สรุปราคา ไอโฟน 4S (iPhone 4S) จากทรูมูฟ เอช
Truemove H iPhone 4S : สรุปราคา ไอโฟน 4S (iPhone 4S) จากทรูมูฟ เอช (Truemove H) พร้อมแพ็กเกจ และโปรโมชั่น ไอโฟน 4S (iPhone 4S) ที่น่าสนใจ อัพเดทล่าสุด [1-ก.ค.55]
สำหรับราคา ไอโฟน 4S (iPhone 4S) จาก ทรูมูฟ เอช (Truemove H iPhone 4S) นี้ ถือว่า ไม่ได้แตกต่างจาก 2 โอเปอร์เรเตอร์ที่เหลือครับ แต่ถือว่า ค่ายนี้ มีแพ็กเกจ 3G ที่น่าสนใจกว่าที่อื่นๆ ก่อนจะไปดูแพ็กเกจ เรามาดูราคา ไอโฟน 4S (iPhone 4S) จาก ทรูมูฟ เอช (Truemove H iPhone 4S) กันก่อนครับ
สำหรับบทความนี้ จะเป็นบทความสรุป ราคา ไอโฟน 4S (iPhone 4S) และโปรโมชั่น จากทรูมูฟ เอช (Truemove H iPhone 4S) นะครับ ถ้าหากว่า ทาง ทรูมูฟ เอช (Truemove H) มีอัพเดทราคา ไอโฟน 4S (iPhone 4S) หรืออัพเดทโปรโมชั่น ไอโฟน 4S (iPhone 4S) ใหม่ๆ สามารถติดตามได้ที่หน้านี้ครับ
ราคา ไอโฟน 4S (iPhone 4S) และ โปรโมชั่น ไอโฟน 4S (iPhone 4S) จากทรูมูฟ เอช (Truemove H iPhone 4S) กับสิทธิ์ผ่อนสบายๆ 0% นาน 10 เดือน
สำหรับราคา ไอโฟน 4S (iPhone 4S) ที่ได้ชื่อว่า ถูกกว่า 2 โอเปอร์เรเตอร์ที่เหลือ แต่ก็ไม่ได้ถูกกว่ามาก แค่หลัก 100 หรือ 200 เท่านั้น ฉะนั้น เราควรสนใจกันที่แพ็กเกจจะดีกว่าครับ ซึ่งทรูมูฟ เอช (Truemove H iPhone 4S) นั้น ได้ชื่อว่า มีพื้นที่ให้บริการ 3G+ ครอบคลุมทั่วประเทศมากที่สุดแล้ว อีกทั้งยังมีจุดสัญญาณ True Wi-Fi มากที่สุดด้วย ต่างจาก Dtac ที่มีให้ทดลองเล่นเป็นบางจุดเท่านั้น ในขณะที่ AIS ยังไม่มีสัญญาณ Wi-Fi ครับ
แพ็กเกจ ไอโฟน 4S (iPhone 4S) จาก ทรูมูฟ เอช (Truemove H iPhone 4S)
สำหรับแพ็กเกจ ไอโฟน 4S (iPhone 4S) จาก ทรูมูฟ เอช (Truemove H iPhone 4S) มีให้เลือก 2 แบบครับ นั่นก็คือ แพ็กเกจ iPhone ปกติ กับแพ็กเกจ iPhone ไม่อั้นแบบจุใจ ซึ่งแพ็กเกจ iPhone ปกตินั้น มีให้เลือก 3 แบบ คือ S M และ L ที่มีจุดที่น่าสนใจ นั่นก็คือ มีส่วนลดค่าบริการรายเดือนนานถึง 18 เดือน หรือ ปีครึ่งกันเลยทีเดียว จากนั้น ก็จะฟรีค่าบริการรายเดือนไปถึง 6 รอบบิล ในขณะที่การใช้งาน 3G นั้น จะจำกัดที่ 3GB (เฉพาะ M และ L) เมื่อครบแล้ว จะเหลือความเร็วที่ 64Kbps ครับ
สรุปก็คือ แพ็กเกจ S M และ L นี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตบ้าง เล่น Facebook เช็คอีเมล LINE หรือ WhatsApp แต่เน้นที่โทรออกเยอะเสียส่วนใหญ่ ส่วนผู้ที่ใช้งาน 3G เยอะ คงจะไม่เหมาะกับแพ็กเกจนี้ซักเท่าไหร่ครับ
มาต่อกันที่แพ็กเกจระดับ Hardcore ทั้งด้านการโทร และเล่นอินเตอร์กันบ้างครับ กับ Free Size, XL และ XXL ถึงแม้ว่า แพ็กเกจนี้จะไม่ได้รับส่วนลดค่าบริการรายเดือนเหมือนกับแพ็กเกจแรก แต่ก็สามารถเล่น Wi-Fi ได้ไม่จำกัดทุกแพ็กเกจ (ถ้าหากอยู่ในพื้นที่ให้บริการ) ซึ่ง Free Size เหมาะสำหรับผู้ที่โทรไม่เยอะ เล่นอินเทอร์เน็ตแบบปกติ ในขณะที่ XL และ XXL เน้นการใช้งานแบบเต็มที่ ทั้งโทร และเล่นอินเทอร์เน็ตครับ ซึ่งความแตกต่างระหว่าง XL และ XXL อยู่ที่จำนวน data ครับ โดย XL จำกัดที่ 2GB ส่วน XXL จำกัดที่ 5GB ถ้าหากใช้ data ครบแล้ว จะถูกลดความเร็วเหลือ 128Mbps
นอกจากนี้ แพ็กเกจ Free Size นั้น ค่าบริการส่วนเกิน 3G+/EDGE/GPRS อยู่ที่ 2 บาท/MB ฉะนั้น จะต้องควบคุมการใช้งานให้ดีๆ นะครับ
ปิดท้ายบทความด้วยคำพูดเดิมๆ นั่นก็คือ เพื่อความแน่ใจ ให้สอบถามข้อมูลจากพนักงานก่อนเสมอ เพื่อจะได้ใช้งานแพ็กเกจได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดครับ
ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ จาก Techmoblog