขั้นตอนการใช้ที่ง่ายนี้จะทำให้เจ้าของกล้องสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ กับผลงานภาพถ่ายสามมิติของตนเองได้"
หัวใจ ของกล้องรุ่นนี้อยู่ที่ Real 3D Lens System (ระบบเลนส์สามมิติ) ซึ่งประกอบด้วยเลนส์ Fujinon 2 ชุด และหน่วยประมวลผลภาพถ่ายสามมิติ RP (Real Photo) 3D Processor โดยทางฟูจิฟิล์มกล่าว่า เทคโนโลยีนีได้รับการพัฒนาเรือยมาตั้งแต่สองปีที่แล้ว

ซึ่งมันสามารถซิงค์ข้อมูลที่ส่งผ่านเข้ามาจากเซ็นเซอร์ CCD 2 ตัว เพื่อสร้างภาพที่มีความสมมาตรในมุมมอง 3 มิติได้ในภาพเดียว ทางบริษัทยังแนะนำอีกว่า FinePix Real 3D W1 มีการใช้เทคนิคถ่ายภาพสามมิติด้วยวิธีง่ายๆ ที่เกิดจากการใช้ภาพ 2 มิติอีกด้วย (เข้าใจว่าเป็นเทคนิค Stereoscopic ทีเป็นการซ้อนภาพเหลื่อมสองตาด้วยสี หรือแสงที่แตกต่างกัน) โดยโหมด Advanced 2D จะสามารถถ่ายภาพสองช็อตพร้อมกัน (แต่มุมมองจะต่างกัน) ได้ด้วยการกดปุ่มชัตเตอร์เพียงครั้งเดียว ในขณะที่โหมด Tele+Wide Shooting จะทำให้สามารถถ่ายภาพในลักษณะดึงภาพเข้ามาใกล้พร้อมกับเก็บภาพกว้างได้พร้อม กันอีกด้วย ซึ่งทำให้ได้ภาพที่แปลกตา แต่ถ่ายได้ง่ายดาย ดูแล้วน่าเล่นจริงๆ เลย

8. Casio G-Shock GW7900B-1


9. Beats Solo by Dr. Dre

Beats Solo ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กและเบากว่าหูฟังทั่วไป หูฟังรุ่นนี้พวกเขาจะออกแบบมาเน้นให้พกพาได้สะดวกยิ่งขึ้นเพื่อให้คุณสามารถใช้ขณะเดินทาง ด้วยขนาดเล็กและเบา คุณภาพเสียงสูง ประกอบด้วย 2 สี ขาวและดำ
สำหรับราคาอยู่ที่ $ 219.95.

10. Panasonic G10 Series Plasma HDTVs


Panasonic VIERA G10 Series มีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 54 นิ้ว TC-P54G10 50 นิ้ว TC-P50G10, 46 นิ้ว TC-P46G10 และ 42 นิ้ว

คุณสมบัติเด่น

  •  Full HD (1080p)
  • VIERA   รับรอง Display
  • การใช้พลังงานอย่าง NEO
  •  เทคโนโลยีการแสดงผลพีดีพี.

 


 

 

 

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook