เคล็ดลับใช้เครื่องอบผ้า หมดห่วงเรื่องความชื้น เสื้อผ้าแห้งได้สมใจ
ในช่วงฤดูฝนเช่นนี้ เครื่องอบผ้าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้เสื้อผ้าแห้งสะอาด ไร้กลิ่นอับชื้นได้โดยไม่ต้องง้อแสงแดด ช่วยให้ผู้บริโภคจัดสรรเวลาในการใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิตอลที่มีเวลาจำกัดในการทำงานบ้านรวมถึงการทำความสะอาดเสื้อผ้า แต่การใช้เครื่องอบผ้านั้นต้องมีเคล็ดลับเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้งานเครื่องอบผ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเสื้อผ้าแห้งสะอาด นุ่มฟู และสวมใส่สบาย แม้ในวันที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ
- ติดตั้งเครื่องอบผ้าโดยเว้นระยะห่างจากผนัง 30-50 ซม. เพื่อเว้นพื้นที่ให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ดี ป้องกันการเกิดปัญหาอุณหภูมิของเครื่องอบผ้าร้อนจัดเกินไปขณะทำงาน
- แยกผ้าต่างประเภทออกจากกัน เช่น ผ้าเนื้อบางและผ้าเนื้อหนา เนื่องจากระยะเวลาในการอบผ้าต่างกัน และใช้โปรแกรมอุณหภูมิความร้อนในการอบต่างกัน เช่น การอบผ้าเนื้อบางควรใช้อุณหภูมิความร้อนที่น้อยกว่าการอบผ้าเนื้อหนา เป็นต้น
- ไม่ใส่ผ้าเยอะเกินไปจนแน่นถังอบ เพราะจะทำให้เครื่องอบผ้าทำงานหนักจนเกินไป และควรใส่ลงไปในเครื่องอบผ้าทีละชิ้นแทนที่จะใส่พร้อมกันในคราวเดียว เพื่อลดปัญหาผ้าพันกันระหว่างการอบผ้า
- อ่านคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลผ้าบนฉลากของเสื้อผ้า ตรวจสอบฉลากคำแนะนำการดูแลผ้าว่าเหมาะสมกับการนำไปอบหรือไม่ เพื่อป้องกันการหดตัวหรือเกิดความเสียหายกับเสื้อผ้า โดยเฉพาะเนื้อผ้าที่มีความบอบบางเป็นพิเศษ เช่น ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ เป็นต้น
- เลือกโปรแกรมให้เหมาะสมกับชนิดของผ้า นอกจากการแยกผ้าตามชนิดแล้ว ควรเลือกโปรแกรมการอบให้เหมาะสมกับชนิดผ้านั้นๆ เพื่อป้องกันการชำรุดหรือความเสียหายต่างๆ ที่เกิดจากระดับความร้อนที่ใช้ในการอบผ้า
- ใช้ชั้นวาง Rack Dry ในการอบผ้าเนื้อบาง ซึ่งเป็นการอบผ้าด้วยการผึ่งเสื้อผ้าไว้บนชั้นวางที่เป็นพื้นราบโดยไม่ใช้การปั่น เหมาะแก่การอบผ้าที่มีผ้าเนื้อบาง เช่น ชุดชั้นใน เป็นต้น
อีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามคือการดูแลทำความสะอาดเครื่องอบผ้าอย่างสม่ำเสมอ นอกจากเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลเสื้อผ้าให้แห้งสะอาดและนุ่มฟูแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น และต่ออายุการใช้งานในระยะยาวอีกด้วย โดยแอลจีได้รวบรวมวิธีทำความสะอาดเครื่องอบผ้าเพื่อการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนี้
- ทำความสะอาดแผ่นกรองใยผ้าหลังใช้งาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดระยะเวลาและการใช้พลังงานในการอบผ้า
- เทน้ำในช่องเก็บน้ำทิ้งทุกครั้งหลังใช้งาน หรือเมื่อเครื่องมีสัญญาณไฟเตือนให้เทน้ำออก โดยควรเทน้ำในช่องเก็บน้ำออกภายในเวลา1 ชั่วโมง
- เช็ดทำความสะอาดเซ็นเซอร์วัดความชื้น โดยใช้ฟองน้ำชนิดหยาบและหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุขัดถู เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการอบผ้าและลดการสะสมของตะกรันหินปูนบนผิวหน้าของเซ็นเซอร์
- ทำความสะอาดตะแกรงช่องอากาศเย็น 3-4 ครั้งต่อปี เพื่อให้แน่ใจว่ามีการสะสมของใยผ้าหรือสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เกิดปัญหาในการหมุนเวียนของอากาศ หากมีฝุ่นหนา ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดแทน