Garmin-Asus รุ่นใหม่ M10 เผยโฉมจริงแบบเต็มๆแล้ว
ใกล้ เข้ามาเต็มทีแล้วครับสำหรับ Garmin-Asus ตัวใหม่ล่าสุดที่มีแผนจะวางแผง เอ๊ย วางตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้กับเครื่องรุ่นถัดมาของ Garmin-Asus ซึ่งเป็นตัวต่อจาก M20 ที่ออกชิมลางในตลาดเมืองไทยไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยเครื่องรุ่นใหม่นี้มีการปรับปรุงทั้งเรื่องการออกแบบ และ Spec ต่างๆให้น่าใช้มากขึ้น เช่น จอเป็นจอขนาดใหญ่ 3.5 นิ้วแบบ WVGA มีหน่วยความจำในตัวมากถึง 4 GB มาพร้อมกับ CPU ขนาด 600 MHz และกล้อง 5 ล้านพิกเซล
รุ่น M10 นี้ในต่างปรเทศจะมีสองสีให้เลือกคือสี ดำและสีขาว โดยยังเน้นเป็นคอนเซ็บเดิมคือ เป็น PDA Phone ที่เน้านการใช้งานเรื่อง GPS และมีความสามารถด้าน PDA Phone ในแบบ Windows Mobile ครบถ้วน ตัวเครื่องเป็นพลาสติกทั้งตัว ด้านหน้าของโทรศัพท์เป็นหลักใช้หน้าจอ 3.5 นิ้วขนาดใหญ่แสดงผลหน้าจอที่มีความละเอียด WVGA ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile 6.5.3 สนับสนุนหน้าจอสัมผัสซึ่งใช้เทคโนโลยีหน้าจอแบบ resistive ซึ่งยังไม่เป็น Capacitive แบบในเครื่องหลายรุ่นในปัจจุบัน แต่ประโยชน์ที่จะตามมาสำหรับหน้าจอแบบนี้ก็คือ มันสามารถใช้ Stylus จิ้มได้ครับ
กล้อง 5 ล้านพิกเซลในเครื่องรุ่นนี้ ถือว่าเป็นกล้องที่ละเอียดที่สุดตั้งแต่ที่ทาง Garmin Asus ทำมา ไม่มี Flash แต่มี Auto Focus ให้มาครบถ้วน ฟังก์ชันกล้อง, M10 นอกจากจะ 5 ล้านพิกเซล ยังมี ancestry GPS ที่สมบูรณ์เพื่อความสามารถจับพิกัดทางภูมิศาสตร์ของ GPS ใส่แท็กตำแหน่งรูปภาพ โดยขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์หรือใช้ในการสนับสนุนการใส่แท็กตำแหน่ง นอกจากนั้น M10 ที่แตกต่างจากกล้องโทรศัพท์อื่นๆ คือมีความแตกต่างด้านฟังค์ชั่น White Balance, Self จับเวลา, ผลภาพถ่าย, ชดเชยแสงการถ่ายต่อเนื่อง คือสามารถถ่ายภาพหน้ากว้าง-ภาพหน้าจอซึ่งเป็น 2,592 x 1,552 นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกสูงสุด 800 x MP4 pixel 480 / วิดีโอ H.264, ส่วนลำโพงในเครื่องรุ่นนี้จะใหญ่เป็นพิเศษ โดยมีลำโพงขนาดใหญ่ฝังอยู่ด้านหลังเครื่อง
แบตเตอรี่ในเครื่อง รุ่นนี้ให้มาที่ 1500 mAh Li-ion Battery SBP-23 ซึ่งเค้าได้ทดสอบกันมาแล้วครับว่าคุยใช้งานได้แบบสบายๆ ไม่เจอปัญหาแบตหมดเร็ว หน่วยความจำเครื่องภายในให้มา 4 GB แต่สามารถเพิ่มเติมได้ครับด้วย Micro SD
และ เรื่องที่แปลกใหม่ที่สุดก็คือระบบปฎิบัติการ Windows Mobile 6.5.3 ตัวล่าสุดที่ในตลาดเวลานี้ยังไม่มีเครื่องใดใช้กันเลย ซึ่งในระบบปฎิบัติการนี้สิ่งที่เห็นแตกต่างกันได้ชัดก็คือ เมนูด้านล่างในแต่ละโปรแกรมจะมีเมนูคำสั่งเพิ่มเติม และมี icon ขนาดใหญ่ขึ้น เช่นปุ่ม ok หรือ ปิดโปรแกรม เพื่อแก้ปัญหาในเวอร์ชั่นก่อนๆที่คนมักจะบ่นว่า หากเวลาใช้งานแล้วไม่ได้ใช้ Stylus จิ้มแต่ใช้นิ้วจิ้มแทน มันจะจิ้มได้ลำบาก
สำหรับใครที่กำลังสนใจเครื่องรุ่นนี้อยู่อดใจรอ ครับ อีกนิ๊ดเดียว เพราะมันกำลังจะเริ่มวางขายในเมืองไทยไม่นานนี้แล้วครับ ส่วนราคาที่ผมได้แว่วๆมาเห็นว่าไม่แรงครับ แต่หากเทียบกับลูกเล่นที่ได้มาทั้งหมดก็ถือว่าค่อนข้างคุ้มค่าทีเดียวเลยหละ ครับ
http://www.eprice.com.tw